บทความ

รวมโปรพิเศษ! บูทบิทคับ เอ็กเชนจ์ ในงาน BITKUB SUMMIT 2025

Bitkub Privilege คืออะไร ? Bitkub Privilege โปรแกรมสิทธิพิเศษสำหรับผู้ใช้งาน Bitkub Exchange ที่จะได้รับ “คะแนน (KUB Gem)” และสิทธิประโยชน์ต่างๆ มากมาย โดยสิทธิประโยชน์จะแตกต่างกันไปตาม “ระดับสมาชิก (Tier)” ซึ่งกำหนดโดยปริมาณการเทรด (Trading Volume) ใน 365 วันที่ผ่านมา ปลดล็อกประสบการณ์และของรางวัลสุดพิเศษที่คัดสรรมาเพื่อไลฟ์สไลต์ของคุณได้โดยเฉพาะ ตรวจสอบ Bitkub Privilege ของตัวเองได้อย่างไร ? Bitkub Privilege สามารถตรวจได้ผ่านการเข้าสู่ระบบบัญชี Bitkub ใช้งานผ่านเว็บไซต์ bitkub.com และ แอปพลิเคชัน Bitkub โดยสามารถทำตามขั้นตอนได้ดังนี้ สำหรับแอปพลิเคชัน เมื่อเปิดแอปพลิเคชัน Bitkub ด้านบนสุดจะพบกับรายละเอียด Bitkub Privilege หรือ กดเลือกแท็ปด้านล่างที่โปรไฟล์ สำหรับเว็บไซต์ สามารถเข้าสู่ระบบ จากนั้นเลือกแท็ปคำว่า “Privilege” จะพบหน้าหลักของ Bitkub Privilege จากนั้นเลือกสิทธิพิเศษของฉันจะพบกับรายละเอียด Bitkub Privilege Bitkub Privilege มีการจัดระดับสมาชิอย่างไร ? ระดับ Basic: เมื่อเปิดบัญชีสำเร็จและยังไม่ได้ยืนยันตัวตน ระดับ Emerald: ยืนยันตัวตนสำเร็จและมียอดเทรดสะสมตลอด 365 วันที่ผ่านมาอยู่ระหว่าง 0–999,999 บาท ระดับ Silver: ยืนยันตัวตนสำเร็จและมียอดเทรดสะสมตลอด 365 วันที่ผ่านมาอยู่ระหว่าง 1,000,000–9,999,999 บาท ระดับ Gold: ยืนยันตัวตนสำเร็จและมียอดเทรดสะสมตลอด 365 วันที่ผ่านมาอยู่ระหว่าง 10,000,000–99,999,999 บาท ระดับ Diamond: ยืนยันตัวตนสำเร็จและมียอดเทรดสะสมตลอด 365 วันที่ผ่านมาอยู่ระหว่าง 100,000,000–499,999,999 บาท ระดับ Satoshi: ยืนยันตัวตนสำเร็จและมียอดเทรดสะสมตลอด 365 วันที่ผ่านมาตั้งแต่ 500,000,000 บาทขึ้นไป อย่างไรก็ตามหากมียอดสะสมจากการเทรไม่ถึงไม่ถึงเกณฑ์ปัจจุบัน โดยจะปรับทุกๆ สิ้นไตรมาศวันที่ 31 มีนาคม, 30 มิถุนายน, 30 กันยายน, 31 ธันวาคม KUB Gem คืออะไร ? KUB Gem เป็น คะแนนที่ลูกค้าจะได้รับจากการซื้อ-ขายสินทรัพย์ดิจิทัลผ่าน Bitkub Exchange โดยจะได้รับตามอัตราที่กำหนด ลูกค้าสามารถนำ KUB Gem ไปแลกรับสิทธิพิเศษหรือบริการในเครือบิทคับหรือบริษัทพันธมิตรได้ 100 KUB Gem เท่ากับ 1 บาท คำนวณจาก : (ยอดเทรดจริงที่หักค่าจากการใช้เครดิตค่าธรรมเนียม x ค่าธรรมเนียม) x %อัตราการได้รับ KUB Gem x 100 = KUB Gem อัตราการได้รับ KUB Gem (%การได้รับ KUB Gem) –ยอดเทรดสะสม 365 วันที่ผ่านมา* อยู่ระหว่าง 0–999,999 บาท % อัตราการได้รับ KUB Gem จะได้รับที่ 0.5% –ยอดเทรดสะสม 365 วันที่ผ่านมา* อยู่ระหว่าง 1,000,000–9,999,999 บาท % อัตราการได้รับ KUB Gem จะได้รับที่ 0.7% –ยอดเทรดสะสม 365 วันที่ผ่านมา* อยู่ระหว่าง 10,000,000–99,999,999 บาท % อัตราการได้รับ KUB Gem จะได้รับที่ 1% –ยอดเทรดสะสม 365 วันที่ผ่านมา* อยู่ระหว่าง 100,000,000–499,999,999 บาท % อัตราการได้รับ KUB Gem จะได้รับที่ 1.5% –ยอดเทรดสะสม 365 วันที่ผ่านมา* ตั้งแต่ 500,000,000 บาทขึ้นไป %อัตราการได้รับ KUB Gem จะได้รับที่ 2% *ยอดเทรดจริงที่หักค่าจากการใช้เครดิตค่าธรรมเนียม ตัวอย่าง : (1) การคำนวณยอดเทรดจริงที่หักค่าจากการใช้เครดิตค่าธรรมเนียม ลูกค้าเทรด 1,000,000 บาท และมีการใช้เครดิตค่าธรรมเนียม (Fee credit) ไปมูลค่า 200 บาท คำนวณโดย (1,000,000 — (200/0.0025)) หรือ 1,000,000–80,000 ดังนั้นยอดเทรดจริงที่หักค่าจากการใช้เครดิตค่าธรรมเนียม เท่ากับ 920,000 บาท (2) % อัตราการได้รับ KUB Gem : ลูกค้ารายนี้มียอดเทรดสะสม 365 วันที่ผ่านมา (ยอดเทรดจริงที่หักค่าจากการใช้เครดิตค่าธรรมเนียม) อยู่ที่ 800,000 บาท เท่ากับปัจจุบันลูกค้ารายนี้ได้รับ %อัตราการได้รับ KUB Gem ที่ 0.5% วิธีการคำนวณ ยอดเทรด 920,000 บาทของลูกค้ารายนี้ จะถูกคำนวณด้วย % อัตราการได้รับ KUB Gem 2 อัตราเนื่องจากถึงเกณฑ์ที่กำหนดในการได้ระดับถัดไป (199,999 x ค่าธรรมเนียม 0.25%) x 0.5% x 100 เท่ากับ 250 KUB Gem (720,001 x ค่าธรรมเนียม 0.25%) x 0.7% x 100 เท่ากับ 1,260 KUB Gem ยอดเทรด 920,000 บาทของลูกค้ารายนี้จะได้รับทั้งหมด 1,510 KUB Gem อย่างไรก็ตาม KUB Gem ที่ได้รับในไตรมาสใด จะหมดอายุ ณ สิ้นไตรมาสนั้น (31 มีนาคม, 30 มิถุนายน, 30 กันยายน, 31 ธันวาคม) ในอีก 2 ปีถัดไป เช่น คะแนนสะสมที่เกิดจากค่าใช้บริการในไตรมาสที่ 3 ของปี 2566 จะหมดอายุ 30 ก.ย. 2568, คะแนนสะสมที่เกิดจากการซื้อ-ขายในไตรมาสที่ 4 ของปี 2566 จะหมดอายุ 31 ธ.ค. 2568 ทั้งนี้ KUB Gem หมดอายุลงแล้วจะไม่สามารถใช้แลกรับสินค้า หรือบริการ หรือแลกเป็นส่วนลดในการซื้อสินค้าและบริการของร้านค้าที่ร่วมโครงการ Bitkub Privilege ได้ คำเตือน คริปโทเคอร์เรนซีและโทเคนดิจิทัลมีความเสี่ยงสูง ท่านอาจสูญเสียเงินลงทุนได้ทั้งจํานวน โปรดศึกษาและลงทุนให้เหมาะสมกับระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้ — — — — — — — — — The Bitkub Privilege Program: Maximize Your Trading & Earn KUB Gem Rewards What is Bitkub Privilege? The Bitkub Privilege is an exclusive benefits programme for users of the Bitkub Exchange. Participants will earn “KUB Gems” (points) and gain access to a variety of privileges. The specific benefits are determined by the member’s “Tier,” which is calculated based on their total trading volume over the preceding 365 days. This programme is designed to provide exceptional experiences and tailored rewards that fit your lifestyle. How to Check Your Bitkub Privilege Status You can verify your Bitkub Privilege status by logging into your Bitkub account through the official website, bitkub.com, or via the Bitkub Application. –Via the Application: When you open the Bitkub Application, the details of your Bitkub Privilege will be displayed at the top of the screen or tap profile. –Via the Website: Log in to your account, then select “Privilege” . This will take you to the main Privilege page, where you can select “My Privileges” to view your details. Bitkub Privilege Membership Tiers Membership Tiers are determined by your cumulative trading volume over the past 365 days, provided your identity verification is complete: –Basic Tier: Conferred upon the successful establishment of an account, prior to the successful completion of identity verification. –Emerald Tier: Conferred upon successful identity verification, with an aggregate trading volume across the preceding 365 days ranging from 0 to 999,999 THB. –Silver Tier: Conferred upon successful identity verification, with an aggregate trading volume across the preceding 365 days ranging from 1,000,000 to 9,999,999 THB. –Gold Tier: Conferred upon successful identity verification, with an aggregate trading volume across the preceding 365 days ranging from 10,000,000 to 99,999,999 THB. –Diamond Tier: Conferred upon successful identity verification, with an aggregate trading volume across the preceding 365 days ranging from 100,000,000 to 499,999,999 THB. –Satoshi Tier: Conferred upon successful identity verification, with an aggregate trading volume across the preceding 365 days of 500,000,000 THB or greater. It is incumbent upon members to note that should their cumulative trading volume fall below the requisite threshold for their current Tier, the classification shall be subject to adjustment at the conclusion of each quarter, specifically on March 31st, June 30th, September 30th, and December 31st. What are KUB Gem? KUB Gems represent the points accrued by clients through the acquisition and divestment of digital assets via the Bitkub Exchange, awarded at a pre-stipulated rate. Clients are duly entitled to utilise these KUB Gems for the redemption of exclusive privileges or services offered by entities within the Bitkub consortium or by designated corporate partners. KUB Gem Earning Rate (% KUB Gem Earning) –Accumulated trading volume in the past 365 days is between 0–999,999 Baht:* The KUB Gem earning rate will be 0.5%. –Accumulated trading volume in the past 365 days is between 1,000,000–9,999,999 Baht:* The KUB Gem earning rate will be 0.7%. –Accumulated trading volume in the past 365 days is between 10,000,000–99,999,999 Baht:* The KUB Gem earning rate will be 1%. –Accumulated trading volume in the past 365 days is between 100,000,000–499,999,999 Baht:* The KUB Gem earning rate will be 1.5%. –Accumulated trading volume in the past 365 days is 500,000,000 Baht or more:* The KUB Gem earning rate will be 2%. *Actual trading volume after deducting expenses from the use of fee credits Valuation and Calculation: The value of 100 KUB Gems is set as equivalent to 1 THB. This is calculated via the following formula: (Actual Trading Volume net of Fee Credit Utilisation X Transaction Fee Rate}) X KUB Gem Accrual Rate X 100 = KUB Gems Example Calculation: (1) Actual Trading Volume Calculation: A client trades 1,000,000 THB and uses a Fee Credit worth 200 THB. Calculation: (1,000,000 — (200/0.0025)), or 1,000,000–80,000. The Actual Trading Volume (after deduction) is 920,000 THB. (2) KUB Gem Accrual Rate: This client’s cumulative volume (after deduction) over 365 days is 800,000 THB. Their current KUB Gem Accrual Rate is 0.5%. Final Points Calculation: The client’s 920,000 THB trade volume is calculated using two rates because it crosses a tier threshold: (199,999 X Fee Rate 0.25%) X 0.5% X 100 = 250 KUB Gems (720,001 X Fee Rate 0.25%) X 0.7% X 100 = 1,260 KUB Gems The total KUB Gems earned from the 920,000 THB trade is 1,510 KUB Gems. KUB Gem Expiry KUB Gems earned in any given quarter will expire at the end of that quarter, two years later. Example: Points earned in Q3 of 2023 will expire on September 30, 2025. Points earned in Q4 of 2023 will expire on December 31, 2025. Expired KUB Gems cannot be used to redeem products, services, or discounts offered under the Bitkub Privilege programme. Disclaimer: Cryptocurrency and digital tokens involve high risks; investors may lose all investment money and should study information carefully and make investments according to their own risk profile. ทำความรู้จัก BITKUB PRIVILEGE โปรแกรมสิทธิพิเศษ จากยอดการเทรดสะสม was originally published in Bitkub.com on Medium, where people are continuing the conversation by highlighting and responding to this story.

บิทคับ เอ็กซ์เชนจ์ (Bitkub Exchange) คือแพลตฟอร์มให้บริการเกี่ยวกับสินทรัพย์ดิจิทัลที่ได้รับอนุญาตตามกฎหมายและอยู่ภายใต้การกำกับดูแลของสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) โดยปัจจุบันนี้ บริการของบิทคับ เอ็กซ์เชนจ์ครอบคลุมการให้บริการเกี่ยวกับสินทรัพย์ดิจิทัล 2 ส่วนบนกระดานเทรดในแพลตฟอร์มการให้บริการของบิทคับ เอ็กซ์เชนจ์ 1. บริการศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล (Digital Asset Exchange) ลูกค้าสามารถส่งคำสั่งซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลโดยตรงกับผู้ใช้งานท่านอื่น จุดเด่นของบริการนี้คือความโปร่งใสของข้อมูล และการจับคู่คำสั่งซื้อขายจะขึ้นเกิดขึ้นตามปริมาณและสภาพคล่องของคู่เหรียญนั้น ๆ ในตลาด 2. บริการนายหน้าซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล (Digital Asset Broker) เป็นบริการที่บิทคับ เอ็กซ์เชนจ์ ทำหน้าที่เป็นนายหน้าหรือตัวแทนในการซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลให้แก่ลูกค้า จุดเด่นของบริการนี้คือสภาพคล่องสูงและมีสินทรัพย์ดิจิทัลที่หลากหลายที่ยังไม่มีให้บริการผ่านบริการศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล (Digital Asset Exchange) ของเรา เช่น เหรียญมีม (Meme Coin) เป็นต้น ทั้งนี้ ไม่ว่าลูกค้าจะเลือกใช้บริการใด ไม่ว่าจะเป็นบริการศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล (Digital Asset Exchange) หรือบริการนายหน้าซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล (Digital Asset Broker) บริการทั้งสองต่างให้บริการอยู่บนกระดานเทรดเดียวในแพลตฟอร์มการให้บริการของบิทคับ เอ็กซ์เชนจ์ ลูกค้าจึงสามารถเข้าถึงและซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลทั้งหมดได้ในที่เดียวอย่างสะดวกสบาย รวดเร็ว และมีประสิทธิภาพ โดยเงื่อนไขการให้บริการยังคงเป็นไปตามข้อตกลงผู้ใช้บริการที่ได้มีการประกาศไว้บนเว็บไซต์ของบิทคับ เอ็กซ์เชนจ์ (ลูกค้าสามารถศึกษารายละเอียดและเงื่อนไขข้อตกลงผู้ใช้บริการได้ที่ ข้อตกลงผู้ใช้บริการ) ทั้งนี้ หากลูกค้าประสงค์จะดูรายชื่อสินทรัพย์ดิจิทัลของแต่ละบริการ สามารถดูผ่านบทความต่อไปนี้ — รายชื่อเหรียญ Exchange บนบิทคับ เอ็กซ์เชนจ์ คำเตือน คริปโทเคอร์เรนซีและโทเคนดิจิทัลมีความเสี่ยงสูง ท่านอาจสูญเสียเงินลงทุนได้ทั้งจํานวน โปรดศึกษาและลงทุนให้เหมาะสมกับระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้ การให้บริการของแพลตฟอร์ม Bitkub Exchange was originally published in Bitkub.com on Medium, where people are continuing the conversation by highlighting and responding to this story.

นิยามเหรียญบน Bitkub ฉบับเร่งรัด

เป็นเวลาหลายศตวรรษที่ทองคำเป็นสินทรัพย์สำคัญที่สร้างความมั่นคงและมั่งคั่ง เป็นแหล่งสะสมมูลค่าที่เชื่อถือได้ โดยในปัจจุบันโลกการเงินดิจิทัล สินทรัพย์เก่าแก่นี้ได้ค้นพบที่อยู่ใหม่ที่ทันสมัยบนบล็อกเชน คือ การแปลงสินทรัพย์ในโลกแห่งความเป็นจริงให้เป็นโทเคน คือ Tether Gold (XAUT) ซึ่งเป็นสกุลเงินดิจิทัลที่ผสานความเสถียรของทองคำแท่งเข้ากับประสิทธิภาพของสินทรัพย์ดิจิทัล บทความนี้จะพาไปทำความรู้จัก stablecoin ที่ตรึงมูลค่าเอาไว้ด้วยทองคำ Tether Gold คืออะไร? Tether Gold (XAUT) เป็นสินทรัพย์ดิจิทัลที่ออกโดย Tether มีทองคำแท่งจริงหนุนหลังแบบ 1:1 ที่ถูกจัดเก็บไว้อย่างปลอดภัยในห้องนิรภัยของบริษัท Tether ในสวิตเซอร์แลนด์ โดย 1 XAUT มีมูลค่าเทียบเท่าทองคำบริสุทธิ์ 1 ทรอยออนซ์ (ประมาณ 31.1034 กรัม หรือเท่ากับทอง 2.04 บาทไทย) ราคาของ XAUT อาจผันผวนตามตลาดทองคำโลกและสภาพคล่องของตลาด พูดง่ายๆ คือ XAUT เปลี่ยนความเป็นเจ้าของทองคำให้เป็นดิจิทัล แทนที่จะต้องจัดการกับต้นทุนที่สูง การขนส่งที่ซับซ้อน และข้อจำกัดในการเข้าถึงของการจัดเก็บและขนส่งทองคำแท่งจริง คุณสามารถเป็นเจ้าของโทเคนดิจิทัลที่แสดงถึงส่วนแบ่งของคุณในสินทรัพย์ที่จับต้องได้จริงตามกฎหมาย คุณสมบัติโดดเด่นของ Tether Gold เทคโนโลยีหลักที่อยู่เบื้องหลัง XAUT คือ บล็อกเชน บนเครือข่าย Ethereum และ TRON) ซึ่งช่วยให้มีคุณสมบัติที่เป็นเอกลักษณ์ — ความเป็นเจ้าของโดยตรงและมีการจัดสรร: ผู้ถือ XAUT มีสิทธิ์ความเป็นเจ้าของที่ไม่ได้แบ่งแยกในแท่งทองคำที่เฉพาะเจาะจงผ่านโทเคนของตน Tether มีเครื่องมือค้นหาออนไลน์ที่อนุญาตให้ผู้ใช้ตรวจสอบหมายเลข น้ำหนัก และความบริสุทธิ์ของแท่งทองคำที่เชื่อมโยงกับที่อยู่ของพวกเขา เพื่อให้เกิดความโปร่งใส — การแบ่งส่วนย่อย (Fractionalization): แท่งทองคำจริงมีขนาดใหญ่และมีราคาแพง โทเคน XAUT สามารถแบ่งออกเป็นส่วนย่อยได้ถึงหกตำแหน่งทศนิยม (0.000001 ทรอยออนซ์) ซึ่งช่วยลดอุปสรรคในการเข้าถึงได้อย่างมาก ทำให้ผู้ลงทุนรายย่อยสามารถเข้าร่วมเป็นเจ้าของทองคำได้ — สภาพคล่องและความสามารถในการพกพาตลอด 24/7: ทองคำแบบดั้งเดิมดำเนินการในเวลาจำกัด XAUT สามารถซื้อขาย โอน และจัดเก็บได้ตลอด 24 ชั่วโมงทุกวันบนกระดานแลกเปลี่ยนคริปโตทั่วโลก ทำให้มีสภาพคล่องสูงและง่ายต่อการเคลื่อนย้ายข้ามพรมแดนทันที — ตัวเลือกการแลกทองคำ: ผู้ถือโทเคนสามารถแลก XAUT เป็นทองคำแท่งจริงได้ แม้ว่าโดยปกติแล้วจะต้องมีโทเคนเพียงพอเพื่อครอบคลุมทองคำแท่งเต็มแท่งขั้นต่ำ (ซึ่งอาจมีขนาดแตกต่างกันไป) หรือสามารถจัดการให้ทองคำถูกแปลงเป็นสกุลเงิน Fiat ได้ ทีมผู้พัฒนา Tether Gold คือใคร ? Tether Gold (XAUT) เปิดตัวในปี 2020 โดย TG Commodities Limited เป็นบริษัทในเครือของบริษัทที่เป็นที่รู้จักกันในชื่อ Tether Holdings Limited Tether เป็นองค์กรเดียวกับที่อยู่เบื้องหลัง Stablecoin ที่ผูกกับเงินดอลลาร์สหรัฐที่ใหญ่ที่สุดในโลก คือ USDT ทีมผู้นำเป็นส่วนหนึ่งขององค์กร Tether ที่กว้างขึ้น ซึ่งจดทะเบียนในหมู่เกาะบริติชเวอร์จิน Tether เป็นผู้เล่นหลักในพื้นที่คริปโต โดยขยายข้อเสนออย่างต่อเนื่องนอกเหนือจาก Stablecoin ที่ผูกกับสกุลเงิน Fiat ไปสู่โทเคนที่หนุนด้วยสินทรัพย์จริง เช่น XAUT อุปทาน XAUT และการสำรองทองคำ Tokenomics ของ Tether Gold นั้นเรียบง่ายและต่างจากการจัดสรรโทเคนในโครงการคริปโตทั่วไปโดย เนื่องจาก XAUT เป็น Stablecoin ที่ผูกกับสินทรัพย์จริง จึงไม่มีการจัดสรรส่วนแบ่งสำหรับทีม ผู้ก่อตั้ง หรือการระดมทุนในรูปแบบดั้งเดิม แต่จะใช้กลไกที่เรียกว่า “Mint and Burn” (สร้างและเผา) เพื่อรักษาสมดุลกับทองคำสำรอง — อุปทานแบบไดนามิก (Dynamic Supply): XAUT ไม่มีอุปทานสูงสุดที่ตายตัว ปริมาณโทเคนที่หมุนเวียนอยู่จะเพิ่มขึ้นหรือลดลงตามปริมาณทองคำแท่งที่ถูกเก็บไว้ในห้องนิรภัยของ Tether ในสวิตเซอร์แลนด์เท่านั้น — การหนุนมูลค่าด้วยทองที่อัตรา 1:1: หัวใจสำคัญคือ โทเคน XAUT ทุกโทเคนที่หมุนเวียนอยู่ จะได้รับการหนุนด้วยทองคำแท่งจริงหนึ่งทรอยออนซ์เสมอ — Mint and Burn: (1) การสร้าง (Mint) จะเกิดขึ้นเมื่อนักลงทุนซื้อ XAUT โดยตรงจาก TG Commodities Limited (บริษัทผู้ออก) บริษัทจะทำการซื้อทองคำแท่งจริงและเก็บเข้าคลัง จากนั้นจึงสร้าง (Mint) โทเคน XAUT ใหม่ในจำนวนที่เท่ากันออกมา (2) การเผา (Burn) เมื่อผู้ถือโทเคนทำการแลก XAUT กลับเป็นทองคำแท่งจริงหรือเงินสด โทเคน XAUT เหล่านั้นจะถูกทำลาย (Burn) เพื่อลดอุปทานลง ภาพแสดงปริมาณโทเคน XAUT ที่มีการหมุนเวียนในระบบ ข้อมูลจาก tether.to อัปเดตเมื่อวันที่ 17 ต.ค. 2025 ค่าธรรมเนียมและข้อควรรู้ การซื้อ XAUT ไม่เหมือนกับการซื้อทองคำแท่งหรือทองคำรูปพรรณที่จะมีค่ากำเหน็จ แต่อย่างไรก็ตามการซื้อขาย XAUT จะมีค่าธรรมการทำธุรกรรม เช่น — การซื้อผ่าน Bitkub Exchange จะมีค่าทำธุรกรรมที่อัตรา 0.25% โดยผู้ซื้อสามารถซื้อโทเคนในปริมาณย่อยได้บนกระดาน — หรือหาเป็นการซื้อผ่าน TG Commodities Limited จะคิดค่าธรรมเนียมเพียงครั้งเดียวที่ 0.25% ในขณะที่คุณซื้อหรือแลก XAUT โดยตรงจากบริษัท XAUT จึงมอบทางเลือกที่ทันสมัย ยืดหยุ่น และมีสภาพคล่องสูงในการถือครองทองคำแท่งจริง ในขณะที่ผู้ใช้รายย่อยสามารถเข้าถึงการลงทุนนี้ได้ง่ายขึ้นผ่านกระดานแลกเปลี่ยน ที่ Bitkub Exchange ได้แล้ววันนี้ ที่มา: Tether Gold — — — — — — — — — — คำเตือน: -คริปโทเคอร์เรนซีและโทเคนดิจิทัลมีความเสี่ยงสูง ท่านอาจสูญเสียเงินลงทุนได้ทั้งจํานวน โปรดศึกษาและลงทุนให้เหมาะสมกับระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้ -ผลตอบแทนของสินทรัพย์ดิจิทัลในอดีตหรือผลการดําเนินงานในอดีต มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลตอบแทน ของสินทรัพย์ดิจิทัลหรือผลการดําเนินงานในอนาคต — — — — — — — — — — หากคุณยังเป็นมือใหม่ ค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมได้ในบทความ “แหล่งความรู้ มือใหม่หัดเทรดคริปโต เริ่มต้นที่นี่” แล้วมาเริ่มต้นเทรดได้วันนี้ที่ Bitkub Exchange → คลิกสมัครเลย — — — — — — — — — — What is Tether Gold (XAUT)? The Token Backed 1:1 by Physical Gold Bullion For centuries, gold has been a vital asset, creating stability and wealth, serving as a reliable store of value. Currently, in the world of digital finance, this ancient asset has found a new, modern home on the blockchain through the tokenization of real-world assets: Tether Gold (XAUT). This cryptocurrency merges the stability of physical gold bullion with the efficiency of digital assets. This article will guide you through understanding this stablecoin pegged to gold. What is Tether Gold? Tether Gold (XAUT) is a digital asset issued by Tether, fully backed on a 1:1 basis by physical gold bars. These bars are securely stored in Tether’s vaults in Switzerland. One XAUT is equivalent to one troy fine ounce of gold (approximately 31.1034 grams, or about 2.04 Thai Baht weight of gold). The price of XAUT may fluctuate according to the global gold market and market liquidity. In a nutshell, XAUT takes gold ownership onto the blockchain. This eliminates the need to deal with the high costs and complex hurdles of storing and transporting physical bars. Instead, you hold a digital token that serves as the legal representation of your share in a real, tangible asset. Unique Features of Tether Gold The core technology behind XAUT is the blockchain (on the Ethereum and TRON networks), which enables its unique features: — Direct, Allocated Ownership: XAUT holders have undivided ownership rights to the specific gold bar(s) through their tokens. Tether provides an online lookup tool that allows users to check the number, weight, and purity of the gold bar(s) linked to their address, ensuring transparency. — Fractionalization: A full physical gold bar is large and expensive. XAUT tokens can be divided into increments as small as six decimal places (0.000001 troy ounce), significantly lowering the barrier to entry and allowing small investors to participate in gold ownership. — 24/7 Liquidity and Portability: Traditional gold markets operate on limited hours. XAUT can be traded, transferred, and stored 24/7 on global crypto exchanges, making it highly liquid and easy to move across borders instantly. — Redemption Option: Token holders can redeem XAUT for the actual physical gold, although this typically requires enough tokens to cover a minimum of one full gold bar (which can vary in size). Alternatively, they can arrange for the gold to be liquidated for fiat currency. Who is the Development Team Behind Tether Gold? Tether Gold (XAUT) was launched in 2020 by TG Commodities Limited, a subsidiary of the company famously known as Tether Holdings Limited. Tether is the same entity behind the world’s largest U.S. Dollar-pegged stablecoin, USDT. The leadership team is part of the broader Tether organization, which is registered in the British Virgin Islands. Tether is a major player in the crypto space, continually expanding its offerings beyond fiat-pegged stablecoins into asset-backed tokens like XAUT. XAUT Supply and Gold Reserves The Tokenomics of Tether Gold is straightforward and differs from the token allocation in typical crypto projects. Since XAUT is a Stablecoin backed by a real asset, there is no allocation of shares for the team, founders, or traditional fundraising. Instead, it uses a mechanism called “Mint and Burn” to maintain balance with the gold reserves. — Dynamic Supply: XAUT does not have a fixed maximum supply. The volume of tokens in circulation increases or decreases solely based on the amount of physical gold bars stored in Tether’s vaults in Switzerland. — 1:1 Value Backing with Gold: The core principle is that every XAUT token in circulation is always backed by one troy fine ounce of physical gold. — Mint and Burn: (1) Minting occurs when an investor purchases XAUT directly from TG Commodities Limited (the issuer). The company will purchase and store the actual gold bar, and then mint an equivalent number of new XAUT tokens. (2) Burning occurs when a token holder redeems XAUT for physical gold or cash. Those XAUT tokens are then destroyed (Burned) to reduce the supply. The image displays the circulating supply of XAUT tokens, with data sourced from tether.to, updated on October 17, 2025. Fees and Key Considerations Purchasing XAUT is not the same as buying physical gold or gold ornaments that incur fabrication fees (like kha khamnet in Thai). However, XAUT transactions will involve certain transaction fees, such as: — Buying via Bitkub Exchange will incur a transaction fee at a rate of 0.25%, and buyers can purchase the token in fractional amounts on the exchange. — Buying directly through TG Commodities Limited will incur a single fee of 0.25% at the time you purchase or redeem XAUT directly from the company. XAUT thus offers a modern, flexible, and highly liquid option for holding physical gold bars, while simultaneously allowing small-scale users to easily access this investment through crypto exchanges like Bitkub Exchange today. Reference: Tether Gold — — — — — — — — — — Start your crypto trading journey today! If you’re new to the space, get all the information you need in our guide, “Crypto Trading for Beginners: Start Here.” Ready to trade? Sign up now on Bitkub Exchange → Click to register! — — — — — — — — — — Tether Gold XAUT โทเคนที่มีทองคำจริงหนุนหลัง was originally published in Bitkub.com on Medium, where people are continuing the conversation by highlighting and responding to this story.

ถอดรหัสโลกคริปโทฯ : มาตรฐานการจำแนกหมวดหมู่ ความซับซ้อนของโลกคริปโทเคอร์เรนซี ที่มีโทเคน โปรโตคอล และแอปพลิเคชันกระจายศูนย์มากมาย อาจทำให้รู้สึกท่วมท้น เพื่อนำความชัดเจนมาสู่สินทรัพย์ประเภทใหม่นี้ บริษัท 21Shares และ CoinGecko ได้พัฒนา มาตรฐานการจัดประเภทคริปโตทั่วโลก (GCCS) กรอบงานสามระดับนี้ทำหน้าที่เป็นอนุกรมวิธานอุตสาหกรรมเพื่อจัดหมวดหมู่โครงการและสินทรัพย์คริปโต ช่วยให้ผู้ใช้และนักลงทุนเข้าใจได้อย่างรวดเร็วว่าโครงการใดทำอะไร และอยู่ในส่วนใดของโครงสร้างคริปโตที่ใหญ่กว่า ระดับที่ 1: โครงสร้างคริปโต (The Crypto Stack) โครงสร้างคริปโต เน้นไปที่ชั้นพื้นฐานของเทคโนโลยีที่ประกอบขึ้นเป็นโครงสร้างพื้นฐานหลักของคริปโต โดยจะจัดหมวดหมู่เฉพาะ เครือข่ายหรือโปรโตคอล เท่านั้น ไม่ใช่สินทรัพย์ (โทเคน) ที่อยู่เบื้องหลัง โครงสร้างนี้เสมือนรากฐานและส่วนประกอบหลักได้แก่ฃ — แพลตฟอร์มการชำระเงิน (Payment Platforms) เป็นชั้นพื้นฐานที่เชี่ยวชาญในการโอนมูลค่า เปรียบได้กับเงินสดดิจิทัลหรือสินค้าโภคภัณฑ์ดิจิทัลอย่างทองคำ Bitcoin เป็นตัวอย่างสำคัญของหมวดหมู่นี้ — แพลตฟอร์มสัญญาอัจฉริยะ (Smart Contract Platforms) เป็นบล็อกเชนพื้นฐานที่มีความสามารถในการเขียนโปรแกรมแบบวัตถุประสงค์ทั่วไปในตัว พวกเขาทำหน้าที่เหมือนเมืองหรือชาติรัฐดิจิทัลที่อนุญาตให้ผู้พัฒนาสร้างแอปพลิเคชันได้ เช่น Ethereum และ Solana — แอปพลิเคชันกระจายศูนย์ (dApps) คือผลิตภัณฑ์และบริการขั้นสุดท้าย ซึ่งเป็นแอปพลิเคชันบนเว็บและมือถือที่อนุญาตให้เข้าถึงผลิตภัณฑ์และบริการคริปโตได้อย่างไร้การอนุญาตและทนทานต่อการเซ็นเซอร์ Uniswap และ MakerDAO เป็น dApps ที่โดดเด่น ส่วนประกอบสำคัญอื่น ๆ ได้แก่ Blockchain Accelerators (เช่น Arbitrum) ที่ช่วยปรับขนาดและลดความแออัด และ Oracles (เช่น Chainlink) ที่เชื่อมโยงข้อมูลภายนอกบล็อกเชนเข้ามา ระดับที่ 2: การจัดกลุ่มตลาด (Market Mapping) ระดับที่ 2 จัดหมวดหมู่โปรโตคอลตามประเภทธุรกิจ โดยแบ่งเป็น ภาคส่วน (Sectors) ซึ่งเป็นส่วนขนาดใหญ่ของเศรษฐกิจคริปโต และ อุตสาหกรรม (Industries) ซึ่งเป็นกลุ่มโปรโตคอลที่เฉพาะเจาะจงมากขึ้น — IT Services (บริการด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ): ภาคส่วนนี้เกี่ยวข้องโดยตรงกับการพัฒนาซอฟต์แวร์ อุตสาหกรรมที่อยู่ภายใต้ภาคส่วนนี้รวมถึง Developer Tooling ที่เป็นเครื่องมือช่วยนักพัฒนาในการสร้าง dApps , Auditing and Security ที่เป็นโปรโตคอลช่วยลดความเสี่ยงของสัญญาอัจฉริยะ , และ Wallets ซึ่งเป็นกระเป๋าดิจิทัลที่ผู้ใช้ใช้โต้ตอบกับบล็อกเชนและจัดเก็บสินทรัพย — โครงสร้างพื้นฐาน (Infrastructure): ภาคส่วนพื้นฐานนี้รวบรวมส่วนประกอบหลักที่จำเป็น เช่น แพลตฟอร์มสัญญาอัจฉริยะ, ตัวเร่งบล็อกเชน, และ แพลตฟอร์มการชำระเงิน — การเงินแบบรวมศูนย์ (CeFi): ภาคส่วนนี้เกี่ยวข้องกับโครงสร้างทางการเงินคริปโตที่ยังคงพึ่งพาตัวกลาง บริการมักจะมีการดูแลรักษาทรัพย์สินของลูกค้าหรือสงวนสิทธิ์ในการขึ้นบัญชีดำบัญชี อุตสาหกรรมที่สำคัญ ได้แก่ ศูนย์ซื้อขายแบบรวมศูนย์ (CEXs) และ การแปลงสินทรัพย์เป็นโทเค็น (Tokenization) โดยหน่วยงานรวมศูนย์ (เช่น การออก Stablecoin อย่าง USDC) — การเงินแบบกระจายศูนย์ (DeFi): นี่คือโครงสร้างทางการเงินที่ทำงานบนอินเทอร์เน็ตโดยไม่ต้องพึ่งพาสถาบันรวมศูนย์ ภาคส่วน DeFi มีอุตสาหกรรมย่อยที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น ศูนย์ซื้อขายแบบกระจายศูนย์ (DEXs) เช่น Uniswap อำนวยความสะดวกในการแลกเปลี่ยนโทเค็นโดยไม่ต้องมีคนกลางมาดูแล, เครดิต/การให้กู้ยืม เช่น MakerDAO และ Aave ที่การกู้ยืมและการให้ยืมเกิดขึ้นแบบเพียร์ทูเพียร์ผ่านสัญญาอัจฉริยะ, การวางเหรียญแบบสภาพคล่อง (Liquid Staking) เช่น Lido ซึ่งช่วยให้ผู้ใช้สามารถนำโทเค็นที่วางไว้ไปใช้ในกิจกรรมอื่น ๆ บนเครือข่ายได้อีก — โซเชียลและการเล่นเกม (Social & Gaming): ภาคส่วนนี้เป็นส่วนที่ซ้อนทับกันระหว่างบล็อกเชน, คริปโต, และอุตสาหกรรมเกม รวมถึงองค์ประกอบทางสังคมและการตลาด NFT Marketplaces และ Gaming (เช่น Axie Infinity) เป็นอุตสาหกรรมที่สำคัญ — AI และข้อมูล (AI and Data Solutions): ภาคส่วนนี้มีความสำคัญต่อแพลตฟอร์มที่ใช้ปัญญาประดิษฐ์และเทคโนโลยีข้อมูลเพื่อเสริมสร้างระบบนิเวศคริปโต สร้างความโปร่งใส และปรับปรุงประสิทธิภาพในการพัฒนา AI อุตสาหกรรมย่อยในกลุ่มนี้ประกอบด้วย Big Data (เช่น Oracles อย่าง Chainlink), Data Storage (เช่น Arweave, Filecoin), Data Analytics (เช่น The Graph), AI Tools & Services, AI Training & Inference และ Identity (เช่น Ethereum Name Service) — DePIN (เครือข่ายโครงสร้างพื้นฐานทางกายภาพแบบกระจายศูนย์): ภาคส่วนนี้มีเป้าหมายเพื่อกระจายศูนย์และแปลงโครงสร้างพื้นฐานทางกายภาพในโลกแห่งความเป็นจริง (เช่น การประมวลผลหรือแบนด์วิดท์) ให้เป็นโทเค็น ตัวอย่างอุตสาหกรรม ได้แก่ เครือข่ายบรอดแบนด์แบบกระจายศูนย์ และ การประมวลผลแบบกระจายศูนย์ ระดับที่ 3: การจัดจำแนกของสินทรัพย์คริปโต (The Tokens) ระดับสุดท้ายนี้จัดประเภท โทเคน ตามสิ่งที่พวกเขาเป็นตัวแทนหรือวิธีที่พวกเขาสร้างมูลค่า โดยอิงจาก “ชั้นสินทรัพย์หลัก (Superclasses)” สามประเภท — สินทรัพย์สะสมมูลค่า (Store of Value Assets — SoV): ไม่สามารถบริโภคหรือสร้างรายได้ได้ แต่มูลค่าคงอยู่ Cryptocurrency (เช่น BTC) และ Stablecoins (เช่น DAI) จัดอยู่ในหมวดนี้ — สินทรัพย์ที่บริโภค/แปลงสภาพได้ (Consumable/Transformable Assets — C/T): สามารถบริโภคหรือแปลงเป็นสินทรัพย์อื่นได้ แต่ไม่สร้างกระแสรายได้อย่างต่อเนื่อง สกุลเงินดั้งเดิม (Native Currency) ของเครือข่าย (เช่น ETH) และ Utility Tokens (เช่น LINK) ถูกจัดเป็น C/T — สินทรัพย์ทุน (Capital Assets — CA): เป็นแหล่งที่มาของมูลค่าอย่างต่อเนื่อง โดยประเมินจากมูลค่าปัจจุบันสุทธิของผลตอบแทนที่คาดหวัง Governance Tokens (เช่น UNI) ซึ่งแสดงถึงสิทธิ์ในการลงคะแนนเสียง และ NFTs ที่สร้างค่าลิขสิทธิ์ ถูกจัดเป็นสินทรัพย์ทุน ด้วยการใช้กรอบงานสามระดับนี้ ผู้สนใจในคริปโตสามารถเข้าใจได้อย่างครอบคลุม: Uniswap คือ dApp (ระดับ 1) ใน อุตสาหกรรมศูนย์ซื้อขายแบบกระจายศูนย์ (DEX) (ระดับ 2) และโทเค็น UNI ของมันคือ Governance Token (ระดับ 3) อ้างอิง: The Global Crypto Classification Standard — — — — — — — — — — คำเตือน: -คริปโทเคอร์เรนซีและโทเคนดิจิทัลมีความเสี่ยงสูง ท่านอาจสูญเสียเงินลงทุนได้ทั้งจํานวน โปรดศึกษาและลงทุนให้เหมาะสมกับระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้ -ผลตอบแทนของสินทรัพย์ดิจิทัลในอดีตหรือผลการดําเนินงานในอดีต มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลตอบแทน ของสินทรัพย์ดิจิทัลหรือผลการดําเนินงานในอนาคต — — — — — — — — — — หากคุณยังเป็นมือใหม่ ค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมได้ในบทความ “แหล่งความรู้ มือใหม่หัดเทรดคริปโต เริ่มต้นที่นี่” แล้วมาเริ่มต้นเทรดได้วันนี้ที่ Bitkub Exchange → คลิกสมัครเลย — — — — — — — — — — Decrypting the Crypto Universe: The Global Crypto Classification Standard The complexity of the cryptocurrency world, with its countless tokens, protocols, and decentralized applications, can feel overwhelming. To bring clarity to this new asset class, 21Shares and CoinGecko developed The Global Crypto Classification Standard (GCCS). This three-level framework serves as an industry taxonomy to categorize crypto projects and assets, helping users and investors quickly understand what a project does and where it sits within the larger crypto stack. Level 1: The Crypto Stack The Crypto Stack focuses on the fundamental technological layers that make up the core crypto infrastructure. It specifically categorizes networks or protocols only, not the underlying assets (tokens). This structure is analogous to a foundation and core components, which include: –Payment Platforms: These are the basic layer specializing in value transfer, comparable to digital cash or digital commodities like gold. Bitcoin is a prime example of this category. –Smart Contract Platforms: These are base blockchains with general-purpose programming capabilities built-in. They function like digital cities or nation-states, allowing developers to create applications, such as Ethereum and Solana. –Decentralized Applications (dApps): These are the final products and services — web and mobile applications that allow access to crypto products and services without permission and are censorship-resistant. Uniswap and MakerDAO are prominent dApps. Other essential components include Blockchain Accelerators (e.g., Arbitrum), which help scale and reduce congestion, and Oracles (e.g., Chainlink), which bridge external data onto the blockchain. Level 2: Market Mapping Level 2 categorizes protocols by business type, divided into Sectors (which are large segments of the crypto economy) and Industries (which are more specific groups of protocols). –IT Services: This sector is directly involved in software development. Industries under this sector include Developer Tooling, which are instruments assisting developers in creating dApps; Auditing and Security protocols that help mitigate the risks of smart contracts; and Wallets, which are digital wallets used by users to interact with the blockchain and store assets. –Infrastructure: This foundational sector gathers essential core components, such as Smart Contract Platforms, Blockchain Accelerators, and Payment Platforms. –Centralized Finance (CeFi): This sector involves crypto financial structures that still rely on intermediaries. Services often involve custodial asset management or reserve the right to blacklist accounts. Key industries include Centralized Exchanges (CEXs) and Tokenization by centralized entities (e.g., issuing Stablecoins like USDC). –Decentralized Finance (DeFi): This is financial infrastructure running on the internet without relying on centralized institutions. The DeFi sector has diverse sub-industries, such as Decentralized Exchanges (DEXs) like Uniswap, which facilitate non-custodial token swaps; Credit/Lending like MakerDAO and Aave, where peer-to-peer borrowing and lending occur via smart contracts; and Liquid Staking like Lido, which allows users to utilize their staked tokens in other on-chain activities. –Social and Gaming: This sector is an overlap between blockchain, crypto, and the gaming industry, including social and marketing elements. NFT Marketplaces and Gaming (e.g., Axie Infinity) are important industries. –AI and Data Solutions: This sector is vital for platforms using artificial intelligence and data technology to enhance the crypto ecosystem, create transparency, and improve efficiency in AI development. Sub-industries in this group include Big Data (e.g., Oracles like Chainlink), Data Storage (e.g., Arweave, Filecoin), Data Analytics (e.g., The Graph), AI Tools & Services, AI Training & Inference, and Identity (e.g., Ethereum Name Service). –DePIN (Decentralized Physical Infrastructure Networks): This sector aims to decentralize and tokenize real-world physical infrastructure (e.g., computing or bandwidth). Industry examples include Decentralized Broadband Networks and Distributed Computing. Level 3: Taxonomy of Cryptoassets (The Tokens) This final level categorizes Tokens based on what they represent or how they generate value, relying on three “Superclasses” of assets: –Store of Value Assets (SoV): These cannot be consumed or generate income, but their value remains. Cryptocurrency (e.g., BTC) and Stablecoins (e.g., DAI) fall into this category. –Consumable/Transformable Assets (C/T): These can be consumed or transformed into another asset but do not generate a continuous stream of value. Native Currency of a network (e.g., ETH) and Utility Tokens (e.g., LINK) are classified as C/T. –Capital Assets (CA): These are an ongoing source of value, valued based on the net present value of expected returns. Governance Tokens (e.g., UNI), which represent voting rights, and Royalty-Generating NFTs are classified as Capital Assets. Using this three-level framework, a crypto enthusiast can gain a comprehensive understanding: Uniswap is a dApp (Level 1) in the Decentralized Exchange (DEX) industry (Level 2), and its UNI token is a Governance Token (Level 3). Reference: The Global Crypto Classification Standard — — — — — — — — — — Start your crypto trading journey today! If you’re new to the space, get all the information you need in our guide, “Crypto Trading for Beginners: Start Here.” Ready to trade? Sign up now on Bitkub Exchange → Click to register! — — — — — — — — — — ถอดรหัสโลกคริปโทฯ : มาตรฐานการจำแนกหมวดหมู่ was originally published in Bitkub.com on Medium, where people are continuing the conversation by highlighting and responding to this story.

ข่าวรายสัปดาห์ 11–17 ตุลา 68: Bitcoin ร่วงท่ามกลางสงครามการค้าแต่ Adoption เพิ่ม | ภูฏานย้ายระบบ National Digital ID มา Ethereum | เพนตากอนทุ่ม $1,000 ล้านกักตุนแร่หายาก ในขณะที่ ราคา Bitcoin ร่วงลงสู่ $110,000 ท่ามกลางความตึงเครียดทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ-จีน และการชำระบัญชีเลเวอเรจกว่า $19,000 ล้าน ความเชื่อมั่นในระดับสถาบันกลับเพิ่มขึ้น โดยจำนวนบริษัทมหาชนที่ถือครอง BTC ทำสถิติใหม่ สะท้อนมุมมองเชิงกลยุทธ์ระยะยาว สวนทางกับพฤติกรรมนักลงทุนรายย่อยที่เปลี่ยนเป็นความ “กลัวสุดขีด” และการเทขายครั้งใหญ่ที่สุดจากผู้ถือครองระยะยาว ขณะที่ตลาดอนุพันธ์มีความแตกต่าง โดย Ethereum ETFs ได้รับเงินไหลเข้า อย่างมีนัยสำคัญ ในข่าวอื่น ๆ ภูฏาน ได้ย้ายระบบ National Digital ID สำหรับพลเมือง 800,000 คน ไปสู่บล็อกเชน Ethereum และ เพนตากอน ได้จัดสรรเงิน 1 พันล้านดอลลาร์เพื่อกักตุนแร่หายาก เพื่อความมั่นคงแห่งชาติ สะท้อนความสัมพันธ์ที่ซับซ้อนระหว่างสินทรัพย์ดิจิทัล ภูมิรัฐศาสตร์ และความมั่นคงของทรัพยากรโลก — — — — — — — — — — Bitcoin ร่วงสู่ $110K ท่ามกลางความตึงเครียดทางการค้า แต่การนำไปใช้โดยองค์กรพุ่งเป็นประวัติการณ์ ราคา Bitcoin ปรับลดลงอย่างมีนัยสำคัญสู่ช่วงกลาง $110,000 หลังจากทำราคาสูงสุดใหม่ที่เกิน $126,000 เพียงสัปดาห์กว่า การลดลงนี้เกิดจากช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ที่เลวร้าย ซึ่งมีการชำระบัญชีตำแหน่งการซื้อขายด้วยเลเวอเรจมากกว่า 19,000 ล้านดอลลาร์ และแรงกดดันที่เพิ่มขึ้นจากความตึงเครียดทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีน อย่างไรก็ตาม แม้ตลาดจะผันผวน แต่การนำ Bitcoin ไปใช้โดยองค์กรต่างๆ ได้พุ่งสูงเป็นประวัติการณ์ในไตรมาสที่ 3 ปี 2025 รายงานของ Bitwise เผยว่า บริษัทมหาชน 172 แห่ง ถือครองคริปโทเคอร์เรนซีนี้ ซึ่งเพิ่มขึ้น 38.7% จากไตรมาสก่อนหน้า บริษัทเหล่านี้ถือครอง 1.02 ล้าน BTC คิดเป็นเกือบ 4.9% ของอุปทาน Bitcoin ทั้งหมด ความเชื่อมั่นในระดับสถาบันที่เพิ่มขึ้นนี้บ่งชี้ว่าบริษัทต่างๆ กำลังวางตำแหน่ง Bitcoin เป็นทุนสำรองเชิงกลยุทธ์ในระยะยาว ที่มา : Bitcoin Magazine — — — — — — — — — — Ethereum ETF มีกระแสเงินไหลเข้า $170 ล้าน ส่วนทาง Bitcoin ETF เผชิญเงินไหลออก $104 ล้าน หลังจากเหตุการณ์ตลาดคริปโตปรับฐานลงอย่างรุนแรงเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว กองทุน Spot Bitcoin และ Ethereum Exchange-Traded Funds (ETFs) ในสหรัฐฯ แสดงพฤติกรรมนักลงทุนที่แตกต่างกันอย่างชัดเจนเมื่อวันพุธที่ผ่านมา Bitcoin ETFs มีเงินทุนไหลออกสุทธิรวม 104.1 ล้านดอลลาร์ โดยกองทุน GBTC ของ Grayscale เป็นผู้นำในการไหลออกของเงินทุน ซึ่งเป็นการดำเนินไปของรูปแบบการไหลของเงินทุนที่ไม่แน่นอนนับตั้งแต่ความวุ่นวายในตลาด ในทางตรงกันข้าม Ethereum ETFs ได้รับความสนใจอย่างมาก โดยดึงดูดเงินไหลเข้าสุทธิรวม 169.6 ล้านดอลลาร์ ซึ่งส่วนใหญ่มาจากกองทุน ETHA ของ BlackRock ตลาดกำลังฟื้นตัวจากเหตุการณ์ที่เกิดจากความตึงเครียดทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ-จีน และส่งผลให้มีการชำระบัญชีด้วยเลเวอเรจกว่า 20,000 ล้านดอลลาร์ แต่การไหลเข้าอย่างรวดเร็วสู่กองทุน ETH บ่งชี้ถึงการเปลี่ยนแปลงในความเชื่อมั่นต่อ Altcoin อย่างชัดเจน ที่มา : The Block — — — — — — — — — — ภูฏานย้ายระบบ National Digital ID ของ 800,000 พลเมือง จาก Polygon สู่บล็อกเชน Ethereum ภูฏานย้ายระบบ National Digital ID ของ 800,000 พลเมือง จาก Polygon สู่บล็อกเชน Ethereum . ประเทศภูฏานในเอเชียใต้กำลังดำเนินการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัลที่กล้าหาญ โดยย้ายกรอบการทำงานระบบ Self-Sovereign Identity (SSI) ระดับชาติจาก Layer 2 อย่าง Polygon ไปยัง บล็อกเชน Ethereum การเคลื่อนไหวที่สำคัญนี้ ซึ่งได้รับการยืนยันโดย Ethereum Foundation จะ ID ของประชากรประมาณ 800,000 คน เข้าสู่ระบบ Web3 ทำให้พวกเขาสามารถยืนยันตัวตนและโต้ตอบกับบริการของรัฐบาลได้อย่างปลอดภัย การย้ายข้อมูลประจำตัวผู้อยู่อาศัยทั้งหมดมีกำหนดจะแล้วเสร็จภายในไตรมาสที่ 1 ปี 2026 ความริเริ่มนี้เน้นย้ำถึงความมุ่งมั่นของประเทศในการเสริมสร้างธรรมาภิบาลดิจิทัลผ่าน ความโปร่งใสและความปลอดภัย ที่เพิ่มขึ้น โดยใช้ประโยชน์จากความสามารถของ Ethereum รวมถึงการพิสูจน์แบบ Zero-Knowledge (zk) เพื่อการปกป้องความเป็นส่วนตัว นอกจากนี้ ภูฏานยังเป็นผู้เล่นที่ได้รับการยอมรับในพื้นที่คริปโต โดยถือครอง 6,371 BTC และกำลังขยายการดำเนินการขุด Bitcoin ที่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานน้ำ ที่มา : CryptoPotato — — — — — — — — — — เพนตากอนทุ่ม $1,000 ล้านกักตุนแร่หายากและแร่ธาตุสำคัญ เพื่อความมั่นคงทางทรัพยากรของสหรัฐฯ กระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ หรือ เพนตากอน ได้เริ่มดำเนินการตามความพยายามครั้งใหญ่โดยจัดสรรเงิน 1,000 ล้านดอลลาร์ เพื่อกักตุนแร่ธาตุสำคัญ เช่น แร่หายาก ลิเธียม โคบอลต์ และโลหะเชิงกลยุทธ์ การดำเนินการด้านการป้องกันนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อตอบโต้การครอบงำของจีนในการจัดหาวัสดุเหล่านี้ ซึ่งมีความสำคัญต่อเทคโนโลยีสมัยใหม่และยุทโธปกรณ์ทางทหาร การเคลื่อนไหวนี้เกิดขึ้นหลังจากการที่จีนจำกัดการส่งออกแร่หายากเมื่อเร็วๆ นี้ และแสดงถึงความพยายามในการจัดหาทรัพยากรที่ใหญ่ที่สุดครั้งหนึ่งในรอบหลายทศวรรษ ขณะที่การกระทำนี้ช่วยเสริมสถานะการเป็นสินทรัพย์ปลอดภัยของ ทองคำ แต่นักวิเคราะห์ชี้ว่านิยามของ “แร่ธาตุเพื่อความมั่นคง” กำลังขยายวงกว้างขึ้น ส่วน Bitcoin นั้น ถูกยกให้เป็น “ทองคำดิจิทัล” ที่เป็นทางเลือกที่ดีเนื่องจากไม่ได้รับผลกระทบจากการหยุดชะงักของห่วงโซ่อุปทานทางกายภาพ แม้ว่าสินทรัพย์นี้จะยังคงอ่อนไหวต่อความเชื่อมั่นแบบ ‘Risk-off’ ทางภูมิรัฐศาสตร์ที่เกิดจากความตึงเครียดทางการค้าโลก ที่มา : CryptoSlate — — — — — — — — — — ความสนใจ Bitcoin รายย่อยลดลงต่ำสุด ด้านความเชื่อมั่นนักลงทุนเปลี่ยนเป็นความกลัวสุดขีด แม้ว่า Bitcoin จะทำราคาสูงสุดใหม่หลายครั้งตลอดปี 2025 แต่การวิเคราะห์ชี้ให้เห็นว่า ความสนใจของนักลงทุนรายย่อย ได้ลดลงสู่ระดับที่มักจะเห็นในตลาดหมี ข้อมูลจาก CryptoQuant ระบุว่าความต้องการในตลาด Spot ของ Bitcoin กำลังลดลงอย่างรวดเร็วที่สุดนับตั้งแต่เดือนเมษายน ซึ่งเป็นสัญญาณของ “การเปลี่ยนแปลงสู่สภาวะตลาดหมี” การมีส่วนร่วมของสาธารณะที่ลดลงนี้ยังสะท้อนผ่าน ดัชนี Crypto Fear & Greed ซึ่งลดลงสู่ระดับ “Fear” ที่ 24 ซึ่งเป็นจุดต่ำสุดนับตั้งแต่การปรับฐานราคาครั้งใหญ่ในเดือนเมษายน ความเชื่อมั่นที่ลดลงนี้เป็นผลมาจากการเทขายอย่างรุนแรงในตลาดเมื่อเร็วๆ นี้ ซึ่งส่งผลให้มีการชำระบัญชีด้วยเลเวอเรจมากกว่า 20,000 ล้านดอลลาร์ ตัวชี้วัดกิจกรรมของรายย่อย เช่น ความสนใจในการค้นหา “Bitcoin” ทั่วโลกบน Google และอันดับของแอป Coinbase ก็ยืนยันอัตราการมีส่วนร่วมที่ต่ำนี้ แม้ว่าจิตวิทยานักลงทุนจะบ่งชี้ถึงความตื่นตระหนก แต่ดัชนี Coinbase Premium ก็ยังบ่งชี้ว่ามีความยืดหยุ่นในตลาดระยะสั้นอยู่บ้าง ที่มา : Cointelegraph — — — — — — — — — — ผู้ถือ Bitcoin ระยะยาวขาย 265,000+ BTC เป็นปริมาณไหลออกรายเดือนสูงสุดนับตั้งแต่เดือนมกราคม ข้อมูล On-chain เผยว่า ผู้ถือครอง Bitcoin ระยะยาว (LTHs) ซึ่งเป็นกลุ่มนักลงทุนที่มีพฤติกรรมสะสม BTC เป็นหลัก ได้ขาย Bitcoin ออกไปเป็นจำนวนมากถึง 265,715 BTC ในช่วง 30 วันที่ผ่านมา การทำกำไรครั้งสำคัญนี้ถือเป็นปริมาณไหลออกรายเดือนที่ใหญ่ที่สุดจากกลุ่มนักลงทุนนี้ตั้งแต่มกราคม 2024 ซึ่งบ่งชี้ถึงความเชื่อมั่นในตลาดขาขึ้นที่ลดลงอย่างเห็นได้ชัดในหมู่นักลงทุนผู้คร่ำหวอด LTHs ถูกกำหนดให้เป็นผู้ที่ถือครอง Bitcoin เป็นเวลา 155 วันขึ้นไป การไหลออกนี้เน้นย้ำถึงแรงกดดันในการขายที่เพิ่มขึ้นท่ามกลางความผันผวนของตลาดล่าสุด เนื่องจากตำแหน่งที่ถือครองมานานเหล่านี้ถูกขายเพื่อทำกำไร นักวิเคราะห์ชี้ว่าแม้แรงขายจะมาก แต่ในอดีต การรีเซ็ตตำแหน่งครั้งใหญ่และการไหลออกของ LTH ในปริมาณมาก มักจะนำหน้าการทำให้ตลาดมีเสถียรภาพหรือการฟื้นตัวได้ เมื่อปริมาณการขายถึงจุดสูงสุด ที่มา : CryptoSlate — — — — — — — — — — คำเตือน: -คริปโทเคอร์เรนซีและโทเคนดิจิทัลมีความเสี่ยงสูง ท่านอาจสูญเสียเงินลงทุนได้ทั้งจํานวน โปรดศึกษาและลงทุนให้เหมาะสมกับระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้ -ผลตอบแทนของสินทรัพย์ดิจิทัลในอดีตหรือผลการดําเนินงานในอดีต มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลตอบแทน ของสินทรัพย์ดิจิทัลหรือผลการดําเนินงานในอนาคต — — — — — — — — — — หากคุณยังเป็นมือใหม่ ค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมได้ในบทความ “แหล่งความรู้ มือใหม่หัดเทรดคริปโต เริ่มต้นที่นี่” แล้วมาเริ่มต้นเทรดได้วันนี้ที่ Bitkub Exchange → คลิกสมัครเลย — — — — — — — — — — Weekly News (11–17 Oct 2025): Bitcoin Falls to $110K; Corporate Adoption Soars | Bhutan Moves National ID to Ethereum | Pentagon Bets $1B on Rare Earths Stockpile In a period where the Bitcoin price tumbled to $110,000 amid escalating U.S.-China trade tensions and over $19 billion in leveraged liquidations, institutional conviction surged, with the number of public companies holding BTC as a strategic reserve hitting a new record. This contrasts sharply with retail investor behavior, which has flipped to “extreme fear,” coupled with the largest profit-taking outflow from long-term holders since January. Meanwhile, ETF flows showed divergence: Ethereum ETFs received significant net inflows, while Bitcoin funds faced outflows. On the global stage, Bhutan successfully migrated its National Digital ID system for 800,000 citizens to the Ethereum blockchain, and the Pentagon allocated $1 billion to stockpile rare earths for national security, underscoring the complex interplay between digital assets, geopolitics, and global resource security. — — — — — — — — — — Bitcoin Price Tumbles to $110K Amid Trade Tensions, Corporate Adoption Hits Record Highs Bitcoin’s price experienced a significant slump, falling to the mid-$110,000s just over a week after hitting a new all-time high above $126,000. This downturn followed a rough weekend where over $19 billion in leveraged positions were liquidated, with further downward pressure coming from escalating U.S. and China trade tensions. Despite the market volatility and price correction, corporate adoption of Bitcoin reached unprecedented levels in Q3 2025. A Bitwise report reveals that 172 public companies now hold the cryptocurrency — a 38.7% quarter-over-quarter increase. These firms collectively own over 1.02 million BTC, representing nearly 4.9% of the entire Bitcoin supply. The growing institutional conviction suggests companies are increasingly using Bitcoin as a strategic treasury reserve. Source: Bitcoin Magazine — — — — — — — — — — Contrasting Crypto ETF Flows: Ethereum Sees $170M Inflows as Bitcoin Funds Face $104M Outflows Following last week’s historic crypto flash crash, U.S. spot Bitcoin and Ethereum Exchange-Traded Funds (ETFs) displayed contrasting investor behavior on a recent Wednesday. Bitcoin ETFs registered $104.1 million in net outflows, with Grayscale’s GBTC contributing the largest portion of the capital exodus. This continued the volatile flow pattern seen since the market turmoil. Conversely, Ethereum ETFs experienced significant demand, attracting $169.6 million in net inflows, primarily driven by BlackRock’s ETHA fund. The market is still reeling from the crash, which was triggered by escalating U.S.-China trade tensions and resulted in over $20 billion in liquidations, but the sharp influx into ETH funds indicates a distinct shift in altcoin sentiment. Source: The Block — — — — — — — — — — Bhutan Migrates National Digital ID for 800,000 Citizens from Polygon to Ethereum Blockchain The South Asian nation of Bhutan is undertaking a bold digital transformation by migrating its national self-sovereign identity (SSI) framework from the Layer 2 solution Polygon to the Ethereum blockchain. This significant move, confirmed by the Ethereum Foundation, will place roughly 800,000 citizens on Web3 rails, allowing them to authenticate identities and securely interact with government services. The full migration of resident credentials is slated for completion by the first quarter of 2026. This initiative highlights the country’s commitment to strengthening digital governance through enhanced transparency and security, leveraging Ethereum’s capabilities, including zero-knowledge (zk) proofs for privacy. Furthermore, Bhutan is already an established player in the crypto space, owning 6,371 BTC, making it a notable government Bitcoin holder, and is actively expanding its hydro-powered Bitcoin mining operations. Source: CryptoPotato — — — — — — — — — — Pentagon Launches $1 Billion Stockpile of Rare Earths and Critical Minerals for National Security The U.S. Defense Department, or Pentagon, has begun a massive, multi-year effort by allocating $1 billion to stockpile critical minerals, including rare earths, lithium, cobalt, and strategic metals. This defensive move is aimed at countering China’s global dominance in the supply of these materials, which are essential for modern technology and military hardware. The move follows recent Chinese export restrictions on rare earths and represents one of the largest resource procurement efforts in decades. While this action reinforces the safe-haven status of traditional assets like gold, analysts note that the definition of “security minerals” is clearly expanding. Bitcoin’s appeal as “digital gold” is highlighted for its immunity to physical supply chain disruption, though the asset remains sensitive to the ensuing geopolitical risk-off sentiment that such global trade tensions create. Source: CryptoSlate Bitcoin Retail Interest Hits ‘Bear Market’ Lows as Investor Sentiment Flips to Extreme Fear Despite Bitcoin reaching multiple all-time highs throughout 2025, analysis suggests that retail investor interest has faded to levels typically seen in a bear market. Data from CryptoQuant indicates that Bitcoin’s spot demand is undergoing its steepest contraction since April, signaling a “shift into bearish conditions.” This waning public engagement is further reflected by the Crypto Fear & Greed Index, which has plunged to a “Fear” reading of 24 — its lowest point since the major price correction in April. This plunge in sentiment follows a historic market flash crash that resulted in over $20 billion in leveraged liquidations. Proxies for retail activity, such as global Google search interest for “Bitcoin” and the ranking of the Coinbase mobile app, also confirm this low participation rate. While investor psychology points toward panic and capitulation, the Coinbase Premium Index suggests some near-term market resilience remains. Source: Cointelegraph Long-Term Bitcoin Holders Sell 265,000+ BTC in Largest Monthly Outflow Since January On-chain data reveals that Long-Term Bitcoin Holders (LTHs), a cohort known for typically accumulating BTC, sold a substantial 265,715 BTC over a recent 30-day period. This significant profit-taking event marks the largest monthly outflow from this investor group since January 2024, indicating a notable cooling of bullish sentiment among veteran investors. LTHs are defined as addresses holding Bitcoin for 155 days or more. The outflow highlights increased selling pressure amid recent market volatility, as these long-held positions are finally realized for gains. Analysts suggest that while the selling pressure is considerable, historically, such major position resets and large LTH outflows can often precede a market stabilization or rebound once the selling volume exhausts itself. Source: Cointelegraph — — — — — — — — — — Disclaimer: - Cryptocurrency and digital tokens involve high risks; investors may lose all investment money and should study information carefully and make investments according to their own risk profile. -Past Returns does not guarantee future returns/performance. — — — — — — — — — — Start your crypto trading journey today! If you’re new to the space, get all the information you need in our guide, “Crypto Trading for Beginners: Start Here.” Ready to trade? Sign up now on Bitkub Exchange → Click to register! — — — — — — — — — — ข่าวรายสัปดาห์ 11–17 ตุล 68: Bitcoin ร่วงท่ามกลางสงครามการค้าแต่ Adoption เพิ่ม | ภูฏานย้ายระบบ… was originally published in Bitkub.com on Medium, where people are continuing the conversation by highlighting and responding to this story.

กิจกรรม: ถือ KUB รับเหรียญ DMCรายละเอียด: ถือ KUB รับเหรียญ DMC เฉพาะผู้ที่มีเหรียญ KUB สำหรับลูกค้าที่มีเหรียญ KUB สะสมตั้งแต่ 500 KUB ขึ้นไป โดยจะพิจารณาจำนวนเหรียญ KUB ที่มีอยู่ ณ วันที่ 30 ก.ย. 68 เท่านั้น และต้องมีการเทรดเหรียญ KUB ระหว่างวันที่ 1 - 30 ก.ย. 68 อย่างน้อย 1 ครั้ง พิเศษ! รับเพิ่ม 1,000 points เพียงเทรดเหรียญ DMC ขั้นต่ำ 1,000 บาทระยะเวลากิจกรรม: 15 ต.ค. - 14 พ.ย. 68ลงทะเบียนผ่านลิงก์: https://form.bitkub.com/holdkub-dmc-oct-25 ข้อกำหนดและเงื่อนไขของกิจกรรม 1. กิจกรรมถือ KUB รับเหรียญ DMC (“กิจกรรม”) นี้ จัดขึ้นโดย บริษัท บิทคับ ออนไลน์ จํากัด (“บริษัทฯ”) 2. ถือ KUB รับเหรียญ DMC เฉพาะผู้ที่มีเหรียญ KUB สำหรับลูกค้าที่มีเหรียญ KUB สะสมตั้งแต่ 500 KUB ขึ้นไป โดยจะพิจารณาจำนวนเหรียญ KUB ที่มีอยู่ ณ วันที่ 30 ก.ย. 68 เท่านั้น และต้องมีการเทรดเหรียญ KUB ระหว่างวันที่ 1 - 30 ก.ย. 68 อย่างน้อย 1 ครั้ง (ไม่ต้องลงทะเบียนเข้าร่วมกิจกรรม) พิเศษ! รับเพิ่ม 1,000 points เพียงเทรดเหรียญ DMC ขั้นต่ำ 1,000 บาท วันที่ 15 ต.ค. - 14 พ.ย. 68 3. เริ่มตั้งแต่วันที่ 15 ต.ค. - 14 พ.ย. 68 4.เงื่อนไขสำหรับผู้เข้าร่วมกิจกรรม กิจกรรม: ถือ KUB รับเหรียญ DMC - ผู้ที่ถือ KUB สะสมตั้งแต่ 500 KUB ขึ้นไป ได้รับเหรียญ DMC มูลค่าโดยประมาณ 260 บาท โดยจะพิจารณาจำนวนเหรียญ KUB ที่มีอยู่ ณ วันที่ 30 ก.ย. 68 เท่านั้น และต้องมีการเทรดเหรียญ KUB ระหว่างวันที่ 1 - 30 ก.ย. 68 อย่างน้อย 1 ครั้ง (ไม่ต้องลงทะเบียนเข้าร่วมกิจกรรม) กิจกรรม : รับ 1,000 points เพียงเทรดเหรียญ DMC ขั้นต่ำ 1,000 บาท วันที่ 15 ต.ค. - 14 พ.ย. 68 - เฉพาะผู้ที่มีเหรียญ KUB สำหรับลูกค้าที่มีเหรียญ KUB ที่มีอยู่ ณ วันที่ 30 ก.ย. 68 เท่านั้นและต้องมีการเทรดเหรียญ KUB ระหว่างวันที่ 1 - 30 ก.ย. 68 อย่างน้อย 1 ครั้ง - ลงทะเบียนเพื่อเรียนรู้และเข้าร่วมกิจกรรมผ่านแบบฟอร์ม https://form.bitkub.com/holdkub-dmc-oct-25 5. ของรางวัลคือเหรียญ DMC - ผู้ที่ถือ KUB สะสมตั้งแต่ 500 KUB ขึ้นไป ได้รับเหรียญ DMC มูลค่าโดยประมาณ 260 บาท จะได้รับ DMC ประมาณ 1,927.7108 เหรียญ คำนวณจากมูลค่า ณ วันที่ 14 ก.ย. 68 ราคาเหรียญ DMC ประมาณ 0.135 บาท/เหรียญ 6. ขอสงวนสิทธิ์การรับของรางวัล 1 รางวัล ต่อ 1 บัญชี Bitkub Exchange เท่านั้น 7. ทางบริษัทฯ จะลำดับการมอบรางวัลจากผู้ที่ลงทะเบียนในแบบฟอร์มก่อน และทำการโอนเหรียญให้กับผู้ที่ได้รับรางวัล ที่ทำถูกต้องตามเงื่อนไขของกิจกรรม ภายในวันที่ 15 ต.ค. 68 และทำการส่งรางวัล 1,000 points ให้กับผู้ที่ทำถูกต้องตามเงื่อนไขของกิจกรรม ภายใน 30 วันทำการ หลังสิ้นสุดระยะเวลากิจกรรม 8. ทางบริษัทฯ จะดําเนินการลบข้อมูลของลูกค้าที่กรอกแบบฟอร์ม ภายใน 365 วัน หลังจากจบระยะเวลากิจกรรม 9. ของรางวัลไม่สามารถเปลี่ยนเป็นเงินสดหรือเปลี่ยนเป็นของรางวัลชนิดอื่นได้ และไม่สามารถโอนสิทธิ์ให้ผู้อื่นได้ 10. ผู้ร่วมกิจกรรมไม่มีสิทธิ์เรียกร้องค่าตอบแทน ค่าเสียหายของสินค้า หรือของรางวัล หากชำรุดเมื่อได้รับของรางวัลไปแล้ว หรือเกิดความเสียหาย หรือสูญหายระหว่างขนส่ง หรือสิ่งใด ๆ ไม่ว่าทางแพ่ง หรือทางอาญา 11. บริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์ในการเปลี่ยนแปลงเงื่อนไขกิจกรรม โดยจะแจ้งให้ทราบล่วงหน้า 3 วันทำการ 12. ดาวน์โหลดแอปพลิเคชันบิทคับได้ที่นี่ https://onelink.bitkub.com/aHvr/gtbl7nio *คริปโทเคอร์เรนซีและโทเคนดิจิทัลมีความเสี่ยงสูง ท่านอาจสูญเสียเงินลงทุนได้ทั้งจํานวน โปรดศึกษาและลงทุนให้เหมาะสมกับระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้ ถือ KUB รับเหรียญ ​DMC แจกรวม 540,000 บาท (15 ต.ค. - 14 พ.ย. 68) was originally published in Bitkub.com on Medium, where people are continuing the conversation by highlighting and responding to this story.

Bitkub Exchange และ Bitkub Academy ประกาศร่วมมือ Plasma (XPL) ขยายโครงสร้างพื้นฐาน Stablecoin และ Scaling Solution เมื่อวันที่ 14 ตุลาคม 2568 บริษัท บิทคับ ออนไลน์ จำกัด ผู้ให้บริการ Bitkub Exchange ศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลชั้นนำในประเทศไทย และ บริษัท บิทคับ แล็บส์ จำกัด ผู้ให้บริการ Bitkub Academy ศูนย์กลางการเรียนรู้ด้านเทคโนโลยีบล็อกเชนและสินทรัพย์ดิจิทัล ประกาศความร่วมมือกับ Plasma ผู้นำโปรโตคอลบล็อกเชนเลเยอร์ 1 ที่ถูกออกแบบมาเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ scaling ของเทคโนโลยีบล็อกเชน ความร่วมมือในครั้งนี้มีเป้าหมายเพื่อสร้างความตระหนักรู้ของคนไทยเกี่ยวกับอนาคตของการชำระเงินด้วย stablecoin ที่รวดเร็วทันใจและปราศจากค่าธรรมเนียม โดย Plasma มีชื่อเสียงด้านความสามารถในการประมวลผลธุรกรรมมากกว่า 1,000 รายการต่อวินาที ด้วยระยะเวลาปิดบล็อกไม่ถึง 1 วินาที ผ่านกลไกเฉพาะที่จัดการธุรกรรมแบบเป็นชุด โดย Plasma จะเน้นมอบความรู้และการสนับสนุนการใช้งาน stablecoin ในประเทศไทยอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น Plasma เข้าสู่ตลาดบล็อกเชนไทยผ่านความร่วมมือกับ Bitkub Exchange และ Bitkub Academy ผู้นำด้านการลงทุนและการให้ความรู้เกี่ยวกับสินทรัพย์ดิจิทัลของไทย ซึ่งจะสนับสนุนเครือข่าย Plasma ด้วยการขยายการเข้าถึงโครงสร้างพื้นฐาน stablecoin บนเลเยอร์ 1 ที่มีประสิทธิภาพของ Plasma และส่งเสริมการมีส่วนร่วมของ Plasma ในระบบนิเวศ DeFi ที่กำลังเติบโตของประเทศไทย คุณอรรถกฤต ชิมผลาพิบูลย์ ผู้ร่วมก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บิทคับ ออนไลน์ จำกัด กล่าวว่า “Bitkub Exchange มุ่งมั่นที่จะผลักดันการนำเทคโนโลยีบล็อกเชนมาใช้อย่างแพร่หลาย โดยให้ความสำคัญกับการเข้าถึงสินทรัพย์และโครงสร้างพื้นฐานระดับโลกอย่างปลอดภัย ความร่วมมือกับ Plasma ครั้งนี้ถือเป็นก้าวสำคัญในการเสริมศักยภาพให้ทั้งนักลงทุนและนักพัฒนา ด้วยโซลูชันเลเยอร์ 1 ขั้นสูงที่ตอบโจทย์ด้านความเร็ว ต้นทุน และการขยายขนาด ซึ่งเป็นสามความท้าทายหลักของวงการบล็อกเชนในปัจจุบัน” คุณสุชาติ ภวสิริพร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บิทคับ แล็บส์ จำกัด กล่าวว่า “Plasma เป็นโปรเจกต์สำคัญที่มุ่งเน้นในการทำให้ธุรกรรม stablecoin สามารถขยายขนาดได้อย่างมีประสิทธิภาพและปลอดภัย ทำให้เทคโนโลยีบล็อกเชนสามารถนำมาใช้ได้จริงในชีวิตประจำวัน ความร่วมมือในครั้งนี้จะเปิดโอกาสให้คนไทยได้เข้าใจระบบการชำระเงินแบบกระจายศูนย์ในมิติกว้างมากขึ้น นี่คือก้าวสำคัญในการผลักดันการพัฒนาแอปพลิเคชันยุคใหม่ และเสริมศักยภาพให้ประเทศไทยก้าวขึ้นเป็นผู้นำด้านนวัตกรรมดิจิทัล” Mr. Paul Faecks, CEO and Co-founder of Plasma กล่าวว่า “Plasma มีเป้าหมายเพื่อทำให้บริการทางการเงินพื้นฐานสามารถเข้าถึงได้ทั่วโลกผ่าน stablecoin โดย Bitkub เป็นพันธมิตรที่มีศักยภาพในการช่วยสร้างการรับรู้ในประเทศไทย เรารู้สึกยินดีที่ได้ร่วมงานกับ Bitkub เพื่อขยายโครงสร้างพื้นฐาน stablecoin ของ Plasma ให้เติบโตในประเทศไทย” โครงการนี้ต่อยอดจากความร่วมมืออันเหนียวแน่นระหว่าง Bitkub และ Tether เนื่องจาก Plasma รองรับการทำธุรกรรม USDT โดยไม่มีค่าธรรมเนียม ภายใต้ความร่วมมือนี้ Bitkub และ Plasma ไม่เพียงแต่ส่งเสริมความเข้าใจเกี่ยวกับเทคโนโลยีบล็อกเชนให้มากขึ้นเท่านั้น แต่ยังมุ่งนำเสนอแนวทางแก้ไขที่สามารถใช้งานได้จริงและขยายขนาดได้ เพื่อสนับสนุนการเติบโตของประเทศไทยในเศรษฐกิจดิจิทัลระดับโลกอีกด้วย คำเตือน: คริปโทเคอร์เรนซีและโทเคนดิจิทัลมีความเสี่ยงสูง ท่านอาจสูญเสียเงินลงทุนได้ทั้งจำนวน โปรดศึกษาและลงทุนให้เหมาะสมกับระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้ — — — — — — — — — — Bitkub Exchange and Bitkub Academy Partner With Plasma (XPL) to Expand the Next-Generation Stablecoin Infrastructure and Scaling Solution Bangkok, Thailand, 14 October 2025 — Bitkub Online Co. Ltd., the operator of Bitkub Exchange, Thailand’s premier digital assets platform, and Bitkub Labs Co. Ltd., the provider of Bitkub Academy, an educational hub for blockchain technology and digital assets, announced a strategic partnership with Plasma, the advanced Layer-1 blockchain protocol designed for efficient scaling of blockchain. This collaboration aims to boost awareness among Thais about the future of instantaneous and fee-free stablecoin payments. Plasma is known to achieve 1000+ transactions per second with less than 1 second block-closing time, using the unique mechanism of handling transactions in batches. Under this cooperation, Plasma’s entry is aimed at delivering the efficiency and flexibility required for stablecoins’ education and adoption in Thailand. Plasma enters the Thai blockchain space by collaborating with Bitkub Exchange and Bitkub Academy, the leading providers of Thai digital asset investment and education, which support the Plasma chain by expanding access to Plasma’s efficient Layer-1 stablecoin infrastructure and growing Plasma’s engagement in Thailand’s growing DeFi space. Atthakrit Chimplapibul, Co-founder and CEO of Bitkub Online Co. Ltd., stated, “Bitkub Exchange strives to drive blockchain adoption by providing secure access to world-class assets and infrastructure. Our collaboration with Plasma represents a major step forward in empowering both investors and developers. With Plasma, we are bringing an advanced Layer-1 solution that addresses speed, cost, and scalability — three of the biggest challenges in the blockchain space today.” Suchart Pavasiriporn, CEO of Bitkub Labs Co., Ltd., said, “Plasma is a key project that focuses on making stablecoin transactions scalable and secure, making blockchain practical for everyday use. This collaboration will open doors for Thais to better understand the broader decentralized payment systems. This is about enabling the next generation of applications and positioning Thailand as a leader in digital innovation.” Paul Faecks, CEO and Co-founder of Plasma, added, “Plasma exists to make core financial services globally accessible via stablecoins. Reach comes from distribution, and distribution comes from the right partners. In Thailand, that partner is Bitkub. We are excited to work with Bitkub to scale Plasma’s stablecoin rails throughout Thailand.” This initiative builds upon the strong momentum of Bitkub’s collaboration with Tether, as Plasma supports 0 fees for USDT transactions. With this new phase, Bitkub and Plasma are not only fostering greater understanding of blockchain technology but also delivering a practical, scalable solution that supports Thailand’s growth in the global digital economy. Disclaimer: Digital assets involve risks; investors should study information carefully and make investments according to their own risk profile. Bitkub Exchange และ Bitkub Academy ประกาศร่วมมือ Plasma (XPL) ขยายโครงสร้างพื้นฐาน Stablecoin และ… was originally published in Bitkub.com on Medium, where people are continuing the conversation by highlighting and responding to this story.

ข่าวรายสัปดาห์ 4–10 ต.ค. 68: Bitcoin พุ่งขึ้น ท่ามกลางการยื่นเอกสารรออนุมัติ ETF 21 รายการ | ราคา BTC ลดแม้ยอด Leverage สูงและความต้องการ ETF | State Street เผยสถาบันลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัล 2 เท่า เงินทุนจากสถาบันกำลังไหลเข้า อย่างมหาศาล ขณะที่กิจกรรมของผู้ใช้งานรายย่อยลดลง Bitcoin (BTC) ยังคงแข็งแกร่งใกล้แนวรับ $120,000 ซึ่งได้รับแรงหนุนจากความเชื่อมั่นใน “Uptober” และ เงินไหลเข้า ETF กว่า 5,000 ล้านดอลลาร์ แม้จะมีความเสี่ยงด้านความผันผวนจากเลเวอเรจในตลาดที่สูง เงินทุนนี้กำลังผลักดัน TVL ของ DeFi ให้สูงเป็นประวัติการณ์ที่ 237,000 ล้านดอลลาร์ ซึ่งยืนยันความเชื่อมั่นของสถาบัน แม้ว่าจำนวน Wallet DApp ที่ใช้งานจริงจะลดลง 22% นอกจากนี้ Wall Street กำลังเปิดรับการเปลี่ยนแปลงอย่างเต็มที่ โดยคาดการณ์ว่า การลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัลของสถาบันจะเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่า และพอร์ตการลงทุนถึง 25% จะถูกแปลงเป็นโทเคนภายในปี 2030 ในขณะที่ผลิตภัณฑ์ที่ซับซ้อนอย่าง XRP Leveraged ETF พุ่งทะลุ 500 ล้านดอลลาร์ บ่งชี้ถึงความต้องการในการเก็งกำไรเชิงกลยุทธ์ แต่การคาดการณ์สำหรับผลิตภัณฑ์ Altcoin ใหม่ เช่น Solana ETF ยังคงเป็นไปอย่างระมัดระวัง — — — — — — — — — — ปรากฏการณ์ Uptober ทำ Bitcoin พุ่งขึ้น ท่ามกลางการยื่นเอกสารรออนุมัติ ETF 21 รายการ จุดเริ่มต้นของเดือนตุลาคม (ที่เรียกว่า “Uptober”) ได้จุดประกายความเชื่อมั่นครั้งใหญ่ โดยมีจุดเด่นคือ ราคา Bitcoin ที่ปรับตัวสูงขึ้น และกระแสการยื่นขอจัดตั้ง กองทุนรวม ETF (Exchange-Traded Fund) เป็นจำนวนมาก มีการยื่นคำขอ ETF คริปโตถึง 21 รายการ ต่อคณะกรรมการ ก.ล.ต. แห่งสหรัฐอเมริกา (SEC) ภายในแปดวันแรกของเดือน ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของกระแสการยื่นเอกสาร 31 รายการในช่วงสองเดือนที่ผ่านมา ความสนใจจากสถาบันนี้รวมถึงการยื่นขอ ETF สำหรับสินทรัพย์ที่หลากหลาย เช่น iShares Bitcoin Premium Income ETF และ Bitwise Avalanche ETF ความเชื่อมั่นในตลาดยังคงแข็งแกร่งขึ้นจากข้อมูลที่แสดงให้เห็นว่ามีเงินไหลเข้าสู่ ETF ในตลาดคริปโตกว่า 5,000 ล้านดอลลาร์ ในสัปดาห์เดียว แม้ว่าการปิดหน่วยงานรัฐบาลสหรัฐฯ จะทำให้การพิจารณาของ SEC หยุดชะงักชั่วคราว แต่นักวิเคราะห์ยังมองโลกในแง่ดี การอนุมัติมาตรฐานที่เรียบง่ายขึ้นสำหรับ ETF คริปโตของ SEC คาดว่าจะเปิดให้กับผลิตภัณฑ์การลงทุนที่อิงกับคริปโตที่หลากหลายเมื่อหน่วยงานกลับมาดำเนินการได้เต็มที่ ที่มา : Cointelegraph — — — — — — — — — — ราคา BTC ปรับลดมาที่ระดับ $120,000 ท่ามกลางการ Leverage สูงและความต้องการ ETF หลังจากที่ Bitcoin ทำสถิติสูงสุดใหม่ที่ $126,000 Bitcoin (BTC) กำลังเผชิญกับการทดสอบความผันผวนซึ่งเกิดจากการทำกำไรอย่างมีนัยสำคัญ และการสะสม leverage ของตลาด โดยข้อมูล On-chain ชี้ให้เห็นว่านักลงทุนรายย่อยระดับกลาง (ผู้ถือครอง 10–1,000 BTC) เป็นผู้ผลักดันความต้องการในปัจจุบัน ในขณะที่การขายของวาฬ (Whale) ได้ลดลง แนวรับที่แข็งแกร่งที่สุดไม่ได้อยู่ที่ $120,000 ทันที แต่กระจุกตัวอยู่ใกล้ $117,000 ซึ่งมีการถือครอง BTC ราว 190,000 เหรียญ นับเป็นโซนสำคัญที่ผู้ซื้อจะเข้ามาป้องกันราคา การเทขายในปัจจุบันถูกมองว่าเป็นการเคลื่อนไหวที่สมเหตุสมผลและสอดคล้องกับช่วงขาขึ้นที่ดีต่อสุขภาพ ความต้องการของ นักลงทุนสถาบัน ก็แข็งแกร่งเช่นกัน โดยมีเงินไหลเข้า Spot ETF ของสหรัฐฯ เกิน 4,800 ล้านดอลลาร์ ในเดือนตุลาคม อย่างไรก็ตาม การทะลุเหนือ $120,000 ได้ผลักดันให้ Open Interest ในตลาดฟิวเจอร์สขึ้นสู่ระดับสูงสุดใหม่ พร้อมด้วยอัตรา Funding Rate รายปีที่สูงกว่า 8% การขยายตัวอย่างรวดเร็วของสถานะ Long ที่ใช้เลเวอเรจนี้ก่อให้เกิด ความเปราะบางในระยะสั้น บ่งชี้ว่าตลาดมีความเสี่ยงที่จะเกิดการรีเซ็ตที่ขับเคลื่อนโดยการชำระบัญชีก่อนที่แนวโน้มขาขึ้นที่ยั่งยืนจะดำเนินต่อไปได้ ที่มา : Coinslate — — — — — — — — — — State Street เผยการลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัลของสถาบันอาจเพิ่มขึ้นสองเท่า และ 25% ของพอร์ตจะถูกแปลงเป็น Token ภายในปี 2030 รายงานฉบับใหม่ “Digital Assets Outlook 2025” โดย State Street บริษัทรับฝากสินทรัพย์รายใหญ่ระดับโลก ชี้ให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงเชิงกลยุทธ์ครั้งใหญ่ในหมู่นักลงทุนสถาบันที่มุ่งสู่เทคโนโลยีบล็อกเชน พบว่าผู้จัดการและเจ้าของสินทรัพย์สถาบันส่วนใหญ่กำลังเร่งการยอมรับ โดยเกือบ 60% วางแผนที่จะเพิ่มการจัดสรรสินทรัพย์ดิจิทัลในปีนี้ ที่สำคัญคือ การลงทุนเฉลี่ยในสินทรัพย์ดิจิทัลของสถาบันคาดว่าจะ เพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าภายในสามปี รายงานเน้นย้ำถึงขนาดของการเปลี่ยนแปลงที่คาดว่าจะเกิดขึ้นจาก Tokenization โดยกว่าครึ่งของผู้ตอบแบบสอบถามคาดการณ์ว่าระหว่าง 10% ถึง 24% ของการลงทุนสถาบันจะถูกแปลงเป็นโทเคนภายในปี 2030 โดยตลาดแรกที่คาดว่าจะนำไปใช้คือ ตลาดเอกชน (Private Markets) เช่น ตราสารทุนและตราสารหนี้ภาคเอกชน สถาบันการเงินกล่าวถึงประโยชน์หลักที่ผลักดันการยอมรับ ได้แก่ ความโปร่งใส ที่ดีขึ้น (52%), การซื้อขายที่รวดเร็วขึ้น (39%), และการลด ต้นทุนการปฏิบัติตามกฎระเบียบ (32%) โดยหลายแห่งคาดหวังการประหยัดต้นทุนที่เกิน 40% แนวโน้มนี้ได้รับการสนับสนุนจากการที่ 40% ของสถาบันได้จัดตั้งหน่วยงานสินทรัพย์ดิจิทัลโดยเฉพาะ ซึ่งเน้นย้ำว่าการเปลี่ยนแปลงนี้เป็นกลยุทธ์สำคัญ ที่มา : The Block — — — — — — — — — — JPMorgan คาด Solana ETF มีแนวโน้มอนุมัติ โดยคาดการณ์เงินไหลเข้าต่ำสุด 1,500 ล้านดอลลาร์ในปีแรก นักวิเคราะห์ของ JPMorgan คาดการณ์ว่าการอนุมัติ Spot Solana (SOL) ETF ในสหรัฐอเมริกา มีความเป็นไปได้สูงในระยะเวลาอันใกล้นี้ โดยมีปัจจัยสนับสนุนจากสัญญาฟิวเจอร์สที่มีอยู่แล้วในตลาด CME และการที่ SEC ได้นำมาตรฐานการลิสต์ที่ง่ายขึ้นมาใช้ อย่างไรก็ตาม มีการคาดการณ์ว่าความต้องการของนักลงทุนจะลดลงอย่างมากเมื่อเทียบกับความสำเร็จเริ่มต้นของ Bitcoin และ Ethereum ETF นอกจากนี้ JPMorgan ประเมินว่า Solana ETF จะดึงดูด เงินไหลเข้าสุทธิเพียงประมาณ 1,500 ล้านดอลลาร์ ในปีแรกของการซื้อขาย ซึ่งเป็นตัวเลขที่น้อยกว่าประมาณหนึ่งในเจ็ดของเงินไหลเข้าปีแรกของ Ethereum ETF การคาดการณ์นี้อ้างอิงจากกระแสเงินที่ไหลเข้าสู่ผลิตภัณฑ์การลงทุน Solana ที่มีอยู่ก่อนหน้า และมูลค่ารวมที่ถูกล็อก (TVL) ใน DeFi ของ Solana เมื่อเทียบกับ Ethereum นักวิเคราะห์เตือนว่าปัจจัยหลายอย่างอาจทำให้เงินไหลเข้าต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้ด้วยซ้ำ เช่น มุมมองของนักลงทุนที่เห็นว่า Solana มีสถานะที่อ่อนแอกว่า Ethereum ในฐานะแพลตฟอร์ม Smart Contract หลัก, กิจกรรม On-chain ที่ลดลง, การครอบงำของการซื้อขาย Memecoin บนเครือข่าย, และความเสี่ยงที่อาจเกิด ความเหนื่อยล้าของนักลงทุน จากการเปิดตัว ETF ใหม่จำนวนมาก ที่มา : The Block — — — — — — — — — — DappRadar ระบุ DeFi TVL ทำสถิติสูงสุด $237,000 ล้าน ใน Q3/2025 แม้จำนวน Wallet DApp จะลดลง 22% รายงานจาก DappRadar เน้นย้ำถึงความแตกต่างอย่างชัดเจนในระบบนิเวศของแอปพลิเคชันกระจายศูนย์ (DApp) ในช่วงไตรมาสที่ 3 ปี 2025 มูลค่ารวมที่ถูกล็อก (TVL) ใน DeFi พุ่งสูงทำสถิติใหม่ที่ 237,000 ล้านดอลลาร์ ซึ่งขับเคลื่อนโดยเงินทุนจากสถาบัน, โครงสร้างพื้นฐานใหม่สำหรับการ Tokenization สินทรัพย์ในโลกจริง (RWA), และความชัดเจนด้านกฎระเบียบที่เพิ่มขึ้น การเพิ่มขึ้นนี้ยืนยันถึงการเติบโตของประสิทธิภาพเงินทุนและความเชื่อมั่นในชั้นทางการเงินพื้นฐาน ในทางกลับกัน การมีส่วนร่วมของผู้ใช้งานรายย่อยลดลงอย่างเห็นได้ชัด โดยจำนวน Daily Unique Active Wallet ของ DApp ลดลง 22.4% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า ซึ่งบ่งชี้ถึงการเข้าร่วมที่ลดลงของผู้ใช้งานทั่วไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งใน DApp ที่เน้นด้าน SocialFi และ AI สำหรับประสิทธิภาพของเครือข่าย Ethereum ยังคงครองตำแหน่งผู้นำ DeFi ด้วย TVL ที่ $119,000 ล้าน แต่ BNB Chain ก็กลายเป็นผู้เล่นสำคัญ โดยมี TVL เพิ่มขึ้น 15% จนกลายเป็นเครือข่าย DeFi ที่ใหญ่เป็นอันดับสาม โดยรวมแล้ว ข้อมูลชี้ให้เห็นว่าในขณะที่เงินทุนของสถาบันยังคงหลั่งไหลเข้าสู่โครงสร้างพื้นฐานทางการเงินของ DeFi อย่างต่อเนื่อง ระบบนิเวศ DApp โดยรวมกำลังเผชิญกับความท้าทายในการรักษาการมีส่วนร่วมของผู้ใช้งานรายย่อย ที่มา : Cointelegraph — — — — — — — — — — XRP Leveraged ETF พุ่งทะลุ $500 ล้าน ส่งสัญญาณการเปลี่ยนไปสู่กลยุทธ์คริปโทฯ ที่มีความเสี่ยงสูงและถูกกำกับดูแล ความต้องการของนักลงทุนสำหรับ XRP กำลังขยายตัวเกินกว่าการถือครอง Spot ธรรมดา ดังที่เห็นได้จากความต้องการ กองทุน ETF แบบมีเลเวอเรจ (Leveraged ETF) ที่มุ่งเน้น XRP ที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว แนวโน้มนี้ส่งสัญญาณชัดเจนถึงการเปลี่ยนกลยุทธ์ของนักลงทุนไปสู่การใช้ช่องทางที่มีการกำกับดูแลเพื่อเพิ่มความเสี่ยงและผลตอบแทน ขนาดตลาดของผลิตภัณฑ์เหล่านี้เติบโตอย่างก้าวกระโดด โดยกองทุน XXRP ETF ของ Teucrium มียอดสินทรัพย์สุทธิเกิน 400 ล้านดอลลาร์ ภายในหกเดือน และ ProShares’ Ultra XRP ETF (ให้ผลตอบแทน 2 เท่าของราคา XRP รายวัน) สามารถรวบรวมสินทรัพย์ได้กว่า 100 ล้านดอลลาร์ โดยรวมแล้ว ผลิตภัณฑ์เลเวอเรจเหล่านี้จัดการสินทรัพย์รวมกันเกิน 500 ล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นตัวเลขที่น่าประทับใจที่เกิดขึ้นก่อนที่ Spot XRP ETF ใดๆ จะได้รับการอนุมัติในสหรัฐฯ เสียอีก นอกจากนี้ การเพิ่มขึ้นของกิจกรรม Derivatives ของ XRP ที่มี Open Interest ในฟิวเจอร์สเกือบ 9,000 ล้านดอลลาร์ ยืนยันว่าเงินทุนทั้งจากสถาบันและการเก็งกำไรกำลังใช้ช่องทางที่หลากหลายในการลงทุนในสินทรัพย์นี้ การมีส่วนร่วมหลายระดับนี้กำลังสร้างระบบนิเวศที่มีสภาพคล่องและหลากหลายมากขึ้นสำหรับ XRP ที่มา : Cryptoslate — — — — — — — — — — คำเตือน: -คริปโทเคอร์เรนซีและโทเคนดิจิทัลมีความเสี่ยงสูง ท่านอาจสูญเสียเงินลงทุนได้ทั้งจํานวน โปรดศึกษาและลงทุนให้เหมาะสมกับระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้ -ผลตอบแทนของสินทรัพย์ดิจิทัลในอดีตหรือผลการดําเนินงานในอดีต มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลตอบแทน ของสินทรัพย์ดิจิทัลหรือผลการดําเนินงานในอนาคต — — — — — — — — — — หากคุณยังเป็นมือใหม่ ค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมได้ในบทความ “แหล่งความรู้ มือใหม่หัดเทรดคริปโต เริ่มต้นที่นี่” แล้วมาเริ่มต้นเทรดได้วันนี้ที่ Bitkub Exchange → คลิกสมัครเลย — — — — — — — — — — Weekly News (3–10 Oct 2025): Bitcoin Rallies on Record 21 ETF Filings | BTC Defends $120K Despite High Leverage | Tokenization to Double Institutional Crypto Exposure by 2030 The crypto market is currently defined by a surge in institutional activity and strategic financial shifts, even as retail engagement cools. Bitcoin is maintaining strong price support near $120,000, buoyed by “Uptober’s” optimism and robust institutional ETF inflows exceeding $5 billion, though high market leverage signals potential volatility ahead. Simultaneously, major financial institutions like State Street are embracing a massive transformation: they predict institutional exposure to digital assets will double and up to 25% of portfolios will be tokenized by 2030, reflecting a consensus on tokenization’s role in reshaping the entire financial system. This institutional capital is fueling a record $237 billion in DeFi Total Value Locked (TVL), yet this growth is decoupled from the retail sector, as the number of active decentralized application (DApp) wallets dropped by 22%. Finally, altcoin products are seeing mixed forecasts, with XRP leveraged ETFs surpassing $500 million as traders seek regulated, high-risk exposure, while Solana ETFs are predicted to attract a modest $1.5 billion in first-year inflows, reflecting cautious demand outside of Bitcoin and Ethereum. — — — — — — — — — — Uptober Effect: Bitcoin Climbs Amid Record 21 Crypto ETF Filings as SEC Approvals Loom The start of October, often called “Uptober,” has initiated a surge of optimism, marked by a climb in Bitcoin’s price and a significant wave of Exchange-Traded Fund (ETF) applications. A notable 21 crypto ETF filings were submitted to the U.S. Securities and Exchange Commission (SEC) within the first eight days of the month, part of a larger trend of 31 filings over two months. This institutional interest includes submissions for diverse assets like iShares Bitcoin Premium Income ETF and Bitwise Avalanche ETF. The bullish sentiment is reinforced by data showing over $5 billion flowed into cryptocurrency-tracking ETFs in a single week. While a U.S. government shutdown has temporarily paused the SEC’s formal consideration of these products, analysts remain optimistic. The SEC’s recent approval of simplified standards for crypto ETF listings is expected to eventually open “the floodgates” for a wide range of crypto-based investment products once the regulatory body is fully operational again. Source: Cointelegraph — — — — — — — — — — Bitcoin Price Analysis: BTC Defends $120,000 Support Amid High Leverage and ETF Demand Following its new all-time high of $126,000, Bitcoin (BTC) is navigating a period of volatility driven by substantial profit-taking and a buildup of market leverage. On-chain data indicates that mid-tier holders (10–1,000 BTC) are currently driving demand, adding structural depth to the rally, while whale distribution has eased. Although limited support exists immediately below $120,000, a significantly stronger defense cluster resides near $117,000, where roughly 190,000 BTC are held, marking a critical zone for buyers. The current selling is seen as healthy and consistent with a bull phase. Institutional demand is also robust, with US spot ETF inflows surpassing $4.8 billion so far in October. However, the surge past $120,000 has pushed futures open interest to new highs, with annualized funding rates climbing above 8%. This rapid expansion in leveraged long positions introduces near-term fragility, suggesting the market is vulnerable to sharp, volatility-driven resets before the sustainable uptrend can resume. Source: Coinslate — — — — — — — — — — State Street Survey: Institutional Digital Asset Exposure to Double; 25% of Portfolios Tokenized by 2030 A new report, the 2025 Digital Assets Outlook by global custody giant State Street, suggests a massive strategic shift among institutional investors toward blockchain technology. The survey found that a majority of institutional asset managers and owners are accelerating their adoption, with nearly 60% planning to increase their digital asset allocations this year. Crucially, the average institutional exposure to digital assets is projected to double within the next three years. Over half of respondents anticipate that between 10% and 24% of institutional investments will be tokenized by the year 2030, with private markets identified as the initial focus. Institutions cite the main benefits driving adoption as improved transparency (52%), faster trading (39%), and significant reductions in compliance costs (32%), with many expecting cost savings to exceed 40%. The trend is supported by 40% of institutions establishing dedicated digital asset units, underscoring the strategic nature of the shift. Source: The Block — — — — — — — — — — JPMorgan: Solana ETFs Likely Approved, but Expect Low $1.5 Billion Inflows in First Year JPMorgan analysts predict that U.S. regulatory approval for spot Solana (SOL) Exchange-Taded Funds (ETFs) is highly probable in the near term, reinforced by the existence of a futures contract at CME and simplified SEC listing standards. However, the bank forecasts a much more muted investor response compared to the initial success of Bitcoin and Ethereum ETFs. JPMorgan estimates that Solana ETFs will attract only around $1.5 billion in net inflows during their first year of trading. This figure is approximately one-seventh the total first-year inflows for Ethereum ETFs. This projection is benchmarked against early flows into existing Solana investment products and the relative size of Solana’s DeFi Total Value Locked (TVL). Analysts caution that several factors could lead to even lower inflows, including a perceived weaker standing of Solana versus Ethereum as a decentralized finance hub, a recent decline in on-chain activity, the dominance of memecoin trading, and potential investor fatigue stemming from multiple new ETF launches. Source: The Block — — — — — — — — — — DeFi TVL Hits Record $237B in Q3 2025, Despite 22% Drop in DApp Active Wallets: DappRadar A DappRadar report highlights a growing divergence in the decentralized application (DApp) ecosystem during Q3 2025. On one hand, DeFi Total Value Locked (TVL) soared to a record high of $237 billion, driven by institutional capital, new infrastructure for Real-World Asset (RWA) tokenization, and greater regulatory clarity. This surge confirms growing capital efficiency and confidence in the financial base layer. Conversely, retail engagement showed a notable decline, with the average number of daily unique active DApp wallets dropping by 22.4% compared to the previous quarter. This drop suggests weaker retail participation, particularly in SocialFi and AI-focused DApps, which experienced the largest exodus of users. While Ethereum maintained its dominance with $119 billion in TVL, BNB Chain emerged as a key mover, seeing a 15% gain in locked assets to become the third-largest DeFi network, demonstrating that institutional adoption is outpacing broader consumer use. Source: Cointelegraph — — — — — — — — — — XRP Leveraged ETFs Surge Past $500M, Signaling Shift to Higher-Risk, Regulated Crypto Strategies Investor demand for XRP is expanding beyond simple spot holdings, evidenced by the surge in leveraged XRP-focused Exchange-Traded Funds (ETFs). This trend signals a clear shift in investor strategy toward utilizing regulated channels for amplified, higher-risk exposure. The market for these products is growing quickly: Teucrium’s XXRP ETF has surpassed $400 million in net assets within six months, and ProShares’ Ultra XRP ETF (targeting 2x daily performance) gathered over $100 million. Combined, these leveraged products now manage over $500 million, an impressive total achieved before any U.S. spot XRP ETF has been approved. Further enhancing the ecosystem, GraniteShares has filed to launch both 3x Long and 3x Short Daily XRP ETFs. The concurrent increase in XRP derivatives activity, with futures open interest nearing $9 billion, confirms that institutional and speculative capital are utilizing multiple channels to engage with the asset, creating a more liquid and diversified market structure. Source: Cryptoslate — — — — — — — — — — Disclaimer: - Cryptocurrency and digital tokens involve high risks; investors may lose all investment money and should study information carefully and make investments according to their own risk profile. -Past Returns does not guarantee future returns/performance. — — — — — — — — — — Start your crypto trading journey today! If you’re new to the space, get all the information you need in our guide, “Crypto Trading for Beginners: Start Here.” Ready to trade? Sign up now on Bitkub Exchange → Click to register! — — — — — — — — — — ข่าวรายสัปดาห์ 4–10 ตุลา: Bitcoin พุ่งขึ้นพร้อมรออนุมัติ ETF 21 รายการ | ราคา BTC ลดแม้ยอด Leverage was originally published in Bitkub.com on Medium, where people are continuing the conversation by highlighting and responding to this story.