บทความ
รู้หรือไม่ The Merge เป็นแค่ขั้นแรกของแผนพัฒนา Ethereum 2.0
ในขณะที่หลายคนกำลังจับตา The Merge ของ Ethereum ที่คาดว่าจะเกิดขึ้นภายในเดือนกันยายนที่จะถึงนี้ แต่รู้หรือไม่ ว่าผู้ก่อตั้งอย่าง Vitalik Buterin มองว่าหลัง The Merge เครือข่าย Ethereum จะเสร็จสมบูรณ์เพียงแค่ 55% เท่านั้น!?
นั่นหมายความว่า Ethereum ยังจะมีโอกาสพัฒนาไปได้อีกมาก และทางผู้พัฒนาก็ได้เผยโรดแมปต่อไปหลังจาก The Merge ออกมาแล้ว นั่นคือ Surge, Verge, Purge, และ Splurge
สำหรับบทความนี้เราจะมาดูกันว่าการพัฒนาในขั้นต่อ ๆ ไปของ Ethereum แต่ละขั้นมีความหมายว่าอย่างไร และจะส่งผลอย่างไรกับ Ethereum อย่างไรบ้าง
เป้าหมายของการพัฒนา
ใครที่เคยใช้ Ethereum โดยไม่ผ่าน Layer 2 ไม่ว่าจะเป็นการโอนเหรียญ เล่น GameFi หรือลงทุนใน DeFi ก็น่าจะเห็นปัญหาของ Ethereum แล้ว นั่นคือเวลาในการทำธุรกรรมที่ค่อนข้างนานและค่าธรรมเนียมที่สูงลิ่ว ซึ่งเป็นเพราะ Ethereum ไม่สามารถขนาดขยายให้รองรับจำนวนผู้ใช้ที่มากขึ้นได้ทัน ส่งผลให้เกิดการแข่งกันเสนอค่าธรรมเนียมให้เหล่านักขุด เพื่อให้นักขุดดำเนินธุรกรรมให้คนที่เสนอค่าธรรมเนียมมากที่สุดก่อน กลายเป็นว่าผู้ใช้ทั่วไปได้รับผลกระทบไปเต็ม ๆ
นั่นจึงเป็นที่มาของการพัฒนาเครือข่ายเพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าว หรือที่นิยมเรียกกันว่า Ethereum 2.0 นั่นเอง การแก้ปัญหาอย่างแรกคือการเปลี่ยนระบบฉันทามติเดิมจาก Proof-of-Work ไปเป็น Proof-of-Stake เพื่อทำให้ประหยัดพลังงานสำหรับการยืนยันธุรกรรมและรักษาความปลอดภัยให้กับเครือข่ายมากขึ้น หรือที่เรียกว่า The Merge (ภาษาไทย “การประสาน”)
The Merge ถูกวางกำหนดการโดยเหล่านักพัฒนาเอาไว้ภายในช่วงกลางเดือนกันยายน 2022 นี้ หากไม่มีอะไรผิดพลาดเราก็จะเห็น Ethereum เปลี่ยนเป็น Proof-of-Stake อย่างแน่นอน แต่ The Merge เป็นเพียงการพัฒนาในขั้นแรกของ Ethereum 2.0 ยังมีการพัฒนาในขั้นต่อไปที่มีชื่อว่า Surge, Verge, Purge, และ Splurge ตามลำดับ โดยแต่ละขั้นมีรายละเอียดดังนี้
The Surge
The Surge (ภาษาไทย “การเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว”) เป็นการพัฒนาที่จะนำระบบ Sharding มาใช้ โดย Sharding หมายถึงการแบ่งแพคเกจข้อมูลเพื่อให้แต่ละหน่วยประมวลผลสามารถประมวลข้อมูลได้พร้อม ๆ กัน ไม่จำเป็นต้องประมวลแพคเกจข้อมูลขนาดใหญ่ที่ละอัน ซึ่งคาดว่าจะทำให้ Ethereum สามารถดำเนินธุรกรรมได้เร็วขึ้นอีกหลายร้อยเท่า และจะมีการอัปเดตที่ทำให้ผู้ใช้ทั่วไปสามารถรันโหนดเพื่อรักษาความปลอดภัยให้กับเครือข่ายได้ง่ายขึ้นอีกด้วย
โดย Vitalik Buterin ผู้ร่วมก่อตั้ง Ethereum คาดว่า Sharding จะทำให้ Ethereum สามารถประมวลธุรกรรมได้มากถึง 100,000 ธุรกรรม/วินาที จากเดิมที่ทำได้เพียง 15–20 ธุรกรรม/วินาที
The Verge
The Verge (ภาษาไทย “ขอบเขต” หรือ “การจำกัด”) จะเป็นปรับปรุงโครงสร้างข้อมูลของเครือข่ายโดยนำระบบ “Verkle trees” และ “Stateless clients” มาใช้ สามารถอธิบายได้ง่าย ๆ ว่าการอัปเดตนี้จะทำให้ผู้ใช้สามารถรันโหนดได้โดยไม่จำเป็นต้องบันทึกข้อมูลขนาดใหญ่ไว้ในเครื่อง ซึ่ง Vitalik มองว่าการอัปเดตนี้จะช่วยให้เครือข่ายมีความกระจายอำนาจมากยิ่งขึ้น
The Purge
The Purge (ภาษาไทย “การกวาดล้าง”) จะเป็นการล้างข้อมูลที่ไม่จำเป็นในอดีตบางส่วน เพื่อปรับปรุงระบบการการจัดเก็บ และลดความแออัดของเครือข่าย
The Splurge
The Splurge (ภาษาไทย “การโอ้อวด”) เป็นการพัฒนาในขั้นตอนสุดท้าย โดยจะเน้นไปการตรวจสอบให้แน่ใจว่าการอัปเดตแต่ละขั้นสามารถทำงานได้อย่างสมบูรณ์แบบ
ถึงแม้ว่าการอัปเดตที่ตามมาหลัง The Merge จะยังไม่มีกำหนดที่ชัดเจน แถมบางอัปเดตก็ยังไม่มีรายละเอียดอะไรมากนัก แต่ทุกคนก็น่าจะเข้าใจแล้วว่าทำไม Vitalik ถึงมองว่า Ethereum เสร็จไปแค่ 55% หลัง The Merge เท่านั้น ยังคงมีการอัปเดตที่น่าตื่นเต้นเตรียมไว้ไว้สำหรับ Ethereum และ The Merge เป็นเพียงจุดเริ่มต้นเท่านั้น
อ้างอิง Decrypt, AMBCrypto, The Standard
สมัคร Bitkub เทรดบิทคอยน์ ลงทุนคริปโตอย่างปลอดภัย คลิกที่นี่
ที่มา:
Medium