World Chain จากผู้สร้าง ChatGPT บล็อกเชนที่ออกแบบมาสำหรับมนุษย์

คุณเคยรู้สึกไหมว่าในโลกคริปโทเคอร์เรนซีกำลังแข่งขันอยู่กับกองทัพ AI ไม่ว่าจะเป็นค่าธรรมเนียมที่พุ่งสูงไปจนถึง การทำ Airdrop ที่ไม่เป็นธรรม เพราะ AI และ บอทต่างๆ สร้างความได้เปรียบเหนือมนุษย์อยู่เสมอ ซึ่งจะเกิดอะไรขึ้นหากมีบล็อกเชนที่ออกแบบมาเพื่อให้คุณสามารถแข่งขันและชิงความได้เปรียบกลับมา และนั้นก็คือ World Chain โปรเจ็กต์คริปโตใหม่ที่สร้างขึ้นจากแนวคิดสุดล้ำ ที่ให้ความสำคัญกับมนุษย์อย่างแท้จริง ทั้งยังมาพร้อมกับเทคโนโลยีการเพื่อยกระดัการแข่งขันให้เท่าเทียมกัน ในบทความนี้จะพาทุกคนไปทำความรู้ World Chain ที่จะทำให้ทุกคนได้เดินทางสู่เทคโนโลยีกระจายอำนาจอย่างเต็มรูปแบบที่จะส่งผลดีต่อระบบนิเวศบล็อกเชน

World Chain คืออะไร

World Chain เป็นบล็อกเชน Layer 2 บนเครือข่าย Ethereum รองรับการเติบโตผ่านระบบนิเวศ Superchain ทำหน้าที่เป็นบล็อกเชนสำหรับ “มนุษย์อย่างแท้จริง” ทั้งยังเป็น Open-source ที่ทำให้ทุกคนสามารถเข้าถึงการใช้งานบนบล็อกเชนได้ (Permissionless) ที่มอบประโยชน์มากขึ้นด้วย ต้นทุนค่าธรรมเนียมต่ำ มีโปรแกรม World Community Grants เพื่อสนับสนุนนักพัฒนาให้สร้างแอปพลิเคชันที่ช่วยให้ชีวิตประจำวันง่ายขึ้น และระบบนิเวศสำหรับแอปพลิเคชันและเชื่อมต่อสำหรับชีวิตประจำวัน

World Chain พัฒนาโดยทีมงานเบื้องหลัง Worldcoin ก่อตั้งโดย Sam Altman ซีอีโอของ OpenAI พร้อมด้วย Max Novendstern และ Alex Blania มีเป้าหมายที่จะเป็นแพลตฟอร์มที่ทำให้ผู้คนทั่วไปสามารถเข้าถึง และใช้แอปพลิเคชันสกุลเงินดิจิทัลได้ง่ายยิ่งขึ้น มีแนวคิดสร้างเครือข่ายที่ให้ความสำคัญกับธุรกรรมจากผู้ใช้ที่ได้รับการแยกออกมาอย่างชัดเจนว่าเป็นมนุษย์ มุ่งหวังที่จะมอบประสบการณ์ที่ยุติธรรมและเป็นมิตรต่อผู้ใช้มากขึ้น ซึ่งถือเป็นส่วนสำคัญของระบบนิเวศ Worldcoin ที่จะช่วยให้การใช้โทเคน WLD สะดวกยิ่งขึ้น และเปิดใช้งานแอปพลิเคชันแบบกระจายอำนาจ (dApps)

เทคโนโลยีสำคัญของ World Chain คืออะไร?

World Chain ถูกสร้างขึ้นเป็นความสามารถการปรับขนาด (scalability) ของ Layer 2 บนเครือข่าย Ethereum เป็นโซลูชันที่ช่วยให้เครือข่ายสามารถทำธุรรกรมได้จำนวนมหาศาลเร็วขึ้น ทั้งยังสืบทอดความปลอดภัยพื้นฐานของ Ethereum และอีกส่วนที่สำคัญคือ World Chain สร้างขึ้นบน Superchain (แพลตฟอร์มบล็อกเชนแบบกระจายอำนาจ ซึ่งประกอบด้วยเครือข่ายมากมายที่แบ่งปันความปลอดภัยและเทคโนโลยี stack หรือ OP Stack ของ Optimism) ด้วยการทำงานสำคัญดังนี้

— Optimistic Rollups: World Chain จะรวมธุรกรรมหลายรายการเข้าด้วยกัน ประมวลผลนอกเครือข่ายแล้วค่อยส่ง ไปยัง Ethereum วิธีนี้ช่วยเพิ่มความเร็วของธุรกรรมได้อย่างมากและลดค่าธรรมเนียมเมื่อเทียบกับการทำธุรกรรมโดยตรงบน Ethereum

— ทำงานร่วมกันได้กับ EVM: World Chain ถูกสร้างขึ้นบน OP Stack จึงเข้ากันได้ กับ Ethereum Virtual Machine (EVM) ซึ่งทำให้ผู้พัฒนาสามารถนำ smart contract และ dApps ของ Ethereum ที่มีอยู่ไปใช้งานบน World Chain ได้อย่างง่ายดายโดยมีการเปลี่ยนแปลงเพียงเล็กน้อย

— ทำงานบน Superchain: World Chain มีจุดมุ่งหมายเพื่อเป็นส่วนหนึ่งขอ “Superchain” ของ Optimism ซึ่งเป็นเครือข่าย L2 ที่เชื่อมต่อกันซึ่งสร้างขึ้นบน OP Stack สามารถสื่อสารและโต้ตอบกันได้อย่างราบรื่น

จุดเด่นของ World Chain

World Chain ให้ความสำคัญกับผู้ใช้ที่เป็นมนุษย์ ซึ่งทำได้โดยการผสานเข้ากับ World ID ประกอบด้วย:

— ให้ความสำคัญกับ Blockspace สำหรับมนุษย์ ในส่วนนี้เป็นการให้ความสำคัญในการระบุ “ความเป็นมนุษย์” ที่ให้ “Fast Pass” พิเศษแก่ผู้คนที่พิสูจน์ตัวตนแล้วว่าเป็นมนุษย์จริงโดยใช้ World ID (ซึ่งก็คือการสแกนม่นตา)

— Sybil Resistance: นักพัฒนาบน World Chain สามารถสร้างแอปพลิเคชันที่ทนทานต่อภัยคุกคามด้านความปลอดภัยในโลกออนไลน์ (Sybil attacks) โดยเฉพาะกับการปลอมแปลงบัญชีปลอมจำนวนมากได้ โดยใช้ประโยชน์จากการพิสูจน์ตัวตนของ World ID วิธีนี้จะทำให้การทำ Airdrop มีความยุติธรรมมากขึ้น การกำกับดูแลที่เชื่อถือได้มากขึ้น และการลดสแปมหรือกิจกรรมของบอตที่หลอกลวง

อ้างอิง : World Chain

— — — — — — — — — — — — — — — — —

หากคุณยังเป็นมือใหม่ ค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมได้ในบทความ “แหล่งความรู้ มือใหม่หัดเทรดคริปโต เริ่มต้นที่นี่” แล้วมาเริ่มต้นเทรดได้วันนี้ที่ Bitkub Exchange → คลิกสมัครเลย

— — — — — — — — — — — — — — — — —

คำเตือน:

- คริปโทเคอร์เรนซีและโทเคนดิจิทัลมีความเสี่ยงสูง ท่านอาจสูญเสียเงินลงทุนได้ทั้งจํานวน โปรดศึกษาและลงทุนให้เหมาะสมกับระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้

- ผลตอบแทนของสินทรัพย์ดิจิทัลในอดีตหรือผลการดําเนินงานในอดีต มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลตอบแทน ของสินทรัพย์ดิจิทัลหรือผลการดําเนินงานในอนาคต

— — — — — — — — — — — — — — — — —

Introducing World Chain: The New ‘Proof-of-Humanity’ Blockchain from Sam Altman

Ever feel like you’re competing against an army of AI in the crypto world? From soaring gas fees to unfair airdrops, AI and bots always seem to have the upper hand over real people.

But what if there was a blockchain designed to help you compete — and win back the advantage?

That’s the idea behind World Chain, a new crypto project built on a radical concept: putting humans first. In this article, we’ll dive into World Chain how this journey into truly decentralized technology could create a better blockchain ecosystem for everyone.

What is World Chain?

World Chain is a new Layer 2 blockchain built on Ethereum and integrated with the Superchain ecosystem for scalability. It’s designed from the ground up to be a network for “identifying humans.” As an open-source and permissionless platform, it guarantees open access for everyone while offering the advantage of lower gas fees.

To foster innovation, World Chain offers the World Community Grants program to encourage developers to create practical, real-world applications. The goal is to build a vibrant ecosystem of apps that integrate seamlessly into our daily lives.

The project is spearheaded by the same team that created Worldcoin, co-founded by Sam Altman (CEO of OpenAI), Max Novendstern, and Alex Blania. Their vision for World Chain is to simplify how everyday people interact with crypto applications. By prioritizing transactions from verified humans over automated bots, the network aims to provide a more equitable and intuitive user experience. It’s a foundational piece of the Worldcoin ecosystem, designed to enhance the utility of the WLD token.

What is the Core Technology Behind World Chain?

World Chain is built as a Layer 2 scalability solution on top of the Ethereum network. This approach allows the network to process a massive number of transactions much faster while still inheriting Ethereum’s foundational security. A key aspect is that World Chain is built on the Superchain (a decentralized blockchain platform composed of many networks that share security and Optimism’s tech stack, or OP Stack).

Here are the key technologies that make it work:

— Optimistic Rollups: To boost speed and cut costs, World Chain uses Optimistic Rollups. It takes large batches of transactions, processes them efficiently off-chain, and then sends a compressed summary to the main Ethereum network. This results in significantly faster and cheaper transactions for users.

— EVM Compatibility: World Chain’s foundation on the OP Stack makes it fully compatible with the Ethereum Virtual Machine (EVM). For developers, this means they can easily migrate their existing Ethereum smart contracts and decentralized apps (dApps) to World Chain, requiring little to no modification.

— Superchain Integration: The vision for World Chain is to be an integral part of Optimism’s “Superchain.” This is a cohesive network of Layer 2 chains all built on the OP Stack, designed to allow for seamless communication and interoperability between them.

What Makes World Chain Stand Out?

World Chain prioritizes verified human users by integrating directly with World ID. This creates several unique advantages:

— Prioritized Blockspace for Humans: Identify humans get a kind of “fast pass” for their transactions. By proving you’re a real person with a World ID (via an iris scan), your activity on the network is given priority.

— Sybil Resistance: Developers on World Chain can build applications that are naturally resistant to Sybil attacks, where one entity creates countless fake accounts. By leveraging World ID’s proof-of-personhood, dApps can ensure fairer airdrops, more reliable governance, and a significant reduction in spam and bot activity.

Reference: World Chain

— — — — — — — — — — — — — — — — —

New to crypto? Learn the ropes with our beginner’s guide, ‘Crypto Knowledge for beginners’. When you’re ready, take the next step and start trading today at Bitkub Exchange. Click here to apply!

— — — — — — — — — — — — — — — — —

Disclaimer:

— Cryptocurrency and digital tokens involve high risks; investors may lose all investment money and should study information carefully and make investments according to their own risk profile.

— Past Returns does not guarantee future returns/performance.