ทำความรู้จัก Internet Computer (ICP) อนาคตของโครงสร้างพื้นฐานอินเทอร์เน็ต : บล็อกเชนที่จะมาเปลี่ยน Cloud แบบดั้งเดิม

Internet Computer (ICP) คืออะไร

Internet Computer เป็นเครือข่ายบล็อกเชนสาธารณะ ด้วยแนวคิดใหม่ที่เข้ามาเพื่อขับเคลื่อนนวัตกรรมด้านการเข้ารหัส เครือข่ายนี้นำเสนอการเป็น “World Computer” ตัวแรกที่สามารถสร้างนำมาใช้สร้างระบบหรือบริการแบบออนไลน์ รวมถึงโซเชียลมีเดียบนเว็บไซต์ เป็นแนวคิดที่ช่วยทำให้นักพัฒนาสามารถใช้แอปพลิเคชันบน Internet Computer โดยไม่ต้องพึ่งพาผู้ใช้บริการแบบรวมศูนย์ของบริการไอทีแบบดั้งเดิม เช่น บริการประมวลบน Cloud, เว็บเซิร์ฟเวอร์, พื้นที่การจัดเก็บข้อมูลผ่านอินเทอร์เน็ต ด้วยเหตุนี้จึงทำให้เปิดใช้งานแบบกระจายอำนาจแบบครบวงจรได้

การพัฒนาของ Internet Computer ได้สร้างความโดดเด่นหลายประการ เช่น การเข้ารหัสแบบต่อเป็นลูกโซ่ (chain key cryptography) และโปรแกรมภาษาอย่าง Motoko ในการพัฒนาที่โดดเด่นอีกประการหนึ่ง คือการมี DAO ที่มาพร้อมระบบโปรโตคอล ที่ทำให้ชุมชนสามารถไปมีส่วนร่วมในการกำกับดูแลเครือข่ายได้โดยตรง และสามารถอัปเกรดโปรโตคอลที่ทำงานบนโหนดได้ โดยไม่ต้อง fork

ทำไมต้องสร้าง Internet Computer

ปัจจุบันอินเทอร์เน็ตมีรูปแบบรวมศูนย์เป็นอย่างมาก แอปพลิเคชันยอดนิยมบนเว็บไซต์มักเป็นแบบปิด (closed-source) มีกรรมสิทธิ์เฉพาะ และใช้โฮสต์จากบริษัทเทคโนโลยีขนาดใหญ่ ซึ่งการพึ่งพาเช่นนี้ หากศูนย์ข้อมูลล้มเหลวก็อาจจะทำให้ระบบหยุดทำงานตามไปด้วย นอกจากนี้ยังมีข้อกังวลในเรื่องการสนับสนุนความเป็นส่วนตัวของข้อมูล คือ ผู้ให้บริการเว็บเซอร์วิสแบบรวมศูนย์สามารถเซ็นเซอร์หรือปิดแพลตฟอร์มต่างๆ หรือนำข้อมูลไปใช้ได้

ทาง Internet Computer จึงพยายามเสนอทางเลือกเพื่อให้นักพัฒนาสามารถสร้างโฮสต์ และแอปพลิเคชันในลักษณะกระจายอำนาจได้มากขึ้น โดยอนุญาตให้นำเว็บไซต์ไปใช้งานบนอินเทอร์เน็ตสาธารณได้โดยตรง นอกจากนี้ Internet Computer ยังกระตุ้นให้เกิดการใช้ open-source และพัฒนาซอฟต์แวร์ที่โปร่งใส

วิธีการหนึ่งที่ Internet Computer พยายามทำคือ การแปลงพลังของคริปโตไปเป็นพลังประมวลผล โดยเครือข่ายจะกำหนดค่าธรรมเนียมตามปริมาณพัลงการประมวลผลตามความต้องการของนักพัฒนา เป็นที่มาของการสร้างและรันแอปพลิเคชันประเภทใดก็ได้บน Internet Computer

ที่มา : ICP

ตัวอย่างการใช้งาน Internet Computer:

— สำหรับการใช้งานของ end-user การเข้าถึงคอมพิวเตอร์ผ่านอินเทอร์เน็ต จะมีความโปร่งใส่มากขึ้น สร้างประสบการณ์ในการใช้แอปพลิเคชันที่สามารถโต้ตอบกันได้แบบกระจายอำนาจ เหมือนกับที่ผู้ใช้งานเคยใช้บริการผ่านระบบ Cloud

— สำหรับผู้ที่สร้างและจัดการบริการต่างๆ บน Internet Computer จะช่วยขจัดค่าใช้จ่าย ความเสี่ยง และความซับซ้อนต่างๆ ที่เกี่ยวกับการพัฒนาและการใช้แอปพลิเคชันใหม่ รวมถึง Microservices (แนวคิดการสร้างแอปพลิเคชันที่ใช้หลายบริการหรือส่วนประกอบเล็ก ๆ)

นอกจากนี้การสร้าง Internet Computer ยังเป็นการทำให้อินเทอร์เน็ตกลับไปสู่รูปแบบที่เปิดกว้าง มีความสร้างสรรค์ใหม่ๆ และนวัตกรรม โดยมีตัวอย่างดังนี้

— ความสามารถในการทำงานร่วมกันได้ มีระบบ API แบบถาวร และ ownerless application ซึ่งช่วยลดความเสี่ยงของแพลตฟอร์ม และส่งเสริมให้เกิดนวัตกรรมและการทำงานร่วมกัน

— เก็บรักษาข้อมูลไว้ในหน่อยความจำอัตโนมัติ ซึ่งช่วยลดความจำเป็นการใช้ระบบเซิร์ฟเวอร์ฐานข้อมูลและพื้นที่การจัดเก็บ เป็นการช่วยเพิ่มประสิทธิภาพระบบประมวลผล และทำให้พัฒนาซอฟต์แวร์ง่ายขึ้น

— ลดความซับซ้อนของเทคโนโลยี ที่องค์กรที่เกี่ยวกับด้านไอทีจะต้องนำมาปรับใช้ และจัดการ เพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพการทำงาน

ผู้อยู่เบื้องหลังการพัฒนา

Dominic Williams ที่มา : Slush

โครงการนี้ก่อตั้งขึ้นในเดือนตุลาคม 2016 โดย Dominic Willams ผ่านการระดมทุนด้วนเงินจำนวนทั้งหมด 121 ล้านเหรียญจากนักลงทุนมากมาย เช่น Adreessen Horowitz, Polychain Capital, Multicoin Capital และอื่นๆ โดยเมื่อวันที่ 10 พฤษภาคม 2021 DFINITY ได้เปิดตัว Internet Computer สู่สาธารณะ ซึ่งถือเป็นก้าวสำคัญสำหรับ ICP เพราะการเปิดตัวนี้เป็นก้าวสำคัญของอินเทอร์เน็ตสำหรับยุคปัจจุบันที่จะสามารถทำงานได้แบบกระจายอำนาจ ด้วยการเปิดตัวโค้ดของ Internet Computer สู่การเป็นสาธารณะสมบัติ และยังมี ICP เป็น Utility token ที่ช่วยให้ชุมชนหลายหมื่นคนสามารถควบคุมเครือข่าย Internet Computer ได้ ซึ่งมีเอกสารเข้ารหัสทางวิชาการมากกว่า 100,000 รายการและสิทธิบัตร 200 รายการ

Dominic Williams เป็น ผู้ก่อตั้งโครงการบล็อคเชน Internet Computer (ICP) และหัวหน้านักวิทยาศาสตร์ของมูลนิธิ DFINITY ก่อนที่จะเปลี่ยนไปทำงานเต็มเวลาในด้านสกุลเงินดิจิทัลในปี 2013 Dominic เป็นผู้ประกอบการด้านวิศวกรรมสร้างเทคโนโลยีและผลิตภัณฑ์อินเทอร์เน็ตมากมาย นอกจากนี้เขายังเคยทำธุรกิจเกม MMO ซึ่งมีผู้ใช้หลายล้านคน

คุณสมบัติเด่นของ Internet Computer

Internet Computer เป็นเครือข่ายบล็อกเขนที่มุ่งเพิ่มประสิทธิภาพ ความเร็ว และการกระจายอำนาจให้กับการจัดเก็บข้อมูลและการประมวลผล เพื่อแก้ไขปัญหาข้อบกพร่องของอินเทอร์เน็ตยุคเก่า ที่มีการผูกขาดมากเกินไป ระบบไม่เสถียร และการนำข้อมูลส่วนบุคคลไปใช้ในทางที่ผิด

ที่มา : ICP

คุณสมบัติเด่นที่ทำให้ Internet Computer แตกต่างจากเครือข่ายบล็อกเชนอื่นๆ คือ

— ใครๆ ก็สามารถสร้างแอปพลิเคชันแบบกระจายอำนาจ (dApp) บนแพลตฟอร์มบล็อกเชนได้ด้วย interface ที่เรียบง่าย

— Internet Computer ทำงานบนเครือข่ายแบบกระจายอำนาจมีฮาร์ดแวร์เฉพาะ ที่สร้างขึ้นโดยบุคคลที่เป็นอิสระ แทนที่จะเป็นระบบ Cloud ที่ดูแลโดยเซิร์ฟเวอร์แบบรวมศูนย์

— เป็นบล็อกเชนที่สามารถประมวลได้อย่างรวดเร็ว แตกต่างจากสกุลเงินดิจทัลอื่นๆ ที่ต้องใช้เวลาในการทำธุรกรรมที่นานกว่า

— มี Smart Contracts (Canisters) ที่เป็นโมเดล Smart Contracts แบบใหม่ที่เรียกว่า “Canisters” ซึ่งเป็นหน่วยซอฟต์แวร์ที่ดำเนินการและจัดเก็บข้อมูลบนบล็อกเชน ช่วยให้นักพัฒนาสามารถสร้างแอปพลิเคชันที่สามารถปรับขนาดได้สูงได้โดยตรงบนเครือข่าย

ICP ใช้งานสำหรับอะไร?

ICP เป็น Native utility token ของ Internet Computer Protocol ที่มีวัตถุประสงค์ที่แตกต่างกัน คือ

— Network governance: ผู้ที่ถือโทเคน ICP สามารถ staking โทเคนเพื่อสร้าง “neurons” ซึ่งจะทำให้มีสิทธิ์ลงคะแนนเสียงในเรื่องต่างๆ ภายใน Network Nervous System (NNS) โดย neurons นี้ช่วยให้สามารถส่งข้อเสนอการกำกับดูแลใหม่ได้ และยังทำหน้าที่เป็นระบบแรงจูงใจ ทำให้ผู้ใช้ได้รับรางวับสำหรับการมีส่วนร่วม

— สร้าง “cycles” เพื่อใช้งาน Internet Computer Cycles: การแปลงค่า ICP เป็นการทำงานและใช้เพิ่มพลังให้กับการคำนวณ การสื่อสาร และค่าใช้จ่ายในการจัดเก็บของ canister โดยตัวบล็อกเชนมีโมเดล “reverse gas” ซึ่งเป็น Smart contract เพื่อจ่ายค่าการประมวลผล และจะต้องเตรียม cycle เอาไว้ล่วงหน้าเพื่อให้ทำงานได้ในลักษณะเดียวกับการชาร์จรถไฟฟ้า

— รางวัลโปรโตคอล: ICP สามารถใช้จ่ายตอบแทนแก่ผู้ให้บริการ(โหนดเพื่อสนับสนุนเครือข่าย Internet Computer=

ตัวอย่างการใช้โทเคน ICP เพื่อแปลงเป็น Cycles — ที่มา : Messari

อุปทานรวมของโทเคน ICP และการกระจายเหรียญ

เมื่อเปิดตัวเครือข่ายมีโทเคน ICP มีจำนวนทั้งหมด 469,213,710 โดยมีการกระจายโทเคนดังนี้

ที่มา : Messari

— 24.72% : นักลงทุนในช่วงเริ่มต้น — ผู้ที่ลงทุนในเดือนกุมภาพันธ์ 2017 เป็นจำนวนรวม 3.9 ล้านฟรังก์สวิส

— 23.9% : มูลนิธิ Dfinity — มูลนิธิ Dfinity จัดการเงินทุนที่ระดมทุนได้จากการขายโทเคน นอกจากนี้ยังดูแล Foundation Endowment of ICP tokens เพื่อใช้ระดมทุนสำหรับการวิจัยและพัฒนา ดำเนินการด้านเทคโนโลยี จัดกาเงินทุนสำหรับสร้างชุมชน และแรงจูงใจจากพันธมิตร

— 8.0% : สมาชิกในทีม — มีสมาชิกในทีมประมาณ 200 คน

— 9.5% : ผู้มีส่วนสนับสนุนในช่วงแรก — มีคนในกลุ่มนี้ 50 คนที่เคยช่วยเหลือทีมก่อนที่มูลนิธิจะก่อตั้งขึ้น

— 7.0% : นักลงทุนเชิงกลยุทธ์ — จากการระดมทุน 20.54 ล้านดอลลาร์จาก Polychain Capital, Andreessen Horowitz, CoinFund, Multicoin Capital และ Greycroft Partners

— 4.96% : การขายล่วงหน้าให้กับนักลงทุน — คิดเป็น 97 ล้านดอลลาร์ที่ระดมทุนได้จาก a16z, Polychain, SV Angel, Aspect Ventures, Electric Capital, ZeroEx, Scalar Capital และ Multicoin Capital

ข้อมูลน่าสนใจด้านราคาของ ICP

ข้อมูลจากเว็บไซต์ Coinmarketcap เมื่อวันที่ 25 ธันวาคม 2024 เหรียญ ICP มีมูลค่าตามราคาตลาด (Market cap) ที่ 5,438,176,959 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือประมาณ 185,758,964,253 บาท

ณ เวลาที่เขียนบทความนี้ เหรียญ ICP ซื้อขายกันอยู่ที่ราคาประมาณ 11.37 ดอลลาร์ หรือประมาณ 388.66 บาทต่อ 1 ICP โดย ICP เคยทำราคาสูงสุด (All-time high) ที่ 750.73 ดอลลาร์ หรือประมาณ 25,576.61 บาท ต่อ 1 ICP เมื่อวันที่ 10 พฤษภาคม 2021

อ้างอิง : Internet Computer, Altify, CoinMarketCap, Messari

— — — — — — — — — — — — — — — — —

คำเตือน:

- สินทรัพย์ดิจิทัลมีความเสี่ยง โปรดศึกษาและลงทุนให้เหมาะสมกับระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้

- ผลตอบแทนของสินทรัพย์ดิจิทัลในอดีตหรือผลการดําเนินงานในอดีต มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลตอบแทน ของสินทรัพย์ดิจิทัลหรือผลการดําเนินงานในอนาคต

— — — — — — — — — — — — — — — — —

Internet Computer (ICP) and the Future of Internet Infrastructure: How Blockchain is Set to Replace Traditional Cloud Services

What is Internet Computer (ICP)?

The Internet Computer is a groundbreaking public blockchain network that brings a fresh wave of cryptographic innovation. It aspires to be the world’s first “World Computer,” enabling the creation and hosting of decentralized online systems and services — ranging from social media platforms to complex enterprise software — without relying on centralized cloud providers or traditional IT infrastructure.

By allowing developers to deploy applications directly on the Internet Computer, it introduces a fully decentralized model, removing the need for cloud computing, web servers, or external storage. This opens new possibilities for true digital sovereignty.

Key innovations like chain key cryptography ensure that the network can scale and process transactions at unprecedented speeds, while the Motoko programming language is optimized specifically for building on this platform. Additionally, its community-driven governance model, powered by a Decentralized Autonomous Organization (DAO), gives participants direct control over protocol upgrades without needing disruptive forks — a significant evolution in blockchain technology.

Why Build on the Internet Computer

Today’s internet is dominated by centralized platforms. Many popular web applications are closed-source, proprietary, and hosted by large tech companies. This heavy reliance on centralized providers makes online services vulnerable — if a data center experiences issues, entire platforms can go offline. Beyond outages, there are growing concerns about privacy and control, as centralized platforms have the power to censor content or misuse user data.

The Internet Computer aims to provide an alternative by allowing developers to build and host decentralized applications. It enables websites to be deployed directly on the public internet. Furthermore, the Internet Computer promotes open-source development and transparent software.

One way the Internet Computer achieves this is by transforming the power of crypto into computational power. The network charges fees based on the amount of computational power required by developers, making it possible to create and run any type of application on the Internet Computer.

Source: ICP

Examples of Internet Computer use cases:

— For end-users: Accessing the Internet Computer will provide a more transparent experience, enabling decentralized and interactive application experiences, similar to those offered by cloud-based services.

— For developers and service providers: The Internet Computer eliminates the costs, risks, and complexities associated with developing and deploying new applications, including microservices.

Additionally, the creation of the Internet Computer promotes a more open, creative, and innovative internet. Some examples include:

— Interoperability: Permanent APIs and ownerless applications reduce platform risks and foster innovation and collaboration.

— Autonomous memory: Eliminating the need for traditional database servers and storage, improving processing efficiency, and simplifying software development.

— Reduced technological complexity: Simplifying the technology that IT organizations need to adopt and manage to improve operational efficiency.”

Who’s Behind Internet Computer?

The Internet Computer project was founded in October 2016 by Dominic Williams, and it quickly garnered attention from top-tier investors like Andreessen Horowitz, Polychain Capital, and Multicoin Capital, raising a total of $121 million. Its public launch on May 10, 2021, marked a significant milestone in the development of a decentralized internet. With the launch, the Internet Computer’s code was open-sourced, and the ICP utility token empowered a growing community to govern the network, signaling a new era for decentralized technologies.

What sets the project apart is its extensive academic and intellectual foundation, with over 100,000 cryptographic research papers and 200 patents. This massive body of work underscores the technical innovation driving the platform.

Dominic Williams — Source: Slush

At the helm is Dominic Williams, who serves as both the project’s founder and Chief Scientist of the DFINITY Foundation. Before his deep involvement in digital currencies in 2013, Dominic was a seasoned entrepreneur in the tech industry, having engineered various internet products. He even ran a massively multiplayer online game (MMO) with millions of users, further showcasing his expertise in scaling and innovation within digital platforms.

Key Features of the Internet Computer

The Internet Computer is a blockchain network designed to enhance the efficiency, speed, and decentralization of data storage and processing. It aims to address the shortcomings of the traditional internet, such as over-centralization, instability, and privacy concerns.

Source: ICP

Key features that distinguish the Internet Computer from other blockchains include:

— Accessibility for dApp development: Anyone can create decentralized applications (dApps) on the blockchain platform using a simple interface, making it accessible to a wide range of developers.

— Decentralized infrastructure: The Internet Computer operates on a truly decentralized network with dedicated hardware created by independent individuals, eliminating the reliance on centralized cloud servers.

— High-speed processing: Unlike many other cryptocurrencies that may have slower transaction times, the Internet Computer offers rapid processing capabilities, enabling real-time applications.

— Innovative Smart Contracts (Canisters): The platform utilizes a novel Smart Contracts model called “Canisters,” which are self-contained software units capable of executing and storing data on the blockchain. This empowers developers to build highly scalable and customizable applications directly on the network.”

What is ICP used for?

ICP is the native token of the Internet Computer Protocol and serves several purposes:

— Network governance: ICP token holders can stake their tokens to create “neurons” which grant them voting rights within the Network Nervous System (NNS). Neurons allow users to submit governance proposals and act as an incentive system, rewarding users for their participation.

— Creating “cycles” for Internet Computer usage: ICP can be converted into “cycles” to power the computation, communication, and storage costs of canisters. The blockchain employs a “reverse gas” model where smart contracts pay for computation, and cycles must be pre-funded for execution, similar to charging an electric vehicle.

— Protocol rewards: ICP can be used to reward service providers (nodes) that support the Internet Computer network.

ICP tokens can be converted into cycles — Source: Messari

Supply and Token Distribution

At the network launch, a total of 469,213,710 ICP tokens were issued, distributed as follows:

Source: Messari

— 24.72%: Seed Investors — Individuals who invested 3.9 million Swiss Francs in February 2017.

— 23.9%: Dfinity Foundation — The Dfinity Foundation manages the funds raised from token sales. It also oversees the Foundation Endowment of ICP tokens, which is used to fund research and development, technology initiatives, community building, and partner incentives.

— 8.0%: Team members — Approximately 200 team members.

— 9.5%: Early contributors — 50 individuals who supported the team before the foundation was established.

— 7.0%: Strategic investors — From a $20.54 million fundraising round led by Polychain Capital, Andreessen Horowitz, CoinFund, Multicoin Capital, and Greycroft Partners.

— 4.96%: Private Presale Investors — Representing $97 million raised from a16z, Polychain, SV Angel, Aspect Ventures, Electric Capital, ZeroEx, Scalar Capital, and Multicoin Capital.”

Interesting information about ICP

As of December 25, 2024, according to Coinmarketcap, ICP has a market capitalization of 5,438,176,959 USD, equivalent to 185,758,964,253 Thai Baht.

At the time of writing, ICP is trading at approximately 11.37 USD or 388.66 Thai Baht per coin. ICP reached its all-time high of $750.73 USD or 25,576.61 Thai Baht per coin on May 10, 2021.”

Source: Internet Computer, Altify, CoinMarketCap, Messari

— — — — — — — — — — — — — — — — —

Disclaimer:

-Digital assets involve risks; investors should study information carefully and make investments according to their own risk profile.

-Past Returns do not guarantee future returns/performance.

— — — — — — — — — — — — — — — — —