บทความ
รู้จัก The Merge การรวมร่างที่น่าตื่นเต้นที่สุดในประวัติศาสตร์ Ethereum
เชื่อว่าทุกคนต่างเฝ้ารอกับ The Merge การรวมร่างครั้งใหญ่ของ Ethereum มาเป็นเวลากว่า 2 ปี ที่ได้มีการคาดการณ์ว่ากำลังจะสำเร็จในระยะเวลาอันใกล้นี้ (วันที่อย่างไม่เป็นทางการ คือ 19 กันยายน 2565) โดย Ethereum 2.0 จะเป็นการเปลี่ยนจากระบบกลไก Proof-of-Work ให้กลายเป็น Proof-of-Stake ซึ่งเป็นการอัปเกรดที่น่าสนใจมาก ๆ วันนี้เรามาทำความรู้จักกับ The Merge การรวมร่างครั้งยิ่งใหญ่ของ Ethereum กันเลยดีกว่า
The Merge คืออะไร?
The Merge คือการรวมเลเยอร์ดำเนินการที่มีอยู่ของ Ethereum ด้วยการเปลี่ยนระบบฉันทามติบนเครือข่ายบล็อกเชนจาก Proof-of-Work ซึ่งมีต้นแบบดั้งเดิมจาก Bitcoin ไปสู่ระบบใหม่คือ Proof-of-Stake (หรือเป็นการรวม Mainnet ที่เราใช้อยู่ในปัจจุบันเข้ากับ Beacon Chain นั่นเอง) ถือว่าเป็นขั้นตอนที่น่าตื่นเต้นที่สุดในประวัติศาสตร์ Ethereum เลยก็ว่าได้ เพราะเป็นการทำให้วิสัยทัศน์ของ Ethereum ที่วางไว้เป็นจริง โดยจะช่วยปกป้องเครือข่ายด้วยการวาง ETH ค้ำประกัน (Stake) แลกกับโอกาสถูกเลือกเป็นผู้ตรวจสอบธุรกรรม (Validators) แทนการใช้พลังงานเพื่อการขุด อีกทั้งยังเพิ่มความสามารถในการ Scalability หรือการรองรับธุรกรรมได้จำนวนมาก ๆ เพื่อความปลอดภัย และความยั่งยืนที่มากยิ่งขึ้น
การอัปเกรดในครั้งนี้ มีจุดเริ่มต้นมาจากการสร้าง Beacon Chain ที่ใช้ระบบ Proof-of-Stake ให้แยกออกจาก Mainnet โดยที่ข้อมูลต่าง ๆ ของ Mainnet ไม่ว่าจะเป็น บัญชีทั้งหมด ยอดคงเหลือ Smart contract และสถานะบล็อกเชน ยังคงได้รับการรักษาความปลอดภัยและทำงานภายใต้ระบบ Proof-of-Work ในขณะที่ Beacon Chain ทำงานคู่ขนานไปกับ Mainnet ซึ่ง The Merge ก็คือการผสานกันของเครือข่ายทั้งสองนี้ และระบบ Proof-of-Work ของ Mainnet ก็จะถูกแทนที่อย่างถาวรด้วย Proof-of-Stake ในที่สุด
ที่มาของการเกิด The Merge ในครั้งนี้
เป็นที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่า Ethereum Chain ใช้พลังงานในการขุดและการตรวจสอบธุรกรรมอย่างมหาศาล เมื่อมองในภาพรวมก็ถือว่าเป็นการสร้างมลภาวะและสิ้นเปลืองพลังงานโลกอย่างมาก อีกทั้งยังไม่มีความคล่องตัวและความพร้อมในการรองรับการทำธุรกรรมได้จำนวนมากอีกด้วย เพราะความนิยมในการใช้เครือข่าย Ethereum ที่มีมากขึ้นเรื่อย ๆ ในปัจจุบัน
ในการประชุมชุมชน Ethereum ประจำปี (EthCC) ที่จัดขึ้นระหว่างวันที่ 19–22 กรกฏาคม 2565 Vitalik Buterin ผู้ก่อตั้งเครือข่าย Ethereum ได้ให้ข้อมูลเกี่ยวกับ The Merge ว่าการทดสอบเสร็จสมบูรณ์ไปแล้ว 90% และเหลือเพียงการทดสอบในเครือข่าย Ropsten Testnet เท่านั้น
หากการอัปเกรด The Merge เสร็จสมบูรณ์ จะมีการอัปเกรดอีก 4 ขั้นตอน ได้แก่ The Surge, The Verge, The Purge และ The Splurge และหากทำสำเร็จทั้ง 5 ขั้นตอน จะเพิ่มความสามารถในการประมวลผลธุรกรรมได้มากถึง 100,000 ธุรกรรมต่อวินาทีจากที่เคยทำได้ 15–20 ธุรกรรมในปัจจุบัน อีกทั้งยังช่วยให้เครือข่ายมีความปลอดภัยมากขึ้น มีการกระจายอำนาจ (Decentralized) มากขึ้น และนี่จะเป็นเครื่องมือสำคัญในการแก้ไขค่าธรรมเนียมการทำธุรกรรมที่สูงเกินไปของ Ethereum เลยก็ว่าได้
นักลงทุนเตรียมรับ The Merge อย่างไร
เหล่านักลงทุนหลายคนต่างคาดการณ์กันว่า นอกจากการอัปเกรดในครั้งนี้จะส่งผลที่ดีอย่างชัดเจนกับการทำธุรกรรมของบล็อกเชน Ethereum ที่สร้างประสิทธิภาพและความน่าเชื่อถือให้กับเครือข่าย หากการอัปเกรดเสร็จสิ้นลงโดยสมบูรณ์ กลุ่ม Validators จะสามารถถอน ETH ที่พวกเขาล็อกไว้ผ่าน Deposit Contract ออกมาได้
เมื่อการควบรวมเครือข่ายเสร็จสิ้น จะส่งผลไปในทิศทางที่ดีขึ้นต่อเครือข่าย Ethereum รวมถึงราคาของเหรียญที่จะมีการปรับตัวหรือไม่ นี่อาจเป็นคำถามในใจนักลงทุนหลายคน แต่หากเราก็จะเริ่มเห็นสัญญาณที่ดีของตลาดที่ปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง นับตั้งแต่ช่วงกลางเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา และเป็นสิ่งที่นักลงทุนเฝ้าจับตามองอย่างจดจ่อกันต่อไปจนถึงวันที่การรวมตัวกันได้เสร็จสิ้น
ปฏิเสธไม่ได้เลยว่ากระแสของ The Merge นั้นกำลังมาแรงอย่างยิ่ง โดยเฉพาะเมื่อใกล้วันที่ได้มีการคาดการณ์เอาไว้ ยิ่งทำให้นักลงทุนเกิดการตื่นตัว ตลาดเริ่มกลับมาคึกคัก อย่างไรก็ตาม การติดตามข่าวสารและข้อมูลอัปเดต รวมถึงบทวิเคราะห์จากแหล่งข่าวหรือบุคคลที่เชื่อถือได้ยังเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับทุกการเปลี่ยนแปลงในโลกแห่งการลงทุนสินทรัพย์ดิจิทัล เนื่องจากมีความผันผวนสูงมาก การศึกษาหาข้อมูลจะเป็นตัวช่วยให้นักลงทุนตัดสินใจ และลงทุนตามระดับความเสี่ยงที่สามารถยอมรับได้
อ้างอิง: https://ethereum.org/en/upgrades/merge
===================
- มาเรียนรู้ และติดตามบทความข่าวสารที่น่าสนใจได้ที่
Bitkub Academy และ Bitkub Blog
- เปิดบัญชี Bitkub Exchange คลิก www.bitkub.com/signup
*คริปโทเคอร์เรนซีมีความเสี่ยงสูง ท่านอาจสูญเสียเงินลงทุนได้ทั้งจํานวน
**สินทรัพย์ดิจิทัลมีความเสี่ยง โปรดศึกษาและลงทุนให้เหมาะสมกับระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้
***ผลตอบแทนของสินทรัพย์ดิจิทัลในอดีต มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลตอบแทนของสินทรัพย์ดิจิทัลในอนาคต
ที่มา:
Medium