บทความ
ข่าวรายสัปดาห์ 9–15 สิงหา 68: บริษัท BTCS ซื้อ ETH รวม 70,140 ETH | ก.ล.ต. สหรัฐฯ เลื่อนตัดสินใจ Solana ETF | Stablecoin อาจมียอดการชำระเงินสูงถึง 1 ล้านล้านดอลลาร์ภายในปี 2030
บริษัท BTCS เผยว่าถือครอง ETH มูลค่ากว่า 321 ล้านดอลลาร์ และวางแผนระดมทุน 2,000 ล้านดอลลาร์ ในขณะเดียวกัน ก.ล.ต. สหรัฐฯ ได้เลื่อนการตัดสินใจเกี่ยวกับ Solana ETF ไปเป็นเดือนตุลาคม นอกจากนี้ยังมีรายงานว่า stablecoin อาจเติบโตจนมียอดการชำระเงินถึง 1 ล้านล้านดอลลาร์ภายในปี 2030 ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อนโยบายการเงินของสหรัฐฯ ด้านธุรกิจขุด Bitcoin หุ้นของ TeraWulf พุ่งขึ้นกว่า 50% หลังจากทำข้อตกลง AI มูลค่า 3,700 ล้านดอลลาร์กับ Google และสุดท้าย กระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ ได้เปิดเผยหมายจับเพื่อยึดคริปโตมูลค่า 2.8 ล้านดอลลาร์จากผู้ต้องสงสัยปฏิบัติการแรนซัมแวร์
— — — — — — — — — —
บริษัท BTCS เพิ่ม Ethereum ในงบดุลการคลังบริษัทรวม 70,140 ETH พร้อมรายงานรายได้สูงสุดเป็นประวัติการณ์
จากรายงานผลประกอบการไตรมาสที่สอง บริษัท BTCS ปัจจุบันถือครอง Ethereum (ETH) อยู่ที่ 70,140 เหรียญ ซึ่งมีมูลค่ามากกว่า 321 ล้านดอลลาร์ บริษัทที่จดทะเบียนในตลาด Nasdaq แห่งนี้ ซึ่งเป็นหนึ่งในบริษัทบล็อกเชนที่เก่าแก่ที่สุดที่ซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ ยังทำรายได้ “สูงสุดเป็นประวัติการณ์” ที่ 4.46 ล้านดอลลาร์ในช่วงครึ่งแรกของปี 2025 ซึ่งเพิ่มขึ้น 341% จากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนหน้า การเติบโตของรายได้ส่วนใหญ่มาจากบริการ Builder+ ซึ่งรายได้พุ่งขึ้นเป็น 2.51 ล้านดอลลาร์ จากเดิมเพียง 76,000 ดอลลาร์เมื่อปีที่แล้ว แม้ว่ารายได้จะเติบโตขึ้น แต่ BTCS รายงานผลขาดทุนสุทธิ 13.39 ล้านดอลลาร์ในช่วงหกเดือน นอกจากนี้ บริษัทตั้งใจที่จะระดมทุนสูงถึง 2 พันล้านดอลลาร์จากการขายหุ้น ราคาหุ้นของบริษัทเพิ่มขึ้นมากกว่า 71% ตั้งแต่ต้นปี ซึ่งอาจเป็นเพราะความสนใจที่เพิ่มขึ้นในบริษัทคลังสินทรัพย์คริปโต Charles Allen ซีอีโอของ BTCS กล่าวว่าด้วยการถือครอง ETH และเงินทุนในปัจจุบัน บริษัทจึงอยู่ในตำแหน่งที่พร้อมจะขยายการดำเนินงานและเพิ่มการสร้าง ETH
ที่มา : The Block
— — — — — — — — — —
ก.ล.ต. สหรัฐฯ เลื่อนการตัดสินใจเกี่ยวกับข้อเสนอ Solana ETF ของ Bitwise และ 21Shares ไปเป็นเดือนตุลาคม
คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ของสหรัฐฯ (SEC) ได้เลื่อนการตัดสินใจเกี่ยวกับข้อเสนอสำหรับกองทุนซื้อขายแลกเปลี่ยน Solana ETF ที่ยื่นโดย Bitwise และ 21Shares ออกไป กำหนดเส้นตายใหม่สำหรับการตัดสินใจเกี่ยวกับ Bitwise Solana ETF และ 21Shares Core Solana ETF ถูกกำหนดไว้เป็นวันที่ 16 ตุลาคม จากการยื่นเอกสาร ก.ล.ต. ระบุว่าต้องการ “ระยะเวลาที่ยาวนานขึ้น” เพื่อพิจารณาการเปลี่ยนแปลงกฎที่เสนอและประเด็นที่เกิดขึ้นอย่างเหมาะสม การดำเนินการนี้สอดคล้องกับพฤติกรรมในอดีตของหน่วยงานที่มักจะขยายกำหนดเส้นตายสำหรับข้อเสนอ ETF ที่เกี่ยวข้องกับคริปโตที่คล้ายคลึงกัน อย่างไรก็ตาม BlackRock ซึ่งเป็นผู้จัดการสินทรัพย์รายใหญ่ที่ได้ซื้อขาย Bitcoin และ Ethereum ETF ไปแล้ว ไม่ได้อยู่ในกลุ่มนี้และกล่าวว่าไม่มีแผนที่จะเปิดตัวกองทุน SOL ในปัจจุบัน ท่าทีล่าสุดของ ก.ล.ต. ต่อคริปโต ETF มีความผ่อนปรนมากขึ้น โดยได้อนุมัติ spot Bitcoin และ Ethereum ETF ในปีที่ผ่านมา หลังจากการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองและคำตัดสินของศาลที่สำคัญ
ที่มา : The Block
— — — — — — — — — —
รายงานจาก Keyrock และ Bitso ระบุ Stablecoin อาจมียอดการชำระเงินสูงถึง 1 ล้านล้านดอลลาร์ภายในปี 2030 และอาจปรับเปลี่ยนนโยบายการเงินของสหรัฐฯ
รายงานฉบับใหม่โดย Keyrock และ Bitso ชี้ว่า stablecoin กำลังจะมียอดการชำระเงินรายปีสูงถึง 1 ล้านล้านดอลลาร์ภายในปี 2030 และอาจเติบโตจนมีสัดส่วน 10% ของปริมาณเงินในระบบของสหรัฐฯ การเติบโตนี้เกิดจากความสามารถในการอำนวยความสะดวกในการชำระเงินที่ถูกกว่าถึง 13 เท่าและเร็วกว่าธนาคารแบบดั้งเดิมอย่างมีนัยสำคัญ รายงานระบุว่า stablecoin เป็น “ระบบปฏิบัติการทางการเงินใหม่” ที่ข้ามตัวกลางและเปลี่ยนรูปแบบการแลกเปลี่ยนมูลค่าทั่วโลก ตลาด stablecoin มีการเติบโตอย่างรวดเร็ว จาก 4,000 ล้านดอลลาร์ในปี 2020 เป็นมากกว่า 280 พันล้านดอลลาร์ในปัจจุบัน โดยผู้ออก stablecoin กลายเป็นผู้ถือพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ รายใหญ่ Stablecoin ใช้โมเดล “แซนวิช” สำหรับการชำระเงินข้ามพรมแดน โดยแทนที่ธนาคารตัวแทนด้วยสะพานที่เขียนโปรแกรมได้ โครงสร้างพื้นฐานนี้ช่วยให้การชำระบัญชีทันทีและการสร้างบัญชีเสมือนที่เลียนแบบบัญชีธนาคารแบบดั้งเดิมแต่ใช้เทคโนโลยีของ Stablecoin
ที่มา : Cryptonews
— — — — — — — — — —
หุ้นของบริษัทขุด Bitcoin TeraWulf พุ่งขึ้น 50% หลังทำข้อตกลง AI มูลค่า 3,700 ล้านดอลลาร์กับ Fluidstack และ Google
ราคาหุ้นของบริษัทขุด Bitcoin TeraWulf (WULF) เพิ่มขึ้นกว่า 50% หลังจากบริษัทประกาศข้อตกลงสำคัญระยะยาว 10 ปี มูลค่า 3,700 ล้านดอลลาร์กับ Fluidstack ผู้ให้บริการคอมพิวเตอร์ประสิทธิภาพสูงสำหรับ AI ข้อตกลงนี้ยังมีตัวเลือกในการขยายสัญญาออกไปอีกสองครั้ง ครั้งละห้าปี ซึ่งอาจทำให้มูลค่ารวมสูงถึง 8,700 ล้านดอลลาร์ ตามข้อตกลง TeraWulf จะจัดหาพลังงานคอมพิวเตอร์มากกว่า 200 เมกะวัตต์จากศูนย์ข้อมูลในรัฐนิวยอร์ก ซึ่งใช้พลังงานจากไฟฟ้าพลังน้ำและพลังงานนิวเคลียร์ สิ่งสำคัญของข้อตกลงนี้คือการมีส่วนร่วมของ Google โดยบริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่จะให้การสนับสนุนภาระผูกพันการเช่าของ Fluidstack สูงถึง 1,800 ล้านดอลลาร์ และเพื่อแลกเปลี่ยนกัน Google จะได้รับใบสำคัญแสดงสิทธิสำหรับหุ้น 8% ใน TeraWulf บริษัทวางแผนที่จะส่งมอบ 40 เมกะวัตต์ภายในครึ่งแรกของปี 2026 และคาดว่าจะติดตั้ง 200 เมกะวัตต์เต็มจำนวนภายในสิ้นปีนั้น ข่าวดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจาก TeraWulf รายงานผลขาดทุนสุทธิกว่า 79 ล้านดอลลาร์ในช่วงหกเดือนแรกของปี 2025
ที่มา : The Block
— — — — — — — — — —
กระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ เปิดหมายจับเพื่อยึดคริปโต 2.8 ล้านดอลลาร์จากผู้ต้องสงสัยปฏิบัติการ Ransomware
กระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ ได้เปิดเผยหมายจับเพื่อยึดสกุลเงินดิจิทัลมูลค่าประมาณ 2.8 ล้านดอลลาร์ เงินสด 70,000 ดอลลาร์ และรถยนต์หรูจาก Ianis Aleksandrovich Antropenko ซึ่งถูกกล่าวหาว่าเป็นผู้ปฏิบัติการแรนซัมแวร์ Antropenko ถูกกล่าวหาว่าใช้แรนซัมแวร์โจมตีบุคคล ธุรกิจ และองค์กรทั่วโลก ขโมยข้อมูลของพวกเขาและเรียกค่าไถ่เพื่อถอดรหัสข้อมูล งดเว้นการเผยแพร่ หรือลบข้อมูล หมายจับที่เปิดเผยนี้ยื่นฟ้องในศาลแขวงในเขต Eastern District of Virginia, Central District of California และ Northern District of Texas ตามอัยการ เงินที่ได้จากกิจกรรมที่ผิดกฎหมายเหล่านี้ถูกฟอกด้วยวิธีการต่าง ๆ รวมถึงบริการผสมคริปโต ChipMixer ซึ่งถูกปิดตัวลงในปี 2023 บทความนี้เขียนโดย Sarah Wynn และเผยแพร่เมื่อวันที่ 14 สิงหาคม 2025
ที่มา : The Block
— — — — — — — — — —
ธนาคารสหรัฐฯ เตือนถึงการย้ายเงิน 6.6 ล้านล้านดอลลาร์ไป Stablecoin ท่ามกลางการถกเถียงเกี่ยวกับ GENIUS Act
กลุ่มธนาคารของสหรัฐฯ ซึ่งนำโดย Bank Policy Institute (BPI) ได้เตือนสมาชิกสภานิติบัญญัติถึงการย้ายเงินฝากที่อาจเกิดขึ้นถึง 6.6 ล้านล้านดอลลาร์ไปสู่ stablecoin เนื่องจากมี “ช่องโหว่” ในกฎหมาย GENIUS Act ที่เพิ่งผ่านไป BPI อ้างว่าในขณะที่ร่างกฎหมายป้องกันไม่ให้ผู้ออก stablecoin เสนอผลตอบแทนโดยตรง แต่ก็ล้มเหลวในการหยุดการแลกเปลี่ยนคริปโตหรือบริษัทในเครือจากการร่วมมือกับผู้ออกเพื่อเสนอผลตอบแทนทางอ้อม กลุ่มธนาคารแย้งว่าการละเลยนี้อาจทำให้ขีดความสามารถในการปล่อยสินเชื่อของภาคธนาคารลดลงอย่างมาก ซึ่งนำไปสู่อัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้นและต้นทุนการกู้ยืมที่เพิ่มขึ้นสำหรับธุรกิจและครัวเรือน ในทางกลับกัน ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในอุตสาหกรรมคริปโต รวมถึง Paul Grewal ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายกฎหมายของ Coinbase และ CEO Brian Armstrong ได้ปฏิเสธคำเตือนเหล่านี้ พวกเขายืนยันว่าความกังวลของธนาคารนั้นเกินจริงและมีสาเหตุมาจากความต้องการที่จะยับยั้งการแข่งขันมากกว่าความกังวลที่แท้จริงเกี่ยวกับความเสี่ยงเชิงระบบ Grewal ชี้ให้เห็นว่าสภาคองเกรสได้พิจารณาและปฏิเสธข้อเสนอที่คล้ายคลึงกันไปแล้ว และ Armstrong แนะนำว่าธนาคารกังวลเกี่ยวกับการปกป้องผลกำไรของตนเองมากกว่า Mikko Ohtamo ผู้ร่วมก่อตั้ง Trading Protocol เสริมว่าธนาคารกำลังต่อต้าน stablecoin เพราะพวกมันเป็นภัยคุกคามต่อโมเดลเงินฝากแบบดั้งเดิม และการเสนอบัญชีออมทรัพย์ที่สามารถแข่งขันได้มากขึ้นจะเป็นทางออกที่ดีกว่า
ที่มา : CryptoSlate
— — — — — — — — — —
คำเตือน:
-คริปโทเคอร์เรนซีและโทเคนดิจิทัลมีความเสี่ยงสูง ท่านอาจสูญเสียเงินลงทุนได้ทั้งจํานวน โปรดศึกษาและลงทุนให้เหมาะสมกับระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้
-ผลตอบแทนของสินทรัพย์ดิจิทัลในอดีตหรือผลการดําเนินงานในอดีต มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลตอบแทน ของสินทรัพย์ดิจิทัลหรือผลการดําเนินงานในอนาคต
— — — — — — — — — —
หากคุณยังเป็นมือใหม่ ค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมได้ในบทความ “แหล่งความรู้ มือใหม่หัดเทรดคริปโต เริ่มต้นที่นี่” แล้วมาเริ่มต้นเทรดได้วันนี้ที่ Bitkub Exchange → คลิกสมัครเลย
— — — — — — — — — —
Weekly News (9–15 Aug 2025): BTCS Ethereum Holdings 70,140 ETH | SEC Delays Solana ETF Decision | Stablecoins and US Monetary Policy
The Ethereum treasury firm BTCS announced it holds over $321 million in ETH and plans to raise $2 billion. Simultaneously, the U.S. SEC has delayed its decision on a Solana ETF until October. A report also suggests that stablecoins could grow to a $1 trillion payment volume by 2028, potentially impacting U.S. monetary policy. On the business front, shares of Bitcoin miner TeraWulf surged over 50% after a $3.7 billion AI deal with Google. Lastly, the U.S. Justice Department has unsealed a warrant to seize $2.8 million in crypto from an alleged ransomware operator.
— — — — — — — — — —
Ethereum Treasury Firm BTCS Holds 70,140 ETH, Reports Record Revenue and Plans to Raise $2B
According to its second-quarter earnings report, Ethereum treasury firm BTCS Inc. now holds 70,140 ETH, which is valued at over $321 million. The Nasdaq-listed company, which is one of the oldest publicly traded blockchain firms, also achieved a “revenue record” of $4.46 million in the first half of 2025, marking a 341% increase from the same period in the previous year. This revenue growth was significantly driven by its Builder+ service, which saw its revenue jump to $2.51 million from just $76,000 a year ago. Despite its growing revenue, BTCS reported a net loss of $13.39 million for the six-month period, which was attributed to investments in its Builder+ service, depreciation losses, and realized losses from the sale of non-Ethereum crypto assets. To further its strategy of accumulating Ethereum, the firm intends to raise up to $2 billion through share sales. The company’s stock has increased by over 71% since the beginning of the year, likely due to the rising interest in crypto treasury companies. BTCS’s CEO, Charles Allen, stated that with the current ETH holdings and capital, the company is well-positioned to scale its operations and increase ETH generation.
Reference: The Block
— — — — — — — — — —
US SEC Delays Decision on Bitwise and 21Shares Solana ETF Proposals Until October
The U.S. Securities and Exchange Commission (SEC) has postponed its decision on proposals for Solana exchange-traded funds (ETFs) submitted by Bitwise and 21Shares. The new deadline for a ruling on both the Bitwise Solana ETF and the 21Shares Core Solana ETF is now set for October 16. According to the filings, the SEC stated that it needs a “longer period” to properly consider the proposed rule changes and the issues they raise. This move is consistent with the agency’s past behavior of extending deadlines for similar crypto-related ETF proposals. Other applications for Solana ETFs, including those from Grayscale and Fidelity, have also experienced similar delays, which are described as a routine part of the process. The article notes that a number of firms, including Proshares and Canary, are also awaiting the SEC’s approval for their own SOL ETF proposals. However, BlackRock, a major asset manager that already lists and trades bitcoin and Ethereum ETFs, is not among them and has stated it has no current plans to launch a SOL fund. The SEC’s recent posture toward crypto ETFs has become more accommodating, having approved spot bitcoin and Ethereum ETFs in the past year following a change in presidential administration and a key court ruling.
Reference: The Block
— — — — — — — — — —
Stablecoins Set to Capture $1 Trillion Payment Volume by 2028, Could Reshape US Monetary Policy: Report
A new report by Keyrock and Bitso suggests that stablecoins are poised to capture $1 trillion in annual payment volume by 2030 and could grow to comprise 10% of the U.S. money supply. This growth is attributed to their ability to facilitate payments up to 13 times cheaper and significantly faster than traditional banks. The report positions stablecoins as a “new financial operating system” that bypasses intermediaries and transforms global value exchange. The stablecoin market has seen explosive growth, from $4 billion in 2020 to over $280 billion today, with issuers becoming major holders of U.S. Treasuries. Stablecoins use a “sandwich” model for cross-border payments, replacing correspondent banks with programmable bridges. This infrastructure allows for instant settlement and the creation of virtual accounts that mimic traditional bank accounts but are based on stablecoin technology, greatly benefiting entrepreneurs in emerging markets. Stablecoin issuers generate revenue by investing their holdings in low-risk instruments like U.S. Treasuries, which gives them a strong macroeconomic impact on yield curve dynamics. The report also highlights the potential for stablecoins to disrupt the massive $7.5 trillion daily foreign exchange market by enabling atomic payment-versus-payment transactions. Despite their accelerating adoption, major U.S. banking associations are urging for tighter regulations, citing concerns about potential deposit outflows. However, companies like Coinbase and PayPal are continuing to push forward with their stablecoin yield programs.
Reference: Cryptonews
— — — — — — — — — —
Bitcoin Miner TeraWulf Shares Skyrocket 50% Following $3.7B AI Deal with Fluidstack and Google
Shares of Bitcoin miner TeraWulf (WULF) jumped over 50% after the company announced a significant 10-year deal worth $3.7 billion with AI high-performance computing provider, Fluidstack. The agreement also includes two five-year extension options, which could bring the total value to $8.7 billion. As part of the arrangement, TeraWulf will provide over 200 megawatts of compute power from its data center in western New York, which is powered by hydroelectric and nuclear energy. A key aspect of the deal is Google’s involvement; the tech giant will backstop up to $1.8 billion of Fluidstack’s lease obligations and, in exchange, will receive warrants for an 8% equity stake in TeraWulf. The company plans to deliver 40 MW by the first half of 2026, with the full 200 MW expected to be deployed by the end of that year. This news comes after TeraWulf reported a net loss of over $79 million for the first six months of 2025.
Reference: The Block
— — — — — — — — — —
US Justice Department Unseals Warrants to Seize $2.8M in Crypto from Alleged Ransomware Operator
The U.S. Justice Department has unsealed warrants to seize approximately $2.8 million in cryptocurrency, $70,000 in cash, and a luxury car from Ianis Aleksandrovich Antropenko. Antropenko is accused of deploying ransomware to target individuals, businesses, and organizations globally, stealing their data and demanding ransom payments to either decrypt the data, refrain from publishing it, or delete it. The unsealed warrants were filed in district courts in the Eastern District of Virginia, the Central District of California, and the Northern District of Texas. According to prosecutors, the money obtained through these illicit activities was laundered using various methods, including the crypto mixing service ChipMixer, which was taken down in 2023.
Reference: The Block
— — — — — — — — — —
US Banks Warn of $6.6 Trillion Stablecoin Shift as GENIUS Act Debate Heats Up
A coalition of U.S. banking groups, led by the Bank Policy Institute (BPI), has warned lawmakers about a potential $6.6 trillion shift of deposits to stablecoins due to a “loophole” in the recently passed GENIUS Act. The BPI claims that while the bill prevents stablecoin issuers from offering direct yields, it fails to stop crypto exchanges or affiliated firms from partnering with issuers to provide indirect yields. The banking groups argue that this oversight could significantly shrink the lending capacity of the banking sector, leading to higher interest rates and increased borrowing costs for businesses and households. In response, crypto industry stakeholders, including Coinbase’s Chief Legal Officer Paul Grewal and CEO Brian Armstrong, have rejected these warnings. They assert that the banks’ concerns are exaggerated and stem from a desire to stifle competition rather than from genuine worries about systemic risk. Grewal pointed out that Congress had already considered and rejected similar proposals, and Armstrong suggested the banks are more concerned with protecting their profits. Mikko Ohtama, co-founder of Trading Protocol, added that banks are resisting stablecoins because they threaten traditional deposit models and that offering more competitive savings accounts would be a better solution.
Reference: CryptoSlate
— — — — — — — — — —
Disclaimer:
- Cryptocurrency and digital tokens involve high risks; investors may lose all investment money and should study information carefully and make investments according to their own risk profile.
-Past Returns does not guarantee future returns/performance.
— — — — — — — — — —
ที่มา:
Medium