บทความ

ทำความรู้จัก JFIN เหรียญคริปโทฯ สัญชาติไทย

image

ถ้าคุณเป็นคนหนึ่งที่อยากรู้ว่าเหรียญ JFIN คืออะไร เพราะเคยนำเหรียญดังกล่าวไปแลกเครื่องดื่มที่ตู้เต่าบินมาแล้ว หรือสนใจเหรียญสัญชาติไทยที่มีคนพูดถึงกันไปทั่ว จากการที่ “บอย ท่าพระจันทร์” เซียนพระชื่อดังของไทย ได้นำเงินกว่า 170 ล้านบาทมาลงทุนในเหรียญ JFIN แถมยังเติมพอร์ตด้วยการทำ DCA ทุกเดือนอีกด้วย

ยังมีรายละเอียดเบื้องลึกของเหรียญ JFIN อีกมากมายที่คุณอาจยังไม่เคยรู้ ทั้งเหรียญ JFIN ใช้ทำอะไร มีแพลตฟอร์มใดเกี่ยวข้องบ้าง รวมถึงมีเรื่องอะไรที่คุณควรรู้เกี่ยวกับเหรียญ ทุกสิ่งเหล่านี้เราจะอธิบายให้คุณได้เข้าใจ JFIN มากขึ้นเอง
.

เหรียญ JFIN คืออะไร

เหรียญ JFIN คือโทเคนดิจิทัลที่พัฒนาโดยบริษัทในกลุ่ม Jaymart ด้วยความร่วมมือกันของ 3 ทหารเสืออย่าง Jaymart, JFintech และ J Ventures ซึ่ง JFIN มีลักษณะเป็น Utility Token ที่ผู้ถือเหรียญสามารถใช้เข้าถึงผลิตภัณฑ์และบริการต่าง ๆ ของ Jaymart ได้อย่างสะดวกง่ายดาย

สำหรับจุดกำเนิดของเหรียญ JFIN มาจากการระดมทุนด้วยวิธี Initial Coin Offering (ICO) ที่เป็นการเสนอขายโทเค็นดิจิทัลต่อสาธารณชน นอกจากนี้ JFIN ที่เป็น Uitility Token หรือ โทเค็นดิจิทัลเพื่อการใช้ประโยชน์ ยังเป็นส่วนหนึ่งของระบบนิเวศของ J Venture และใช้ Blockchain ทั้ง 3 แพลตฟอร์มต่อไปนี้เพื่อทำการซื้อ ขาย หรือเก็บเหรียญเอาไว้

1.เครือข่าย Ethereum (ERC-20) ใช้สำหรับการซื้อขายเหรียญ JFIN บนกระดานเทรดคริปโทฯ ของ Bitkub Exchange

2.เครือข่าย Stellar ใช้สำหรับการเก็บและโอนเหรียญ JFIN ผ่านแอปพลิเคชัน JID ที่เป็นกระเป๋าเก็บเหรียญนี้โดยเฉพาะ

3.เครือข่าย BNB Chain ใช้สำหรับการใช้งาน JREPO ที่เป็น Decentralized Finance เพื่อฝากหรือกู้ยืมสินทรัพย์ดิจิทัล

5 เรื่องน่ารู้ของเหรียญ JFIN

1.เหรียญ JFIN มี Max Supply ทั้งหมดที่ 300 ล้านเหรียญ

2.เหรียญ JFIN ถูกจัดอยู่ในลำดับที่ 2,687 บนเว็บไซต์ติดตามราคาสินทรัพย์ดิจิทัลชื่อดังอย่าง CoinMarketCap (ข้อมูล ณ วันที่ 12 มกราคม 2566)

3.เหรียญ JFIN เคยมีปริมาณการซื้อขายสูงสุดทั่วโลกภายใน 24 ชั่วโมง สูงถึง 93 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือราว 3.35 พันล้านบาท เมื่อวันที่ 30 พฤศจิกายน 2564

4.เหรียญ JFIN เคยพุ่งทำสถิติ All-Time High สูงสุดที่ 248 บาท บนกระดานเทรดคริปโทฯ ของ Bitkub Exchange

5.JFIN Chain คือบล็อกเชนที่ Jaymart ผู้พัฒนาเหรียญ JFIN สร้างขึ้น โดยสามารถเข้าใช้งานได้หลากหลายช่องทาง เช่น การโอนเหรียญผ่านกระเป๋าเงินดิจิทัลของ Bitkub Exchange เป็นต้น

จุดเด่นของเหรียญ JFIN ที่คุณไม่ควรมองข้าม

อ่านมาถึงตรงนี้คุณคงพอจะเข้าใจแล้วว่า JFIN เป็นสินทรัพย์ดิจิทัลของคนไทยที่พัฒนาขึ้นโดยมีพื้นฐานมาจากกิจกรรมที่พวกเราทุกคนทำกันอยู่ในทุกวัน เช่น ใช้เพื่อซื้อสินค้าและบริการ นำไปแลกเปลี่ยนเป็นคูปองหรือตั๋วเข้าสถานที่ต่างๆ รวมถึงสามารถนำ JFIN ไปฝากหรือค้ำประกันการกู้ในบล็อกเชนอย่าง JREPO ได้ด้วย

นั่นหมายความว่ามูลค่าของเหรียญ JFIN ในอนาคตอาจจะมีการปรับราคาขึ้นตามอุปสงค์และอุปทานของตลาดจริงๆ ไม่ใช่แค่ตลาดคริปโทเคอร์เรนซีเพียงอย่างเดียว ขณะเดียวกัน ก็ยังมีโปรเจกต์ที่มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ปัจจัยเหล่านี้ทั้งหมดเป็นสิ่งที่คุณไม่ควรมองข้าม

ศึกษาเรื่อง บิทคอยน์ (Bitcoin), Cryptocurrency และความรู้อีกมากมายในวงการคริปโต กับ Bitkub Exchange ได้ที่ Bitkub Blog

_____________________________________________________

คำเตือน:

คริปโทเคอร์เรนซีและโทเคนดิจิทัลมีความเสี่ยงสูง คุณอาจสูญเสียเงินลงทุนได้ทั้งจํานวน โปรดศึกษาและลงทุนให้เหมาะสมกับระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้
** สินทรัพย์ดิจิทัลมีความเสี่ยง โปรดศึกษาและลงทุนให้เหมาะสมกับระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้
*** ผลตอบแทนของสินทรัพย์ดิจิทัลในอดีตหรือผลการดําเนินงานในอดีต มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลตอบแทน ของสินทรัพย์ดิจิทัลหรือผลการดําเนินงานในอนาคต

_____________________________________________________

ติดตามบทความเหรียญที่น่าสนใจจาก Bitkub Blog ได้ที่นี่

มาทำความรู้จัก ADA (Cardano) ให้มากขึ้น

อนาคตเหรียญ Ripple (XRP) จะเป็นอย่างไร?

สินทรัพย์ดิจิทัลที่น่าจับตามอง ปี 2023

_____________________________________________________

If you are wondering what the JFIN is because you have used it to exchange for drinks at the Tao Bin vending machine, or just interested in Thai digital token that people talk about from the fact that “Boy Tha Prachan”, a famous thai monk amulet guru, has brought more than 170 million baht to invest in JFIN and also do DCA on it every month.

There are many details about JFIN that you may not know about, such as what JFIN is used for, what platforms are involved, including facts you should know about the token. We will help explain about JFIN in this article.

What is JFIN?

JFIN is a digital token developed by Jaymart Group companies in collaboration with Jaymart, JFintech and J Ventures. JFIN is a utility token that its holders can use to conveniently access Jaymart’s products and services.

The origin of the JFIN comes from fundraising through Initial Coin Offering (ICO), which is a public offering of digital tokens. It is also part of the J Venture ecosystem and used on the following 3 blockchains to buy, sell or store.

1. The Ethereum network (ERC-20) is used for trading JFIN on Bitkub Exchanges.

2. The Stellar network is used for storing and transferring JFIN through the dedicated wallet JID application.

3. The BNB Chain network is used for decentralized finance JREPO applications to deposit or borrow digital assets.

5 interesting facts about JFIN

1. JFIN has a total max supply of 300 million.

2. JFIN is ranked number 2,687 on the popular digital asset price tracking website. CoinMarketCap (data as of January 12, 2023)

3. JFIN used to have the highest trading volume worldwide within 24 hours, reaching $93 million or about 3.35 billion baht on November 30, 2021.

4. JFIN used to hit an All-Time High of 248 baht on Bitkub Exchange

5.JFIN Chain is a blockchain created by Jaymart, the developer of the JFIN coin, which can be accessed through various channels such as coin transfer through Bitkub Exchange’s digital wallet, etc.

Highlights of JFIN that you should not miss

Since you have reached this part, you probably understood that JFIN is a Thai digital asset that developed to meet the activities we all do every day, such as buying goods and services. JFIN can be exchanged for coupons or tickets to various places, including being able to use JFIN to deposit or guarantee loans on the blockchain like JREPO as well.

This means that the value of JFIN in the future may increase based on actual market demand and supply, not just the cryptocurrency market alone. At the same time, there are projects that are constantly evolving. All of these factors are things you shouldn’t overlook.

Learn more about Bitcoin and Cryptocurrency with Bitkub Exchange at Bitkub Blog.

_____________________________________________________

Disclaimers:
* Cryptocurrency and digital tokens involve high risks; investors may lose all investment money and should study information carefully and make investments according to their own risk profile.
** Digital assets involve risks; investors should study information carefully and make investments according to their own risk profile.
*** Returns/Past Performance does not guarantee future returns/performance.

ที่มา:

Medium

ผู้เขียน: Preeyapa Taweewikyagan | 13 ม.ค. 66 | อ่าน: 12,068
บทความล่าสุด