บทความ

รู้จัก Zilliqa ผู้บุกเบิกเทคโนโลยี Sharding บนบล็อกเชน

Ziliqa หรือ ZIL นับเป็นอีกหนึ่งคริปโทเคอร์เรนซีที่โดดเด่นในด้านความสามารถในการขยายขนาดเพื่อรองรับธุรกรรมจำนวนมาก อีกทั้งยังรองรับ Smart contracts จึงสามารถพัฒนา dApps ขึ้นบนเครือข่ายได้ Ziliqa จึงเป็นอีกเชนหนึ่งที่นักพัฒนาเลือกใช้และถูกพูดถึงบ่อย ๆ ในวงการ

ในบทความนี้ Bitkub Blog จะมาให้สรุปให้ว่า Ziliqa คืออะไร ใช้เทคโนโลยีอะไร และใครคือผู้พัฒนา ไปดูกันครับ

Zilliqa คืออะไร?

Ziliqa เป็นเครือข่ายบล็อกเชนที่ถูกพัฒนาขึ้นในปี 2017 โดยถูกออกแบบมาเพื่อแก้ปัญหาด้านการขยายขนาด (Scalability) ที่เครือข่ายบล็อกเชนรุ่นใหญ่อย่าง Bitcoin และ Ethereum กำลังเผชิญอยู่ ณ ตอนนั้น

โดย Ziliqa เลือกใช้เทคโนโลยี Sharding ที่เป็นการแบ่งหน่วยประมวลในเครือข่ายออกเป็นกลุ่ม ๆ ที่เรียกว่า Shard ซึ่งกลุ่มของหน่วยประมวลผลเหล่านี้สามารถประมวลผลธุรกรรมแบบขนานได้พร้อมกัน นั่นจึงทำให้ Ziliqa เป็นบล็อกเชนที่ความสามารถในการรองรับธุรกรรมจำนวนมากได้อย่างมีประสิทธิภาพอันดับต้น ๆ ของวงการ

หน้าที่ของเหรียญ ZIL

Ziliqa มีเหรียญหลักประจำเครือข่ายอย่างเหรียญ ZIL ซึ่งมีหน้าที่สำคัญดังนี้

1.เป็นสื่อกลางการแลกเปลี่ยน: หน้าที่แรกของ ZIL คือการเป็นสื่อกลางสำหรับการแลกเปลี่ยนมูลค่าหรือการทำธุรกรรมบน Ziliqa ซึ่งรวมถึงการใช้จ่ายเป็นค่าธรรมเนียมในการใช้งาน Smart Contract และการโอนเหรียญภายในเครือข่าย นอกจากนี้ ZIL ยังถูกจ่ายเป็นรางวัลสำหรับผู้มีส่วนร่วมกับระบบความปลอดภัยและระบบฉันทามติของเครือข่ายอีกด้วย

2.การบริหาร: ผู้ถือเหรียญ ZIL จะได้สิทธิ์ให้สามารถมีส่วนร่วมกับระบบบริหารของเครือข่าย Ziliqa ได้ผ่านการร่วมโหวตและออกข้อเสนอที่เกี่ยวกับการพัฒนาเครือข่าย เช่น การอัปเกรด การแก้ไขโปรโตคอล การพัฒนาระบบนิเวศ เป็นต้น หมายความว่าผู้ถือเหรียญ ZIL จะสามารถร่วมกำหนดอนาคตของ Ziliqa ได้นั่นเอง

3.การล็อกเหรียญ: ผู้ใช้สามารถนำเหรียญ ZIL ไปล็อก (Stake) ไว้ในเครือข่ายเพื่อร่วมเป็นผู้ตรวจสอบธุรกรรม (Validator) ร่วมเสริมสร้างปลอดภัยให้กับเครือข่าย และรับรางวัลเป็นเหรียญ ZIL เพิ่มได้

จุดเด่นของ Zilliqa

การขยายขนาด: จุดเด่นแรกของ Ziliqa ก็คือความสามารถในการขยายขนาดด้วยเทคโนโลยี Sharding ทำให้สามารถรองรับธุรกรรมจำนวนมากที่เข้ามาพร้อมกันได้ดีเมื่อเทียบกับเครือข่ายบล็อกเชนทั่วไป แถมยิ่งเครือข่ายมีขนาดใหญ่เท่าไหร่ จำนวน Shard ก็จะยิ่งเพิ่มมากขึ้น ทำให้ยิ่งสามารถรองรับธุรกรรมได้มากขึ้นไปอีก ซึ่งความสามารถในการขยายขนาดนับเป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่จะทำให้บล็อกเชนประสบความสำเร็จ

ความปลอดภัย: Zilliqa ใช้ระบบฉันทามติที่เรียกว่า Practical Byzantine Fault Tolerance (pBFT) ที่ช่วยให้เครือข่ายสามารถหาข้อตกลงร่วมกันและยืนยันธุรกรรมได้ พร้อม ๆ กับป้องกันผู้ไม่ประสงค์ดีในเครือข่าย ทำให้เครือข่าย Zilliqa มีความปลอดภัยสูงและเหมาะสำหรับการใช้ Smart Contract เพื่อจัดการข้อมูลที่มีความละเอียดอ่อน

เป็นมิตรกับนักพัฒนา: Zilliqa เพียบพร้อมไปด้วยเครื่องมือสำหรับนักพัฒนามากมาย ไม่ว่าจะเป็น Libraries หรือเอกสารด้านเทคนิคที่ออกแบบมาเพื่อช่วยเหลือให้นักพัฒนาสามารถสร้างแอปพลิเคชันกระจายอำนาจ ((dApp) ได้อย่างง่ายดายที่สุด อีกทั้งยังรองรับภาษาโปรแกรมที่หลายหลาย ซึ่งรวมถึง Solidity ภาษาโปรแกรมสำหรับเขียน Smart Contract ที่ได้รับความนิยมมากที่สุด

ผู้พัฒนา Zilliqa

เครือข่าย Zilliqa ได้รับการพัฒนาขึ้นโดยทีมนักวิจัยผู้เชี่ยวชาญจากมหาวิทยาลัยแห่งชาติสิงคโปร์ (National University of Singapore) นำโดย Xinshu Dong, Yaoqi Jia, Amrit Kumar, และ Prateek Saxena ซึ่งพวกเขามีความเชี่ยวชาญในด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์และระบบกระจายอำนาจ นั่นจึงทำให้ Zilliqa เป็นเครือข่ายที่ความสำคัญกับการขยายขนาดและความปลอดภัย

นอกจากกลุ่มผู้ร่วมก่อตั้งแล้ว Zilliqa ก็สามารถดึงดูดสมาชิกใหม่ ๆ ที่ความเชี่ยวชาญทั้งในด้านบล็อกเชน การเข้ารหัส การเขียนซอฟต์แวร์ และกลยุทธ์ทางธุรกิจ ซึ่งล้วนเป็นปัจจัยที่ช่วยผลักดันให้ Ziliqa เติบโตขึ้นมาเป็นบล็อกเชนลำดับต้น ๆ ของโลกได้ในปัจจุบัน

สรุป

Zilliqa คือเครือข่ายบล็อกเชนเครือข่ายแรกที่นำเทคโนโลยี Sharding มาใช้ ซึ่งเป็นการแบ่งหน่วยประมวลผลออกเป็นกลุ่มเพื่อการประมวลผลแบบคู่ขนาน ทำให้เครือข่ายมีความสามารถในการขยายขนาดเป็นอย่างดี นอกจากนี้ Ziliqa ยังมีความโดดเด่นในด้านความปลอดภัยด้วยระบบฉันทามติแบบ Practical Byzantine Fault Tolerance และยังสามารถรองรับ Smart Contract ได้ ทำให้นักพัฒนาสามารถสร้างแอปพลิเคชันบนเครือข่ายเพื่อการใช้งานที่หลากหลายได้ ด้วยเหตุนี้ Ziliqa จึงเป็นหนึ่งบล็อกเชนชั้นนำในปัจจุบัน

อ้างอิง Ziliqa, EasyCrypto

_________________________________________

บทความ Bitkub Blog ที่คุณอาจสนใจ
ไขทุกเรื่องราวเกี่ยวกับ Cryptocurrency ว่าคืออะไร และทำไมถึงน่าสนใจ ?
Smart Contract คืออะไร?
อยากเป็นนักพัฒนาบล็อกเชนต้องเรียนภาษาโปรแกรมต่อไปนี้

_________________________________________

มาเรียนรู้เรื่อง บิตคอยน์ (Bitcoin) และ Cryptocurrency ที่จะช่วยให้คุณเข้าใจโลกของคริปโทฯ ได้ดีขึ้น ที่ Bitkub Blog

หากคุณยังเป็นมือใหม่ ค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมได้ในบทความ “แหล่งความรู้ มือใหม่หัดเทรดคริปโต เริ่มต้นที่นี่”

*คริปโทเคอร์เรนซีและโทเคนดิจิทัลมีความเสี่ยงสูง ท่านอาจสูญเสียเงินลงทุนได้ทั้งจํานวน โปรดศึกษาและลงทุนให้เหมาะสมกับระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้

**สินทรัพย์ดิจิทัลมีความเสี่ยง โปรดศึกษาและลงทุนให้เหมาะสมกับระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้

***ผลตอบแทนของสินทรัพย์ดิจิทัลในอดีตหรือผลการดําเนินงานในอดีต มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลตอบแทน ของสินทรัพย์ดิจิทัลหรือผลการดําเนินงานในอนาคต”