Blog

news

โอนเหรียญ USDT เข้า Bitkub Exchange รับ USDT มูลค่า 300 บาท

โอนเหรียญ USDT เข้า Bitkub Exchange ผ่านทุกเครือข่ายขั้นต่ำ 50 USDT รับเหรียญ USDT มูลค่า 300 บาท กิจกรรม : โอนเหรียญ USDT เข้า Bitkub Exchange รับ USDT มูลค่า 300 บาทวันที่ : 15 พ.ค. 68–6 มิ.ย. 68ลงทะเบียน : https://form.bitkub.com/deposit-usdt .ข้อกำหนดและเงื่อนไขของกิจกรรม 1. กิจกรรม โอนเหรียญ USDT เข้า Bitkub Exchange รับ USDT มูลค่า 300 บาท (“กิจกรรม”) นี้ จัดขึ้นโดย บริษัท บิทคับ ออนไลน์ จํากัด (“บริษัทฯ”) 2. โอนเหรียญ USDT เข้า Bitkub Exchange ผ่านทุกเครือข่ายขั้นต่ำ 50 USDT รับเหรียญ USDT มูลค่า 300 บาท จำกัด 1,500 สิทธิ์ 3. เริ่มตั้งแต่วันที่ 15 พ.ค. 68–6 มิ.ย. 68 4. ผู้เข้าร่วมกิจกรรมจะต้อง มีบัญชี Bitkub Exchange และผ่านการยืนยันตัวตนระดับที่ 1 ขึ้นไป (KYC1) ลงทะเบียนเพื่อเรียนรู้และเข้าร่วมกิจกรรมผ่านแบบฟอร์ม https://form.bitkub.com/deposit-usdt 5. ผู้เข้าร่วมกิจกรรม จะต้องศึกษา ทำความเข้าใจ และผ่านการอบรมความรู้ เกี่ยวกับคริปโทเคอร์เรนซีเบื้องต้นและเหรียญ USDT จากลิงก์ที่แนบไว้ในแบบฟอร์ม 6. ของรางวัลคือเหรียญ USDT มูลค่า 300 บาท คำนวณจากมูลค่า ณ วันที่ 28 เม.ย. 68 ราคาเหรียญ USDT ประมาณ 33.68 บาท/เหรียญ 7. ขอสงวนสิทธิ์การโอนเหรียญ USDT ออกจากบัญชี Bitkub Exchange ตลอดระยะเวลากิจกรรม8. ขอสงวนสิทธิ์การรับของรางวัล 1 รางวัล ต่อ 1 บัญชี Bitkub Exchange เท่านั้น 9. ทางบริษัทฯ จะลำดับการมอบรางวัลจากผู้ที่ลงทะเบียนในแบบฟอร์มก่อน และทำการโอนเหรียญให้กับผู้ที่ได้รับรางวัล ที่ทำถูกต้องตามเงื่อนไขของกิจกรรม ภายใน 60 วันทำการ หลังสิ้นสุดระยะเวลากิจกรรม 10. ทางบริษัทฯ จะดําเนินการลบข้อมูลของลูกค้าที่กรอกแบบฟอร์ม ภายใน 120 วัน หลังจากจบระยะเวลากิจกรรม 11. ของรางวัลไม่สามารถเปลี่ยนเป็นเงินสดหรือเปลี่ยนเป็นของรางวัลชนิดอื่นได้ และไม่สามารถโอนสิทธิ์ให้ผู้อื่นได้ 12. ผู้ร่วมกิจกรรมไม่มีสิทธิ์เรียกร้องค่าตอบแทน ค่าเสียหายของสินค้า หรือของรางวัล หากชำรุดเมื่อได้รับของรางวัลไปแล้ว หรือเกิดความเสียหาย หรือสูญหายระหว่างขนส่ง หรือสิ่งใด ๆ ไม่ว่าทางแพ่ง หรือทางอาญา 13. บริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์ในการเปลี่ยนแปลงเงื่อนไขกิจกรรม โดยจะแจ้งให้ทราบล่วงหน้า 3 วันทำการ 14. ดาวน์โหลดแอปพลิเคชันบิทคับได้ที่นี่ https://onelink.bitkub.com/aHvr/gtbl7nio *คริปโทเคอร์เรนซีและโทเคนดิจิทัลมีความเสี่ยงสูง ท่านอาจสูญเสียเงินลงทุนได้ทั้งจํานวน โปรดศึกษาและลงทุนให้เหมาะสมกับระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้ โอนเหรียญ USDT เข้า Bitkub Exchange รับ USDT มูลค่า 300 บาท was originally published in Bitkub.com on Medium, where people are continuing the conversation by highlighting and responding to this story.

Author: Pat Patcha | 14 May 2025 |Read: 83
news

กิจกรรม MUMISSOIN ภารกิจพิชิต Mupoints แคมเปญสายมูจาก บิทคับ เอ็กซ์เชนจ์

กิจกรรม: MUMISSOIN ภารกิจพิชิต Mupoints แคมเปญสายมูจาก บิทคับ เอ็กซ์เชนจ์ กิจกรรมระหว่างวันที่: 14 - 27 พ.ค. 68 ลงทะเบียนผ่านลิงก์: https://form.bitkub.com/mumission รายละเอียดและเงื่อนไขของกิจกรรม 1. กิจกรรม "MuMission ภารกิจพิชิต MuPoints" (“กิจกรรม”) นี้ จัดทำโดย บริษัท บิทคับ ออนไลน์ จำกัด (“บริษัท”) 2. MuPoints ("MuPoints") คือคะแนนสมมติเพื่อใช้ในการจัดอันดับผู้ร่วมกิจกรรมของแคมเปญ MuMission เท่านั้น 3. กิจกรรมนี้ เริ่มต้นตั้งแต่วันที่ 14 - 27 พ.ค. 68 4. ของรางวัลคือ Wallpaper 12 ปีนักษัตร, คำทำนายดวงตามปีนักษัตร และโค้ดเครดิตค่าธรรมเนียม (Fee Credits) มูลค่า 250 บาท (จํากัดจํานวน 200 สิทธิ์) 5. ลูกค้าจะได้รับ 5.1. Wallpaper 12 ปีนักษัตรตามปีเกิดที่กรอกลงในเว็บไซต์ https://zodiacwallpaper.bitkubmoonshot.com/ พร้อมคำทำนายดวงตามปีนักษัตร เมื่อลงทะเบียนเข้าร่วมกิจกรรม โค้ดเครดิตค่าธรรมเนียม (Fee Credits) มูลค่า 250 บาท เมื่อสะสม MuPoints ได้สูงสุด 200 อันดับแรก 6. หลักเกณฑ์การเก็บคะแนน MuPoints สามารถสะสมได้จาก 2 วิธีดังนี้ 6.1. Mission 1: สายเนิร์ด (คะแนนเต็ม 50 MuPoints) 6.1.1. อ่านและแชร์ลิงก์บทความเหรียญใดก็ได้ใน 12 เหรียญที่บริษัทกำหนด ได้แก่ — LM (LeisureMeta) — OP (Optimism) — Zent (Zetry) — SAND (Sandbox)—VELO (Velodrome) — LDO (Lido) — CVC (Civic) — GALA (Gala Games) — WLD (Worldcoin) — EIGEN (EigenLayer) — LINK (Chainlink) — CRV (Curve Finance)  — ทุกการแชร์ 1 บทความ จะได้รับ 2 MuPoints โดยห้ามแชร์บทความเดียวกัน ซ้ำกัน (คะแนนเต็ม 24 MuPoints) 6.1.2. แชร์โพสต์ที่มี Hashtag #BitkubMuMission ทุกการแชร์ 1 โพสต์ จะได้รับ 1 MuPoints โดยแชร์โพสต์เดียวกัน ซ้ำกันได้ (คะแนนเต็ม 26 MuPoints) 6.2. Mission 2: สายเทรด (คะแนนเต็ม 50 MuPoints) 6.2.1. เทรดเหรียญใดก็ได้ใน 12 เหรียญ ได้แก่ LM, OP, ZENT, SAND, VELO, LDO, CVC, GALA, WLD, EIGEN, LINK, CRV โดยทุกการเทรด 4,000 บาท จะได้รับ 5 MuPoints โดยจะนับเฉพาะการซื้อไม่รวมการขายเหรียญ 7. ผู้เข้าร่วมกิจกรรมจะต้อง 7.1. เข้าร่วมกิจกรรม "MuMission ภารกิจพิชิต MuPoints" และได้คะแนน MuPoints มากที่สุด 200 ท่านแรก ภายในวันที่ 14 - 27 พ.ค. 68 โดยจะต้องอยู่ในช่วงเวลากิจกรรม และส่งผลการเข้าร่วมกิจกรรมในแบบฟอร์มนี้ https://form.bitkub.com/mumission โดยต้องกรอกอีเมลที่เชื่อมต่อกับบัญชี Bitkub Exchange ภายในวันที่ 27 พฤษภาคม 2568 ก่อนเวลา 23:59 น. 7.2. มีบัญชี Bitkub Exchange และผ่านการยืนยันตัวตนระดับที่ 1 ขึ้นไป (KYC1) ก่อนวันภายในวันที่ 27 พฤษภาคม 2568 ก่อนเวลา 23:59 น. 8. การแจ้งผลคะแนน (MuPoints) 8.1. ทางบริษัทจะแจ้งผลการนับคะแนนรวม (MuPoints) หลังจบกิจกรรมเท่านั้น โดยจะไม่มีการแจ้งผลคะแนนสะสมระหว่างระยะเวลากิจกรรม 8.2. ทางบริษัทจะประกาศรายชื่อและอันดับ ผู้ที่ได้รับคะแนนรวม MuPoints สูงสุด 200 อันดับแรก ผ่านทาง เว็บไซต์ www.bitkub.com/th/blog ภายในวันที่ 30 มิถุนายน 2568 8.3. สำหรับผู้ร่วมกิจกรรมที่ต้องการสอบถามคะแนน MuPoints ของตนเองสามารถติดต่อสอบถามได้ผ่านทาง https://www.facebook.com/bitkubofficial ติดต่อผ่านทาง Inbox ได้ตั้งแต่ วันที่ 30 มิถุนายน 2568 9. ทางบริษัทจะดำเนินการลบข้อมูลของลูกค้าที่กรอกแบบฟอร์มภายใน 120 วัน หลังจากจบระยะเวลากิจกรรม 10. ของรางวัลไม่สามารถเปลี่ยนเป็นเงินสด หรือเปลี่ยนเป็นของรางวัลชนิดอื่นได้ และไม่สามารถโอนสิทธิ์ให้ผู้อื่นได้ 11. บริษัทขอสงวนสิทธิ์ในการเปลี่ยนแปลงเงื่อนไขกิจกรรม โดยจะแจ้งให้ทราบล่วงหน้า 3 วันทำการ 12. กิจกรรมดังกล่าวจัดทำโดย บริษัท บิทคับ ออนไลน์ จำกัด และเว็บไซต์ https://zodiacwallpaper.bitkubmoonshot.com/ จัดทำโดย บริษัท บิทคับ มูนช็อต จำกัด ซึ่งไม่ใช่ผู้ประกอบธุรกิจภายใต้การกำกับดูแลของสำนักงาน ก.ล.ต. *คริปโทเคอร์เรนซีและโทเคนดิจิทัลมีความเสี่ยงสูง ท่านอาจสูญเสียเงินลงทุนได้ทั้งจํานวน โปรดศึกษาและลงทุนให้เหมาะสมกับระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้ ดาวน์โหลดแอปพลิเคชันบิทคับ ได้ที่นี่ https://onelink.bitkub.com/aHvr/jjtbqd0n กิจกรรม MUMISSOIN ภารกิจพิชิต Mupoints แคมเปญสายมูจาก บิทคับ เอ็กซ์เชนจ์ was originally published in Bitkub.com on Medium, where people are continuing the conversation by highlighting and responding to this story.

Author: Pipitchot Panupornprapong | 13 May 2025 |Read: 146
news

สรุปประเด็นสําคัญ อุตสาหกรรมคริปโตไตรมาส 1 ปี 2025 จากรายงานของ CoinGecko

ปลายปี 2024 เป็นช่วงเวลาที่ตลาดคริปโตคึกคักและสร้างความหวังใหม่ให้กับนักลงทุน แต่เมื่อต้นปี 2025 ในช่วง Q1 ภาพรวมกลับพลิกผันอย่างชัดเจน มูลค่าตลาดหดตัวลงอย่างรวดเร็ว พร้อมกับปริมาณการซื้อขายที่ซบเซา โดยเฉพาะในกลุ่ม Altcoin บทความนี้สรุปรายงานอุตสาหกรรมคริปโตไตรมาส 1 ปี 2025 จาก CoinGecko ซึ่งครอบคลุมตั้งแต่แนวโน้มตลาดโดยรวม การวิเคราะห์ BTC, ETH เจาะลึกระบบ DeFi และ NFT ไปจนถึงภาพรวมของตลาดเทรดแบบรวมศูนย์ (CEX) และกระจายศูนย์ (DEX) ส่วนแบ่งตลาด TVL ของ DeFi ไตรมาสแรกปี 2025: การกระจายมูลค่ารวมที่ล็อก (TVL) ใน Multichain ตั้งแต่ตุลาคม 2024 ถึงมีนาคม 2025 Total Market Cap ในไตรมาสแรกของปี 2025 ลดลงไปถึง 633,500 ล้านดอลลาร์ (-18.6%) หรือ ประมาณ 23.44 ล้านล้านบาทไทย แต่ได้ทําการแตะ YTD high (Year to date) ในมูลค่าที่ 3.8 ล้านล้านดอลลาร์ ในวันที่ 28 มกราคม 2025 ซึ่งได้แตะมูลค่านี้เกิดขึ้น 2 วันก่อนพิธีรับตำแหน่งประธานาธิบดีของโดนัลด์ ทรัมป์ (Trump’s inauguration) ก่อนที่จะลดลงไปถึง 3.8 ล้านล้านดอลลาร์ ในช่วงท้ายของไตรมาสแรกในปี 2025 2. ส่วนแบ่งตลาดคริปโตไตรมาสแรกปี 2025: ส่วนแบ่งตลาดของ 7 เหรียญคริปโตชั้นนำเทียบกับมูลค่าตลาดคริปโตรวม (ตุลาคม 2024 — มีนาคม 2025) Bitcoin dominance เพิ่มขึ้น 4.6%สู่ระดับ 59.1% ท่ามกลางช่วงตลาดขาลงในไตรมาสแรก ซึ่งต่างกันกับเหรียญ Altcoin ที่ได้รับผลกระทบหนักจากสภาวะตลาดในช่วงไตรมาสแรก อย่างไรก็ตามเหรียญ Altcoin อย่าง XRP ยังคงสามารถรักษาส่วนแบ่งตลาดของตนไว้ได้เช่นเดิม อย่างไรก็ตาม Stablecoins อย่าง USDT กลับได้รับผลประโยชน์จากความผันผวนของตลาดในช่วงไตรมาสแรก ที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นเล็กน้อย 5.2% ของส่วนแบ่งตลาด ทางด้าน Ethereum (ETH) ได้รับผลกระทบอย่างหนัก ด้วยส่วนแบ่งตลาดของ ETH ที่ลดลงเหลือ 7.9% ถือเป็นระดับต่ำที่สุดนับตั้งแต่ช่วงปลายปี 2019 3. ราคาและปริมาณการซื้อขายของ Bitcoin (BTC) ราคาของเหรียญ Bitcoin (BTC) ปรับตัวขึ้นในช่วงต้นปีของ 2025 และได้ทําการแตะราคาสูงสุด (All-Time High) ที่ราคา 106,182 ดอลลาร์ เมื่อวันที่ 22 มกราคม 2025 ซึ่งเกิดขึ้นเพียงสองวันหลังจากพิธีสาบานตนเข้ารับตำแหน่งของทรัมป์ เหตุการณ์นี้กลายเป็นจุดสูงสุดรายปี (YTD Top) ของ BTC ก่อนที่ราคาจะทําการปรับตัวลง -11.8% ที่ 82,514 ดอลลาร์ ในส่วนค่าเฉลี่ยของ trading volume รายวันของ Bitcoin (BTC) อยู่ที่ประมาณ 42,600 ล้านดอลลาร์ โดยมีการปรับที่ -26.2% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน โดย trading volume ได้พุ่งขึ้นในวันที่ 28 กุมภาพันธ์ ที่เกิดขึ้นพร้อมกับการเทขายในวงกว้างของช่วงเวลาดังกล่าว สาเหตุจากความกังวลที่เพิ่มขึ้นเกี่ยวกับการบังคับใช้มาตรการภาษีของสหรัฐอเมริกา 4. Bitcoin vs. ผลตอบแทนราคาของสินทรัพย์หลักประเภทอื่น ราคาของทองคําเพิ่มขึ้นถึง 18% และได้กลายเป็นสินทรัพย์ที่ถือว่า “แข็งแกร่ง” ท่ามกลางตลาดที่ผันผวนในช่วงของไตรมาสแรกในไป 2025 ในขณะที่ BTC (-11.8%) และดัชนี NASDAQ (-10.3%) ที่ถือว่าเป็นสินทรัพย์เสี่ยงต้องเผชิญกับการปรับตัวลดลง ในส่วนของดัชนี S&P 500 ก็ลดลงถึง -4.4% โดยปกติดัชนี DXY ที่จะมีค่าความสัมพันธ์กับสินทรัพย์เสี่ยงปรับตัวลดลง -4.6% อาจเป็นผลจากความไม่แน่นอนเกี่ยวกับมาตรการภาษีของสหรัฐฯ ในขณะที่เงินเยนญี่ปุ่น (JPY +5.25%) และยูโร (EUR +4.5%) โดยเฉพาะเงินเยนที่แข็งค่า สาเหตุมาจากการที่ปิดสถานะ Yen carry trade หลังจากธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนมกราคม 5. ราคาและปริมาณการซื้อขายของ Ethereum (ETH) ลดลง -45.3% ในช่วงไตรมาสแรกของปี 2025 ราคา Ethereum (ETH) ปิดในราคาที่ 1,805 ดอลลาร์ ลดลง -45.3% ในช่วงไตรมาสแรกของปี 2025 เรียกได้ว่าลบกำไรทั้งหมดที่ได้จากปี 2024 และกลับมาอยู่ในระดับเดียวกับปี 2023 โดย ETH มีผลตอบแทนที่แย่กว่าสินทรัพย์หลักอื่น ๆ อย่าง BTC, SOL, XRP และ BNB ซึ่งทั้งหมดปรับตัวลดลงน้อยกว่ามาก ในส่วนของ trading volume ปรับตัวลดลงเช่นกันในไตรมาสแรก จากค่าเฉลี่ยรายวันประมาณ 30,000 ล้านในไตรมาส 4 ปี 2024 เหลือประมาณ 24,400 พันล้านในไตรมาสล่าสุด โดยในวันที่ปริมาณการซื้อขายพุ่งสูง มักจะเห็นราคา ETH ร่วงลงแรง ต้นทุนค่าเฉลี่ยแก๊สในไตรมาสแรกของปี 2025 อยู่ที่ 6.9 Gwei ลดลงจาก 17.2 Gwei ในไตรมาส 4 ปี 2024 โดยได้เกิดการลดลงครั้งใหญ่ของค่าแก๊สนี้เป็นผลจากการเพิ่มขีดจำกัดแก๊ส (Gas Limit) ในเดือนกุมภาพันธ์ ซึ่งช่วยลดการแข่งขันในแย่งใช้แก๊สลง 6. ภาพรวม DeFi: มูลค่าตลาดรวมของ DeFi ของตลาดคริปโตทั้งหมด ร่วงลง -19.23% ขณะที่สถาบันเริ่มหันมาให้ความสนใจมากขึ้น (ไตรมาส 4 ปี 2024 — ไตรมาส 1 ปี 2025) มูลค่าตามราคาตลาด(Maket Cap) ของ Defi ร่วงลง -19.23% แต่ยังคงรักษาสัดส่วนในตลาดคริปโตโดยรวม ขณะที่สถาบันเริ่มหันมาให้ความสนใจมากขึ้น โดยมูลค่าตามราคาตลาด (Maket Cap) ของ Defi ลดลงจากประมาณ 119,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เหลือ 98,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ณ สิ้นเดือนมีนาคม เนื่องจากกระแสความตื่นเต้นเกี่ยวกับรัฐบาลทรัมป์ที่สนับสนุนคริปโตเริ่มจางหาย และถูกแทนที่ด้วยความกังวลเกี่ยวกับสงครามการค้าเต็มรูปแบบ ขณะเดียวกัน BTC ค่อย ๆ หลุดระดับ 100,000 ดอลลาร์สหรัฐ หลังจากทำจุดสูงสุดใหม่ที่ 108,000ดอลลาร์สหรัฐในเดือนมกราคม ส่วนการอ่อนตัวของ ETH เมื่อเทียบกับเหรียญใหญ่ตัวอื่น ๆ ทำให้มูลค่าตลาด DeFi หดตัวลงถึง 20,000 ล้านดอลลาร์ ส่งผลต่อราคาของกลุ่มย่อย เช่น Liquid Staking และ Restaking DeFi สามารถรักษาส่วนแบ่งการตลาดโดยรวมที่ 3.5% ไว้ได้ในช่วงปลายไตรมาสที่ 1 ปี 2025 เนื่องจากความสนใจใน Stablecoin และ RWA มากขึ้น 7. ปริมาณการซื้อขาย DEX ในแต่ละเครือข่ายไตรมาสแรกปี 2025: ปริมาณการซื้อขายรายเดือนของกระดานแลกเปลี่ยนแบบกระจายศูนย์ เติบโตขึ้น +35.3% (ต.ค. 2024 — มี.ค. 2025) ในไตรมาส 1 ปี 2025 Solana ยังคงครองตลาด DEX อย่างต่อเนื่อง ด้วยส่วนแบ่งตลาดที่ 39.6% และมูลค่าการเทรดที่เติบโตขึ้น +35.3% จาก 217,000 ล้านดอลลาร์ ในไตรมาสก่อนหน้า เป็น 293,700 ล้านดอลลาร์ในไตรมาสนี้ โดยในเดือนมกราคม Solana ทำสถิติใหม่ด้วยส่วนแบ่งตลาดสูงถึง 52% และยอดเทรดสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 184,800 ล้านดอลลาร์ จากความนิยมกระแสมีมคอยน์ อย่างไรก็ตามแต่เมื่อกระแสมีมคอยน์เริ่มซาลง Ethereum ก็สามารถทวงตำแหน่งคืนในเดือนมีนาคม ด้วยส่วนแบ่งตลาดที่ 30.1% เทียบกับ Solana ที่ลดลงเหลือ 23.4% ขณะเดียวกัน เครือข่ายน้องใหม่อย่าง Sonic และ Berachain ก็แจ้งเกิดเต็มตัว ด้วยการแซงหน้า Optimism และ Polygon หลุดจากท็อป 10 ในเดือนมีนาคม แม้ว่าทั้งสองเชนเดิมจะยังมีส่วนแบ่งสูงกว่าเมื่อดูตลอดไตรมาส 8. กระแสเงินสุทธิรายวันของ US Spot Bitcoin ETF (ไตรมาส 4 ปี 2024 — ไตรมาส 1 ปี 2025) หลังจากมีเงินไหลเข้าสุทธิ 3,280 ล้านดอลลาร์ ในไตรมาส 4 ปี 2024 กองทุน US Spot Ethereum ETFs กลับประสบกับการไหลออกสุทธิ -227.6 ล้านดอลลาร์ ในไตรมาส 1 ปี 2025 ส่งผลให้สินทรัพย์รวมภายใต้การจัดการ (AUM) ลดลงเกือบครึ่งหนึ่ง เหลือเพียง 5,400 ล้านดอลลาร์ โดย ETF ที่ยังคงมีเงินไหลเข้าสุทธิในไตรมาสนี้ ได้แก่ BlackRock’s ETHA (+548.4 ล้านดอลลาร์), VanEck’s ETHV (+7.7 ล้านดอลลาร์), Invesco’s QETH (+1.6 ล้านดอลลาร์) และ 21Shares’ CETH (+1.4 ล้านดอลลาร์) ขณะที่ Grayscale’s ETHE (-526.5 ล้านดอลลาร์), Fidelity’s FETH (-146.8 ล้านดอลลาร์) และ WisdomTree’s ETHW (-80.7 ล้านดอลลาร์) เป็นกลุ่มที่มีเงินไหลออกมากที่สุด 9. อิทธิพลของทรัมป์ที่มีต่อ Bitcoin (BTC) ตั้งแต่ต้นปี 2025 ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์มีบทบาทสำคัญต่อราคาของ Bitcoin โดยในช่วงแรก ราคาพุ่งขึ้นแตะจุดสูงสุดใหม่ (All-Time High) หลังจากที่ทรัมป์เปิดตัวเหรียญ $TRUMP memecoin และลงนามคำสั่งบริหารเกี่ยวกับสินทรัพย์ดิจิทัล ซึ่งสร้างความคาดหวังว่ารัฐบาลจะสนับสนุนวงการคริปโตมากขึ้น อย่างไรก็ตาม แนวโน้มบวกนี้อยู่ได้ไม่นาน เพราะนโยบายการค้าของทรัมป์ โดยเฉพาะการประกาศภาษีตอบโต้ต่อประเทศต่าง ๆ เช่น แคนาดา เม็กซิโก จีน ฯลฯ เริ่มสร้างความกังวลต่อนักลงทุน ส่งผลให้ราคาคริปโตเริ่มผันผวนและลดลงเรื่อย ๆ ในช่วงเดือนมีนาคมถึงเมษายน สถานการณ์เศรษฐกิจของสหรัฐอเมริกาเริ่มมีสัญญาณลบมากขึ้น เช่น คาดการณ์ GDP ไตรมาส 1 ติดลบ อัตราเงินเฟ้อพุ่งสูง และตลาดหุ้นปรับตัวลงตามคำเตือนของบริษัทใหญ่อย่าง Walmart ซึ่งรวมถึงความกังวลว่าเศรษฐกิจอาจเข้าสู่ภาวะถดถอย ทำให้แรงขายในตลาดคริปโตยิ่งรุนแรง จนราคา Bitcoin ร่วงลงไปใกล้ระดับ 70,000 ดอลลาร์ต่อเหรียญ แม้ว่าทรัมป์จะออกมาชะลอการใช้ภาษีตอบโต้ในช่วงต้นเดือนเมษายน แต่ความเชื่อมั่นของตลาดก็ยังไม่ฟื้นตัวอย่างชัดเจน 10. มูลค่าของ Total Value Locked (TVL): จำนวนเงินที่ล็อกไว้กว่า 48,900 ล้านดอลลาร์หายไปจาก Multichain ไตรมาส 1 ปี 2025 มูลค่ารวมที่ล็อกไว้ (TVL) ในระบบ Multichain DeFi ลดลง -27.5% ในไตรมาส 1 ปี 2025 จาก 177,400 ล้านดอลลาร์ ณ สิ้นปี 2024 เหลือประมาณ 128,600 ล้านดอลลาร์ ณ สิ้นเดือนมีนาคม 2025 ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผลมาจากการปรับตัวลดลงอย่างหนักของมูลค่าเหรียญ Altcoin ต่าง ๆ โดยเฉพาะ Ethereum ที่สูญเสียส่วนแบ่ง TVL ไปอย่างมาก โดยลดลงจากการครองส่วนแบ่ง 63.5% เมื่อต้นปี 2025 เหลือ 56.6% ในช่วงปลายไตรมาส 1 โดย TVL ของ Ethereum ลดลง -35.4% จากประมาณ112,600 ล้านดอลลาร์ เหลือ 72,700 ล้านดอลลาร์ ที่มา: coingecko — — — — — — — — — — — — — — — — — ​​- คริปโทเคอร์เรนซีและโทเคนดิจิทัลมีความเสี่ยงสูง ท่านอาจสูญเสียเงินลงทุนได้ทั้งจํานวน โปรดศึกษาและลงทุนให้เหมาะสมกับระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้ - ผลตอบแทนของสินทรัพย์ดิจิทัลในอดีตหรือผลการดําเนินงานในอดีต มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลตอบแทน ของสินทรัพย์ดิจิทัลหรือผลการดําเนินงานในอนาคต สรุปประเด็นสําคัญ อุตสาหกรรมคริปโตไตรมาส 1 ปี 2025 จากรายงานของ CoinGecko was originally published in Bitkub.com on Medium, where people are continuing the conversation by highlighting and responding to this story.

Author: Tontoey Sirasit | 09 May 2025 |Read: 654
news

ข่าวรายสัปดาห์ 3–9 พฤษภา: สภาพคล่อง Stabecoin แตะระดับสูงสุด | นิวแฮมป์เชียรรัฐแรกมี Bitcoin…

ข่าวรายสัปดาห์ 3–9 พ.ค. 68: สภาพคล่อง Stabecoin แตะระดับสูงสุด 220,000 ล้านดอลลาร์ | นิวแฮมป์เชียร์ รัฐแรกในสหรัฐฯ ใช้ Bitcoin เป็นทุนสำรอง | BlackRock ETF รับเงินไหลเข้าเป็นวันที่ 16 ติดต่อกัน ข่าวคริปโตประจำสัปดาห์ 3–9 พ.ค. 68: การอัปเกรด Pectra ของ Ethereum ที่รวมการอัปเกรด Prague และ Electra เข้ากับ EIP 11 ตัวที่เน้นที่การแยกบัญชี การปรับปรุงการ Staking และการเพิ่มปริมาณข้อมูล ได้เปิดตัวสำเร็จแล้วหลังจากเอาชนะความล่าช้าในการทดสอบ ในเวลาเดียวกัน สภาพคล่องของ Stablecoin ได้แตะระดับสูงสุดที่ 220,000 ล้านดอลลาร์ ขับเคลื่อนโดยการเติบโตของ Tether และ USD Coin ซึ่งส่งสัญญาณถึงการเคลื่อนไหวในตลาดขาขึ้นที่อาจเกิดขึ้นได้ในอดีต ในสหรัฐฯ กฎระเบียบ นิวแฮมป์เชียร์กลายเป็นรัฐแรกในสหรัฐฯ ที่ประกาศใช้ร่างกฎหมายสำรอง Bitcoin ซึ่งอนุญาตให้กระทรวงการคลังลงทุนในสกุลเงินดิจิทัล ในขณะที่ Bitcoin ETF ของ BlackRock มีเงินไหลเข้าติดต่อกันเป็นวันที่ 16 ซึ่งส่งผลให้ราคา Bitcoin ฟื้นตัวขึ้น Tether ได้เปิดตัว USDT บนบล็อกเชน Kaia ของ LINE เพื่อขยายการใช้สกุลเงินดิจิทัลให้กว้างขวางยิ่งขึ้น เข้าถึงผู้ใช้หลายล้านคนในเอเชีย และ Metaplanet ได้เพิ่มการถือครอง Bitcoin เป็น 5,555 BTC ซึ่งช่วยเสริมความแข็งแกร่งให้กับกลยุทธ์การเก็บสะสม Bitcoin — — — — — — — — — — Ethereum Pectra ถูกอัปเกรดและเปิดใช้งานอย่างเป็นทางการแล้วเมื่อ 7 พ.ค. 2025 การอัปเกรด Pectra ของ Ethereum ได้เปิดตัวอย่างเป็นทางการ หลังจากที่หลายคนรอคอยมาอย่างนาน โดยการผสานรวมเลเยอร์ Prage (execution) และ Electra (consensus) เข้าด้วยกัน พร้อมกันกับข้อเสนอการปรับปรุง Etherueum (EIPs) จํานวน 11 ข้อหลัก โดย hard fork ครั้งนี้ได้เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่การรวมเครือข่าย (The Merge) ที่มุ่งเน้นไปที่การยกระดับการใช้บัญชี (account abstraction), การปรับปรุงเรื่อง staking (staking functiionality), และการเพิ่มประสิทธิภาพของการประมวลผลแบบ blob โดยเดิมของการอัปเกรดวางแพลนกําหนดไว้ในเดือนมีนาคม แต่ได้มีการเลื่อนกําหนดเนื่องจากความท้าทายในการทดสอบ แต่ในที่สุดก็ได้ประสบคสามสําเร็จในการทดสอบบนเครือข่าย Hoodi จึงสามารถเปิดใช้งานได้ในที่สุด ถือว่าเป็นการอัปเกรดครั้งสําคัญในด้านศักยภาพด้านการขยายตัวและประสบการณ์ของผู้ใช้ในระบบนิเวศของ Ethereum ที่มา : CryptoPotato — — — — — — — — — — สภาพคล่องของ Stabecoin แตะระดับสูงสุดที่ 220,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ส่งผลให้มีเงินทุนไหลเข้าสู่ระบบนิเวศของสกุลเงินดิจิทัลมากขึ้น CyptoQuant รายงานว่าสภาพคล่องของ Stablecoin แตะระดับสูงสุดในประวัติศาสตร์ที่ 220,000 ล้านดอลลาร์ ที่ได้รับแรงสนับสนุนจากการเติบโตของมูลค่าตลาดของ Tether (USDT) และ USD Coin (USDC) ในด้านราคาของ USDT เพิ่มขึ้นถึง 2,500 ล้านดอลลาร์ และ USDC เพิ่มขึ้น 1,200 ล้านดอลลาร์ นี่เป็นสัญญาณว่ามีเงินทุนจํานวนมากไหลเข้ามาสู่ตลาดคริปโต ในอดีตการเพิ่มสภาพคล่องของ Stablecoin มักจะเป็นตัวชี้วัดแนวโน้มตลาดกระทิง และขณะนี้ Bitcoin Bull Score ของ CryptoQuant ได้ขยับเข้าสู่โซนที่เป็นกลางแล้ว (neutral territory) แม้ USDT บนว่า USDT กระดานเทรดจะลดลง แต่หยอดคงเหลือของ USDC กลับพุ่งสูงสุดนับตั้งแต่เดือนมีนาคม 2023 ซึ่งบ่งชี้ว่ามีเงินทุนพร้อมสําหรับการเทรดและการลงทุน ซึ่งอาจเป็นแรงหนุนให้ตลาดเติบโตต่อไปได้ ที่มา : CryptoPotato — — — — — — — — — — รัฐนิวแฮมป์เชียร์กลายเป็นรัฐแรกของสหรัฐฯ ที่ประกาศใช้ร่างกฎหมายสำรอง Bitcoin รัฐนิวแฮมป์เชียร์กลายเป็นรัฐแรกของสหรัฐฯ ที่อนุญาตให้กระทรวงการคลังลงทุนใน Bitcoin และสกุลเงินดิจิทัลอื่นๆ ผู้ว่าการรัฐ Kelly Ayotte ลงนามในร่างกฎหมายหมายเลข 302 ของสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งอนุญาตหน่วยงานรัฐซื้อสกุลเงินดิจิทัลที่มีมูลค่าตามราคาตลาดเกิน 500,000 ล้านดอลลาร์ ซึ่งปัจจุบันมีเพียง Bitcoin เท่านั้น การถือครองมีขีดจำกัดที่ 5% ของเงินทั้งหมดและต้องได้รับการดูแลอย่างปลอดภัย การเคลื่อนไหวที่ล้ำสมัยนี้ถือเป็นแนวทางที่มองการณ์ไกลในการกระจายเงินสำรองของรัฐ และอาจส่งผลกระทบต่อรัฐอื่นๆ ร่างกฎหมายดังกล่าวซึ่งได้รับการสนับสนุนจากผู้สนับสนุนบล็อกเชน มีผลบังคับใช้ 60 วันหลังจากการผ่าน ซึ่งถือเป็นก้าวสำคัญสำหรับการนำสกุลเงินดิจิทัลมาใช้ในระดับรัฐ ที่มา : CryptoPotato — — — — — — — — — — กองทุน BlackRock ETF Bitcoin มีเงินไหลเข้าต่อเนื่อง 16 วันติดต่อกัน หลัง BTC กลับมาทำราคาสูงกว่า 97,000 ดอลลาร์ iShares Bitcoin Trust (IBIT) ของ BlackRock บันทึกว่ามีเงินไหลเข้าสุทธิต่อเนื่อง 16 วัน แสดงให้เห็นถึงความเชื่อมั่นของนักลงทุนที่แข็งแกร่ง ความต้องการที่สม่ำเสมอนี้ ซึ่งเพิ่มขึ้นอีก 280 BTC เมื่อวันที่ 6 พฤษภาคม ส่งผลให้ราคา Bitcoin ฟื้นตัวในช่วงที่ผ่านมา โดยแตะระดับ 97,000 ดอลลาร์ โดย IBIT ดึงดูดเงินไหลเข้าได้ประมาณ 4,700 ล้านดอลลาร์นับตั้งแต่วันที่ไหลออกครั้งล่าสุด โดยเป็น Bitcoin ETF ของสหรัฐฯ เพียงกองทุนเดียวที่มีเงินไหลเข้าในสัปดาห์นี้ นักวิเคราะห์มองว่าความสนใจที่ต่อเนื่องนี้เป็นตัวบ่งชี้เชิงบวกในระยะยาวสำหรับกองทุน Bitcoin ETF ซึ่งอาจแซงหน้ากองทุนทองคำในอนาคต ที่มา : CryptoPotato — — — — — — — — — — Tether เปิดตัว USDT บน Kaia สามารถถึงระบบนิเวศผู้ใช้งาน LINE ทั่วเอเชียมากกว่า 196 ล้านคน Tether เปิดตัว USDT stablecoin บนบล็อกเชน Kaia ที่ขับเคลื่อนระบบนิเวศ Web3 ของ LINE NEXT ที่เป็นโครงสร้างพื้นฐานบนบล็อกเชน การทำงานนี้ทำให้ USDT สามารภเข้าถึงผู้ใช้งาน LINE ได้มากกว่า 196 ล้านคนต่อเดือนทั่วเอเชีย ทำให้สามารถชำระเงินในแอป โอนเงินข้ามพรมแดน และกิจกรรม DeFi ได้ภายในสภาพแวดล้อมของ LINE ผู้ใช้ยังสามารถรับและส่ง/รับ USDT ผ่านกระเป๋าเงินในแอปได้อีกด้วย ความร่วมมือเชิงกลยุทธ์นี้ขยายการเข้าถึง USDT ไปสู่กลุ่มผู้ใช้กระแสหลักจำนวนมากในเอเชียโดยใช้ประโยชน์จากการเข้าถึงที่กว้างขวางของ LINE และสร้าง “เกตเวย์ที่ใช้เงินดอลลาร์” สำหรับบริการ Web3 ที่มา : CryptoPotato — — — — — — — — — — Metaplanet สะสม Bitcoin รวม 5,555 BTC ด้วยการซื้อเพิ่มอีก 555 BTC Metaplanet บริษัทการลงทุนของญี่ปุ่น ได้เพิ่มการถือครอง Bitcoin เป็น 5,555 BTC ด้วยการซื้อ 555 BTC เมื่อไม่นานนี้ การเข้าซื้อครั้งนี้มีมูลค่ากว่า 536 ล้านดอลลาร์ ทำให้บริษัท Metaplanet เป็นบริษัทในอันดับต้นๆ ของผู้ถือ Bitcoin ระดับองค์กร กลยุทธ์ของบริษัทเริ่มต้นในเดือนเมษายน 2024 ตั้งเป้าที่จะบรรลุ 10,000 BTC ภายในปี 2025 และ 21,000 BTC ภายในปี 2026 ซึ่งสะท้อนถึงแนวทางของ MicroStrategy ที่ Bitcoin เป็นสินทรัพย์ทางการเงินหลัก นอกจากนี้ Metaplanet ยังได้จัดตั้งบริษัทในเครือในสหรัฐอเมริกาเพื่อปรับปรุงการเข้าถึงสภาพคล่องและช่องทางการซื้อ ซึ่งเน้นย้ำถึงความมุ่งมั่นต่อกลยุทธ์ที่เน้นที่ Bitcoin ที่มา : CryptoPotato — — — — — — — — — — คำเตือน: -คริปโทเคอร์เรนซีและโทเคนดิจิทัลมีความเสี่ยงสูง ท่านอาจสูญเสียเงินลงทุนได้ทั้งจํานวน โปรดศึกษาและลงทุนให้เหมาะสมกับระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้ -ผลตอบแทนของสินทรัพย์ดิจิทัลในอดีตหรือผลการดําเนินงานในอดีต มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลตอบแทน ของสินทรัพย์ดิจิทัลหรือผลการดําเนินงานในอนาคต — — — — — — — — — — Weekly News (3–9 MAY 2025): Stablecoin Liquidity Reaches Record High $220B | New Hampshire First US State with Bitcoin Reserve | BlackRock ETF Sees 16th Inflow Day; Bitcoin Above $97K Weekly Crypto News: 3–9 MAY 2025: Ethereum’s Pectra upgrade, combining Prague and Electra layers with 11 EIPs focused on account abstraction, staking improvements, and increased data throughput, has successfully launched after overcoming testing delays. Concurrently, stablecoin liquidity has reached a record $220 billion, fueled by Tether and USD Coin growth, historically signaling potential bullish market movements. In regulatory news, New Hampshire became the first US state to enact a Bitcoin reserve bill, allowing treasury investment in cryptocurrencies, while BlackRock’s Bitcoin ETF marked its 16th consecutive day of inflows, contributing to Bitcoin’s price recovery. Further expanding crypto adoption, Tether launched USDT on LINE’s Kaia blockchain, reaching millions of users in Asia, and Metaplanet increased its Bitcoin holdings to 5,555 BTC, reinforcing its Bitcoin-focused treasury strategy. — — — — — — — — — — Ethereum’s Pectra Upgrade Finally Goes Live The highly anticipated Ethereum Pectra upgrade successfully launched, combining the Prague execution and Electra consensus layers with 11 key Ethereum Improvement Proposals (EIPs). This major hard fork, the first since the Merge, focuses on enhancing account abstraction, improving staking functionality, and increasing blob data throughput. Initially planned for March, the upgrade faced delays due to testing challenges but was ultimately deployed following successful trials on the Hoodi testnet, marking a significant step forward for the Ethereum ecosystem’s scalability and user experience. Source: CryptoPotato — — — — — — — — — — Stablecoin Liquidity Reaches Record High $220B CryptoQuant reports stablecoin liquidity hitting a record $220 billion, driven by significant growth in Tether (USDT) and USD Coin (USDC) market caps. This surge, with USDT adding $2.5B and USDC $1.2B in the past week, signals increased capital ready to flow into the crypto market. Historically, rising stablecoin liquidity precedes bullish market movements, and CryptoQuant’s Bitcoin Bull Score has moved into neutral territory. While USDT on exchanges has decreased, USDC balances have reached a high since March 2023, indicating available funds for trading and investment, potentially fueling further market growth. Source: CryptoPotato — — — — — — — — — — New Hampshire Becomes First US State to Enact Bitcoin Reserve Bill New Hampshire has become the first US state to allow its treasury to invest in Bitcoin and other cryptocurrencies. Governor Kelly Ayotte signed House Bill 302, permitting the state treasurer to purchase cryptocurrencies with a market cap exceeding $500 billion, currently only Bitcoin. Holdings are capped at 5% of total funds and must be securely custodied. This pioneering move is seen as a forward-thinking approach to diversifying state reserves and could influence other states. The bill, supported by blockchain advocates, took effect 60 days after passage, marking a significant step for cryptocurrency adoption at the state level. Source: CryptoPotato — — — — — — — — — — BlackRock Bitcoin ETF Sees 16-Day Inflow Streak; BTC Reclaims $97K BlackRock’s iShares Bitcoin Trust (IBIT) has recorded 16 consecutive days of net inflows, demonstrating strong investor confidence. This consistent demand, with another 280 BTC added on May 6th, has contributed to Bitcoin’s recent price recovery, briefly reaching $97,000. IBIT has attracted approximately $4.7 billion in inflows since its last outflow day. Notably, it’s the only US spot Bitcoin ETF with inflows this week. Analysts view this sustained interest as a positive long-term indicator for Bitcoin ETFs, potentially surpassing gold ETFs in the future. Source: CryptoPotato — — — — — — — — — — Tether Launches USDT on Kaia, Reaching LINE’s 196M User Ecosystem Tether has launched its USDT stablecoin on the Kaia blockchain, which powers LINE NEXT’s Web3 ecosystem. This integration brings USDT to LINE’s 196 million monthly active users across Asia, enabling in-app payments, cross-border transfers, and DeFi activities within the LINE environment. Users can also earn and send/receive USDT via the in-app wallet. This strategic partnership significantly expands USDT’s accessibility to a vast mainstream audience in Asia, leveraging LINE’s extensive reach and establishing a “dollar-based gateway” to Web3 services. Source: CryptoPotato — — — — — — — — — — Metaplanet Reaches 5,555 Bitcoin Milestone with Latest 555 BTC Buy Metaplanet, a Japanese investment firm, has increased its Bitcoin holdings to 5,555 BTC with a recent purchase of 555 BTC. This acquisition, valued at over $536 million, solidifies Metaplanet’s position as a significant corporate Bitcoin holder. The company’s strategy, initiated in April 2024, aims to reach 10,000 BTC by 2025 and 21,000 BTC by 2026, mirroring MicroStrategy’s approach of Bitcoin as a primary treasury asset. Metaplanet has also established a US subsidiary to improve access to liquidity and acquisition channels, underscoring its commitment to its Bitcoin-focused strategy. Source: CryptoPotato — — — — — — — — — — Disclaimer: - Cryptocurrency and digital tokens involve high risks; investors may lose all investment money and should study information carefully and make investments according to their own risk profile. -Past Returns does not guarantee future returns/performance. ข่าวรายสัปดาห์ 3–9 พฤษภา: สภาพคล่อง Stabecoin แตะระดับสูงสุด | นิวแฮมป์เชียรรัฐแรกมี Bitcoin… was originally published in Bitkub.com on Medium, where people are continuing the conversation by highlighting and responding to this story.

Author: Napisa Wisuttipun | 09 May 2025 |Read: 389
news

ทําความรู้จัก Grass เครือข่ายบน Solana ที่เปลี่ยนอินเทอร์เน็ตที่ไม่ได้ใช้ให้เป็นรายได้

Grass (GRASS) คืออะไร? Grass เป็นเครือข่ายที่ช่วยเปิดโอกาสให้ผู้ใช้สามารถสร้างรายได้จาก bandwidth internet ที่ไม่ได้ใช้งาน พร้อมกับการสนับสนุนการพัฒนา AI ผ่าน Grass Network โดยเครือข่ายนี้ได้นำกลไกการเก็บข้อมูลที่ซับซ้อนมาใช้แบบกระจายศูนย์ (decentralized architecture) ซึ่งโปรเจกต์ Grass จะทํางานบน Solana Blockchain เพื่อเป็นการเพิ่มความเร็วและความปลอดภัยผ่านเทคโนโลยีอย่าง Zero-Knowledge Proofs ผู้ใช้ที่เข้าร่วมในการแบ่งปันแบ่งปันแบนด์วิธอินเทอร์เน็ตที่ไม่ได้ใช้งานให้กับเครือข่าย Grass จะได้รับโทเคน GRASS เป็นรางวัล พร้อมคงไว้ซึ่งมาตรการด้านความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัยที่เข้มงวด แพลตฟอร์มนี้มีเป้าหมายที่จะปรับโครงสร้างแรงจูงใจของอินเทอร์เน็ตใหม่ทั้งหมด โดยสร้างระบบนิเวศที่ผู้ใช้เป็นเจ้าของ เพื่อการเก็บข้อมูล การปรับเปลี่ยน และการสร้างรายได้อย่างแท้จริง เทคโนโลยีของ Grass (GRASS) Grass จะทํางานผ่านเครือข่ายที่มีการใช้งานที่ซับซ้อน คือ Sovereign Data Rollup ที่จะคอยเชื่อมเครือข่ายและคอมพิวเตอร์จํานวนมาก โดยที่เวลาผู้ใช้ดาวน์โหลดแอป Grass อุปกรณ์ของผู้ใช้จะเป็นโหนด (node) ทันที โดยจะมีการแชร์ bandwidth ที่ไม่ได้ใช้งานเท่านั้น สถาปัตยกรรม Sovereign Data Rollup — ที่มา: Grass Foundation มีองค์ประกอบหลัก 3 ส่วนได้แก่ 1. Validators — จะทําหน้าที่เป็นผู้ตรวจสอบ และรับประกันความปลอดภัยและการดำเนินงานที่ราบรื่นจาก Routers และจากนั้นจะสร้าง ZK proofs เพื่อลงข้อมูลบนบล็อกเชน หลักฐานนี้สามารถอิง datasets เพื่อเอามายืนยันข้อมูล และติดตามเส้นทางข้อมูลได้ 2. Routers — จะทําหน้าที่เชื่อมต่อและคอยนํา traffic ระหว่าง Grass โหนด (nodes) ต่าง ๆ กับ Validators โดย Router จะควบคุมความถูกต้องของโหนดในเครือข่าย และเป็นตัวกลางในการส่งต่อ bandwidth 3. Grass Nodes — จะใช้ bandwidth ที่ไม่ได้ใช้งานของผู้ใช้ในการรับ-ส่งข้อมูล เพื่อให้เครือข่ายสามารถเก็บข้อมูลจากเว็บสาธารณะ (ไม่ใช่ข้อมูลส่วนตัวของผู้ใช้) ผู้ก่อตั้ง Grass ผู้ก่อตั้ง Grass คือ ผู้ก้อตั้ง Wynd Labs เพราะ Wynd Labs เป็นผู้ที่พัฒนา Grass นั่นเอง โดย Wynd Labs คือบริษัทที่มุ่งเน้นในการพัฒนาด้านบล็อกเชน ในส่วนของผู้ก่อตั้ง Wynd Labs ได้แก่ Andrej Radonjic ที่เป็น CEO และผู้ก่อตั้งของ บริษัท Wynd Labs Andrej Radonjic ได้สําเร็จการศึกษาในระดับปริญญาโทในสาขาคณิตศาสตร์และสถิติ (Mathematics and Statistics) จากมหาวิทยาลัย York และปริญญาตรีสาขาฟิสิกส์วิศวกรรม (Engineering Physics) จากมหาวิทยาลัย McMaster โทเคน GRASS คืออะไร? โทเคน GRASS ถือเป็นโทเคนที่ทําหน้าที่เป็นผลตอบแทนให้กับผู้ใช้ที่แชร์ bandwitdth บนอินเทอร์เน็ตที่ไม่ได้ใช้งานผ่าน Grass Network โดยโทเคนเหล่านี้จะสะท้อนถึงการให้ความร่วมมือระหว่างผู้ใช้งานในการสร้างและขับเคลื่อนโครงสร้างพื้นฐานของเครือข่าย โทเคน GRASS ทําอะไรบ้าง – Governance และ Staking: โทเคน GRASS มีบทบาทในการกํากับดูแลเครือข่าย โดยเปิดโอกาสให้ผู้ที่ถือโทเคนมีโอกาสในการกําหนดทิศทางของแพลตฟอร์มเช่นกัน ผู้ใช้ยังสามารถนําโทเคน GRASS ไป stake ถือเป็นการได้ passive income และช่วยสร้างความแข็งแรงให้กับตัวแพลตฟอร์มด้วยเช่นกัน – เป็นรางวัลให้ผู้ใช้ (Token Rewards): ผู้ใช้สามารถได้รับโทเคน GRASS ผ่านจากการแชร์ bandwidth และสามารถนำโทเคนเหล่านี้ไปใช้ในกิจกรรมต่าง ๆ ภายในระบบนิเวศของ Grass ได้ การกระจายเหรียญของ GRASS GRASS Token Allocation — ที่มา Grass Tokenomics ข้อมูลจากเว็บไซต์ Grass Foundation ณ วันที่ 9 เม.ย. 2025 ระบุว่าโทเคน GRASS มี Total Supply ทั้งหมดอยู่ที่ 1,000,000,000 GRASS และมี Circulating supply อยู่ที่ 243,905,091 GRASS โทเคน GRASS มีการแจกจ่ายดังนี้ – 30.00% — ชุมชน แบ่งออกเป็นรางวัลในอนาคต (17%), Airdrop ครั้งแรก (10%), ผู้ดูแล Routers (3%) – 22.80% — Foundationและการเติบโตของระบบนิเวศ – 25.20% — นักลงทุน – 22.00% — ผู้มีส่วนร่วม ข้อมูลน่าสนใจด้านราคาของ GRASS ข้อมูลจากเว็บไซต์ Coinmarketcap เมื่อวันที่ 10 เมษายน 2025 เหรียญ GRASS มีมูลค่าตามราคาตลาด (Market cap) ที่ 377,906,798.99 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือประมาณ 12,894,179,981.53 บาท ณ เวลาที่เขียนบทความนี้ เหรียญ GRASS ซื้อขายกันอยู่ที่ราคาประมาณ 1.55 ดอลลาร์ หรือประมาณ 52.95 บาทต่อ 1 GRASS โดย GRASS เคยทำราคาสูงสุด (All-time high) ที่ 3.90 ดอลลาร์ หรือประมาณ 133.10 บาท ต่อ 1 GRASS เมื่อวันที่ 8 พฤศจิกายน 2024 ที่มา: coinmarketcap, iq.wiki, grass foundation — — — — — — — — — — — — — — — — — คําเตือน: – คริปโทเคอร์เรนซีและโทเคนดิจิทัลมีความเสี่ยงสูง ท่านอาจสูญเสียเงินลงทุนได้ทั้งจํานวน โปรดศึกษาและลงทุนให้เหมาะสมกับระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้ – ผลตอบแทนของสินทรัพย์ดิจิทัลในอดีตหรือผลการดําเนินงานในอดีต มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลตอบแทน ของสินทรัพย์ดิจิทัลหรือผลการดําเนินงานในอนาคต — — — — — — — — — — — — — — — — — Grass: The Solana-Powered Network Monetizing Unused Internet What is Grass (GRASS)? Grass is a network that enables users to earn revenue from their unused internet bandwidth while supporting AI development through the Grass Network. This network utilizes a decentralized architecture for complex data collection processes. The Grass project operates on the Solana blockchain to enhance speed and security, leveraging technologies like Zero-Knowledge Proofs. Users who participate by sharing their unused internet bandwidth with the Grass network will receive GRASS tokens as rewards, all while maintaining strict privacy and security measures. The platform aims to reshape internet incentives entirely, creating a user-owned ecosystem for data collection, modification, and genuine monetization. Grass (GRASS) Technology Grass operates through a sophisticated network called the Sovereign Data Rollup, which connects numerous networks and computers. When users download the Grass app, their devices instantly become nodes that share only their unused bandwidth. Sovereign Data Rollup Architecture — Source: Grass Foundation The architecture consists of three main components: Validators — They verify and ensure the security and smooth operation of the Routers. Validators generate ZK proofs to record data on the blockchain. These proofs reference datasets to confirm information and track data flow. Routers — They manage traffic between Grass nodes and Validators. Routers validate nodes and serve as intermediaries for bandwidth transmission. Grass Nodes — These use the users’ unused bandwidth to send and receive data, enabling the network to collect public web data (not users’ private information). Grass Founders Grass was created by the team at Wynd Labs, the company responsible for developing the Grass network. Wynd Labs focuses on blockchain development, and its founder and CEO is Andrej Radonjic. Andrej Radonjic holds a Master’s degree in Mathematics and Statistics from York University and a Bachelor’s degree in Engineering Physics from McMaster University. What is the GRASS Token? The GRASS token serves as a reward mechanism for users who share their unused internet bandwidth via the Grass Network. These tokens represent users’ contributions to building and driving the network’s infrastructure. Use Cases of GRASS Tokens – Governance and Staking: GRASS tokens play a governance role in the network, giving holders the power to shape the platform’s future direction. Users can also stake GRASS tokens, earning passive income while reinforcing the platform’s security and strength. – User Rewards: Users can earn GRASS tokens by sharing bandwidth and spend them within the Grass ecosystem for various activities. GRASS Token Distribution GRASS Token Allocation — Source: Grass Foundation According to the Grass Foundation website (as of April 9, 2025), the total supply of GRASS tokens is 1,000,000,000 GRASS, with a circulating supply of 243,905,091 GRASS. The token allocation is as follows: – 30.00% — Community (Future rewards 17%, Initial airdrop 10%, Router operators 3%) – 22.80% — Foundation and Ecosystem Growth – 25.20% — Investors – 22.00% — Contributors Interesting Information Regarding GRASS Price According to data from the CoinMarketCap website on April 10, 2025, the GRASS coin has a market capitalization (Market cap) of USD 377,906,798.99 or THB 12,894,179,981.53. At the time of writing this article, the GRASS coin is trading at approximately $1.55 or about 52.95 THB per 1 GRASS. GRASS reached its all-time high price of $3.90 or approximately 133.10THB per 1 GRASS on November 8, 2024 sources: coinmarketcap, iq.wiki, grass foundation — — — — — — — — — — — — — — — — — Disclaimer: – Cryptocurrency and digital tokens involve high risks; investors may lose all investment money and should study information carefully and make investments according to their own risk profile. – Past Returns do not guarantee future returns/performance. ทําความรู้จัก Grass เครือข่ายบน Solana ที่เปลี่ยนอินเทอร์เน็ตที่ไม่ได้ใช้ให้เป็นรายได้ was originally published in Bitkub.com on Medium, where people are continuing the conversation by highlighting and responding to this story.

Author: Tontoey Sirasit | 08 May 2025 |Read: 237
news

กิจกรรม ฉลอง 7 ปี บิทคับ เอ็กซ์เชนจ์ มาร่วมแชร์ 7 สิ่งประทับใจกับ บิทคับ เอ็กซ์เชนจ์

กิจกรรม: ฉลอง 7 ปี บิทคับ เอ็กซ์เชนจ์ มาร่วมแชร์ 7 สิ่งประทับใจกับ บิทคับ เอ็กซ์เชนจ์ . กิจกรรมระหว่างวันที่: 9 พ.ค. 68–16 พ.ค. 68 . ลงทะเบียนผ่านลิงก์: https://app.deform.cc/form/5de0ed2d-41f2-44b0-946f-3f60ebecf44c . รายละเอียดและเงื่อนไขของกิจกรรม . 1.กิจกรรม ฉลอง 7 ปี บิทคับ เอ็กซ์เชนจ์ (“กิจกรรม”) นี้ จัดขึ้นโดย บริษัท บิทคับ ออนไลน์ จำกัด (“บริษัท”) . 2.กิจกรรมนี้ เริ่มต้นตั้งแต่วันที่ 9 พ.ค. 68–16 พ.ค. 68 . 3.ของรางวัลคือ E-Coupon Starbucks มูลค่า 200 บาท จํากัดจํานวน 20 สิทธิ์ . 4.ลูกค้าจะได้รับ E-Coupon Starbucks มูลค่า 200 บาท เมื่อแชร์ 7 สิ่งประทับใจกับ บิทคับ เอ็กซ์เชนจ์ ในแบบฟอร์ม https://app.deform.cc/form/5de0ed2d-41f2-44b0-946f-3f60ebecf44c และได้รับคะแนนโหวตจากพนักงาน ในกลุ่ม บิทคับ กรุ๊ป มากที่สุด 20 ท่านแรก . 5.บริษัทจะจัดส่งโค้ด E-Coupon Starbucks มูลค่า 200 บาท ให้กับผู้เข้าร่วมกิจกรรมที่แชร์ 7 สิ่งประทับใจกับ บิทคับ เอ็กซ์เชนจ์ และได้รับคะแนนโหวตจากพนักงาน ในกลุ่ม บิทคับ กรุ๊ป มากที่สุด 20 ท่านแรก ภายในวันที่ 9 พ.ค. 68 — 16 พ.ค. 68 ก่อนเวลา 23:59 น. และผ่านการยืนยันตัวตนระดับที่ 1 (KYC1) ภายในวันที่ 16 พ.ค. 68 . 6.ทางบริษัทฯ จะประกาศผลผู้ที่ได้รับรางวัล ภายใน 30 วัน หลังจากสิ้นสุดกิจกรรม . 7.ทางบริษัทฯ จะจัดส่ง E-Coupon Starbuckให้ผู้ที่ได้รับรางวัลผ่านทาง Email ที่ลงทะเบียนไว้กับ Bitkub Exchange ภายในวันที่ 90 วันทําการ นับตั้งแต่เริ่มกิจกรรม . 8.กรณีที่ลูกค้า Bitkub Exchange หรือ ผู้เข้าร่วมกิจกรรม ที่ทําการยกเลิกการติดตาม (Unsubscribe) รับอีเมลแจ้งเตือนจาก Bitkub Exchange ภายใน 90 วันหลังการแจ้งอีเมล — ยืนยันการรับสิทธิ จะถือว่าปฏิเสธในการรับของรางวัลในทุกกรณี . 9.หากผู้ร่วมกิจกรรมไม่ให้ความยินยอมในการเข้าถึงข้อมูล ทางบริษัทจะไม่ดําเนินการตรวจสอบสิทธิ์ใน การร่วมกิจกรรม โดยจะถือว่าผู้ร่วมกิจกรรมปฏิเสธที่จะรับของรางวัลในกิจกรรมนี้ . 10.ของรางวัลไม่สามารถเปลี่ยนเป็นเงินสด หรือเปลี่ยนเป็นของรางวัลชนิดอื่นได้ และไม่สามารถโอน สิทธิ์ให้ผู้อื่นได้ . 11.บริษัท บิทคับ ออนไลน์ จํากัด ขอสงวนสิทธิ์ในการเปลี่ยนแปลง เงื่อนไขกิจกรรมโดยจะแจ้งให้ทราบล่วงหน้า 3 วันทําการ . 12.การตัดสินเพื่อมอบรางวัลของบริษัทถือเป็นที่สิ้นสุด ดาวน์โหลดแอปพลิเคชันบิทคับ ได้ที่นี่ https://onelink.bitkub.com/aHvr/jjtbqd0n กิจกรรม ฉลอง 7 ปี บิทคับ เอ็กซ์เชนจ์ มาร่วมแชร์ 7 สิ่งประทับใจกับ บิทคับ เอ็กซ์เชนจ์ was originally published in Bitkub.com on Medium, where people are continuing the conversation by highlighting and responding to this story.

Author: Pipitchot Panupornprapong | 08 May 2025 |Read: 300
news

XDC Network บล็อกเชนที่สร้างมาเพื่อเชื่อมโลกการเงินการค้า พร้อมเดินหน้าสู่ศูนย์กลาง Real-World…

XDC Network บล็อกเชนที่สร้างมาเพื่อเชื่อมโลกการเงินการค้า พร้อมเดินหน้าสู่ศูนย์กลาง Real-World Assets Tokenization ในโลกของบล็อคเชนที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว เครือข่าย XDC มีความโดดเด่นด้วยการเป็นแพลตฟอร์มไฮบริดระดับองค์กรที่ออกแบบมาโดยเฉพาะเพื่อเชื่อมช่องว่างระหว่างการเงินแบบดั้งเดิมและระบบการเงินแบบกระจายอำนาจภารกิจหลักของเครือข่ายนี้คือการใช้ประโยชน์จากประสิทธิภาพของบล็อกเชนสำหรับโลกความเป็นจริง มุ่งเน้นอย่างยิ่งในการปฏิวัติการเงินการค้าระดับโลกและเปิดใช้งานการแปลงสินทรัพย์ในโลกแห่งความเป็นจริง (RWA) เป็นโทเคน ซึ่งบทความจะช่วยทำให้ผู้อ่านเข้าใจ XDC Network มากยิ่งขึ้น XDC Network คืออะไร มีเทคโนโลยีสำคัญอะไรบ้าง XDC Network เป็นบล็อกเชน Layer 1 ที่ออกแบบมาเพื่อเป็นโครงสร้างพื้นฐานสำหรับสำหรับแอปพลิเคชันแบบกระจายอำนาจ (dApps) และโปรโตคอล ทั้งยังทำงานเข้ากันได้กับ Ethereum Virtual Machine (EVM) ช่วยให้นักพัฒนาที่คุ้นเคยกับ Ethereum สามารถปรับใช้ Smart contracts และสร้างแอปพลิเคชันได้อย่างง่ายดายโดยใช้เครื่องมือและภาษาที่ได้รับการยอมรับ เช่น Solidity สถาปัตยกรรมของ XDC Network เป็นแบบไฮบริดเฉพาะตัว แม้ว่าจะมีบัญชีแยกประเภทสาธารณะที่โปร่งใส แต่ยังรองรับเครือข่ายย่อยที่มีความเป็นส่วนตัวซึ่งเหมาะสำหรับการใช้งานระดับองค์กร ที่ทำงานคู่ขนานนี้เป็นกุญแจสำคัญในกลยุทธ์การนำระบบไปใช้ในกลุ่มสถาบัน นอกจากนี้ยังมีการใช้กลไกฉันทามติแบบ Delegated Proof of Stake (XDPoS) เป็นตัวขับเคลื่อนเครือข่าย โดยประสิทธิภาพที่แข็งแกร่งอาศัยการทำงานสำคัญ 2 อย่างคือ — Masternodes คือ โหนดที่ได้รับการตรวจสอบในการตรวจสอบความถูกต้องของธุรกรรมและการสร้างบล็อก ซึ่งต้องใช้โทเคน XDC จำนวนมาก — Delegation คือ การที่ผู้ถือโทเคน XDC ของตนให้กับ Masternodes เพื่อช่วยเพิ่มความปลอดภัยของเครือข่ายและรับรางวัล ซึ่งโมเดล XDPoS นี้รับประกันประสิทธิภาพสูงและประสิทธิภาพการใช้พลังงาน ทำให้ XDC Network เป็นแพลตฟอร์มที่แข็งแกร่งซึ่งออกแบบมาโดยเฉพาะเพื่อรองรับความต้องการที่เข้มงวดสำหรับสินทรัพย์ในโลกแห่งความเป็นจริง (RWA) และโซลูชันองค์กรขนาดใหญ่ คุณสมบัติเด่นของ XDC Network เพื่อการใช้งาน XDC Network ประกอบด้วยคุณลักษณะหลายประการที่สำคัญสำหรับแอปพลิเคชันเป้าหมายโดยเฉพาะ สำหรับ RWA ได้แก่ — ความรวดเร็วและความสามารถในการปรับขนาด สามารถประมวลผลธุรกรรมได้มากกว่า 2,000 รายการต่อวินาที (TPS) ช่วยให้สามารถชำระเงินได้เกือบจะทันที ซึ่งถือเป็นสิ่งสำคัญสำหรับการซื้อขายสินทรัพย์และการจัดการเอกสารการซื้อขายปริมาณมาก — ค่าธรรมเนียมต่ำ โดยต้นทุน อยู่ที่ประมาณ 1/100 ของค่าธรรมเนียม Ethereum — การใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพด้วยการทำงานของระบบฉันทมติแบบ XDPoS จะใช้พลังงานน้อยที่สุดเมื่อเทียบกับ Proof-of-Work ซึ่งสอดคล้องกับเป้าหมายด้านความยั่งยืนซึ่งมีความสำคัญสำหรับพันธมิตรกลุ่มสถาบัน — การทำงานร่วมกันได้กับ EVM เป็นการลด อุปสรรคสำหรับนักพัฒนาในการสร้างและย้าย dApps และ Smart contract ที่เน้น RWA — สถาปัตยกรรมความปลอดภัยและไฮบริด เป็นการสร้างความปลอดภัยที่จำเป็นสำหรับสินทรัพย์ที่มีมูลค่าสูงและอนุญาตให้มีการกำหนดค่าตามข้อกำหนดขององค์กรและความเป็นส่วนตัว — ความสามารถในการทำงานร่วมกัน (Interoperability) เป็นการออกแบบมาเพื่อเชื่อมต่ออย่างราบรื่นกับระบบการเงินแบบเก่าและบล็อกเชนอื่นๆ ซึ่งอาจมีความสำคัญต่อการบูรณาการสินทรัพย์ที่แปลงเป็นโทเคนเข้ากับระบบนิเวศทางการเงินที่กว้างขึ้น — การมุ่งเน้นด้านการเงินขององค์กรและการค้า เน้นการพัฒนาและร่วมมือเพื่อแก้ไขปัญหาด้านการค้า — ปรับให้เหมาะสมสำหรับการแปลงเป็นโทเคน (Tokenization) ด้วยการออกแบบโครงสร้างพื้นฐานเพื่อจัดการ และการซื้อขายโทเคนดิจิทัลที่สามารถแสดงถึงสินทรัพย์ในโลกแห่งความเป็นจริงที่หลากหลายได้อย่างมีประสิทธิภาพ ประวัติความเป็นมาของ XDC Network XDC Network เริ่มก่อตั้งโดย XinFin Fintech Pte. Ltd. ซึ่งเป็นบริษัทเทคโนโลยีที่ตั้งอยู่ในสิงคโปร์ โดยก่อตั้งเมื่อปี 2017 โดยมีผู้ร่วมก่อตั้ง 2 คน คือ Ritesh Kakkad และ Atul Khekade โครงการนี้เริ่มต้นในปี 2017 เมื่อ XinFin Fintech ก่อตั้งขึ้นในสิงคโปร์เพื่อแก้ไขปัญหาความไม่มีประสิทธิภาพของการเงินการค้าทั่วโลกโดยใช้โมเดลบล็อกเชนไฮบริด โดยในช่วงเริ่มต้นของ XDC mainnet ได้เริ่มใช้ ฉันทามติ XDPoS ที่มีประสิทธิภาพและความเข้ากันได้กับ EVM และเปิดตัวในปี 2019 ต่อมา XDC Foundation ได้เริ่มก่อตั้งในช่วงกลางปี ​​2021 และในปีเดียวกันได้เข้าร่วมกลุ่มพันธมิตร Trade Finance Distribution Initiative (TFDi) ที่มีชื่อเสียงและเป็นเจ้าภาพจัดงาน NFT ที่ใช้การเงินการค้าเป็นครั้งแรกผ่าน Tradeteq ในปี 2023 ได้เน้นไปที่ Real-World Assets (RWAs) และเปิดตัวการทำพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐสู่โทเคน (USTY) ทั้งยังมีการอัปเกรด mainnet เป็น XDC 2.0 เพื่อเพิ่มความปลอดภัย (BFT) เสร็จสมบูรณ์ในช่วงปลายปี 2024 ตลอดการพัฒนา เครือข่ายมุ่งเน้นที่การนำระบบไปใช้ในองค์กร การสร้างโทเคน RWA การลดช่องว่างการระดมทุนของ SME — Ritesh Kakkad เป็นผู้ประกอบการด้านเทคโนโลยีรายใหญ่ที่มีพื้นฐานด้านระบบ cloud computing โครงสร้างพื้นฐานเว็บ และการโฮสต์เป็นหลัก เขานำประสบการณ์นี้มาใช้ในการตั้งค่าบล็อกเชนและโปรโตคอลสำหรับเครือข่าย — Atul Khekade เป็นวิศวกรคอมพิวเตอร์ที่มีประสบการณ์ด้านเทคโนโลยีและยังเป็นผู้ประกอบการคนสำคัญ เขามีส่วนร่วมในการวางแนวคิดและพัฒนาหนึ่งในระบบบล็อกเชนที่ได้รับอนุญาตระบบแรกสำหรับกลุ่มธนาคารใหญ่ๆ ในเอเชีย และยังเป็นผู้ร่วมก่อตั้งธุรกิจเช่าเหมาลำสายการบินอีกด้วย XDC Network ศูนย์กลางการสร้าง Real-World Asset Tokenization การสร้าง Real-World Asset (RWA) Tokenization ถือเป็นศูนย์กลางของกลยุทธ์ของ XDC Network เกี่ยวข้องกับการสร้างโทเคนดิจิทัลบนบล็อกเชน XDC แสดงถึงความเป็นเจ้าของสินทรัพย์ในโลกแห่งความเป็นจริงที่จับต้องได้หรือจับต้องไม่ได้ การที่ XDC Network มีความเหมาะสมกับการทำ Real-World Asset มีปัจจัยมาจากการผสมผสานระหว่างค่าธรรมเนียมต่ำ ความเร็วสูง ความปลอดภัย ความสามารถแบบไฮบริด และการทำงานร่วมกันได้นั้นช่วยตอบสนองความต้องการในการสร้างโทเคนและการจัดการสินทรัพย์ในโลกแห่งความเป็นจริงอย่างมีประสิทธิภาพ ตัวอย่างการใช้งานและจุดเริ่มต้นของ Real-World Asset — การปฏิวัติการเงินการค้า โดย XDC Network มีแพลตฟอร์มที่โดดเด่นอย่าง TradeFinex ใช้ประโยชน์จากเครือข่าย XDC เพื่อสร้างโทเคน ให้กับเครื่องมือการเงินการค้า เช่น ใบแจ้งหนี้, หนังสือรับรองการชำระเงินที่ธนาคารออกให้เพื่อรับประกันการชำระเงินให้กับผู้ขาย วิธีนี้จะช่วยเพิ่มสภาพคล่องที่จำเป็นอย่างยิ่งในตลาด (โดยแก้ไขช่องว่างทางการเงินมูลค่าหลายล้านล้านดอลลาร์) ทำให้กระบวนการต่างๆ คล่องตัวขึ้น และทำให้สามารถเข้าถึงการเงินได้ง่ายขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับ SMEs — มีกลุ่มสินทรัพย์ที่หลากหลาย นอกเหนือจากการเงินการค้าแล้ว เครือข่ายยังรองรับการแปลงสินทรัพย์หลากหลายประเภทให้เป็นโทเคน เช่น อสังหาริมทรัพย์ สินค้าโภคภัณฑ์ งานศิลปะ ทรัพย์สินทางปัญญา สินเชื่อธุรกิจส่วนตัว และอื่นๆ อีกมากมาย — ผลักดันให้ทุกคนสามารถเข้าถึงการลงทุนอย่างเท่าเทียมจากการทำ Tokenization ช่วยให้เกิดการเป็นเจ้าของแบบเศษส่วน ซึ่งทำให้ผู้ลงทุนรายย่อยสามารถเข้าถึงสินทรัพย์ที่มีมูลค่าสูงซึ่งก่อนหน้านี้ไม่สามารถเข้าถึงได้ นอกจากนี้ยังขจัดอุปสรรคทางภูมิศาสตร์ และสร้างตลาดระดับโลกที่ครอบคลุมมากขึ้น — การขับเคลื่อนการเติบโตของระบบนิเวศ โดย XDC Network ทำหน้าที่ส่งเสริม นวัตกรรม RWA อย่างแข็งขัน โดยมีส่วนร่วมในงานสำคัญในอุตสาหกรรม (เช่น RWA London Summit) และเปิดตัวโปรแกรม RWA Accelerator เฉพาะทางร่วมกับ Plug and Play ในซิลิคอนวัลเลย์ (มีนาคม 2025) ความคิดริเริ่มนี้ส่งเสริมให้บริษัทสตาร์ทอัพสร้างโซลูชัน RWA บน XDC รวมถึงโปรเจ็กต์ต่างๆ เช่น Blockticity, Clearpool, Credefi, InvestaX, Polytrade, Plume, Tokeny, Zoth และอื่นๆ ซึ่งแสดงถึงความมุ่งมั่นอย่างแรงกล้าในการสร้างระบบนิเวศ RWA ที่มีชีวิตชีวา โทเคน XDC คืออะไร? โทเคน XDC เป็น Utility Native Token และเป็นส่วนสำคัญของเครือข่าย XDC ได้แก่ — ใช้เป็นค่าธรรมเนียมธุรกรรม และการปรับใช้ Smart contracts — ใช้สำหรับ Staking เพื่อ รักษาความปลอดภัยเครือข่ายผ่านการมอบหมายไปยัง Masternodes เพื่อตอบแทนผู้เข้าร่วมด้วยการให้ XDC เป็นรางวัล — ใช้สำหรับการกำกับดูแล เป็นการเปิดโอกาสให้ผู้ถือโทเคนสามารถลงคะแนนเสียงเกี่ยวกับการอัปเกรดและข้อเสนอเครือข่าย — dApp Utility ใช้เพื่อเข้าถึงบริการใช้สำหรับแอปพลิเคชันภายในระบบนิเวศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสิ่งที่เกี่ยวข้องกับสินทรัพย์โทเคนและการเงินการค้า การกระจายของโทเคน และ Tokenomics ของ XDC XDC เปิดตัวเมื่อปี 2018 มีอุปทานสูงสุด (maximum supply) ที่ 100,000,000,000 โทเคน ปัจจัยที่สำคัญที่สุดที่ต้องพิจารณา คือ อุปทาน XDC ที่ “มีอยู่” ในตลาดในปัจจุบัน ซึ่งโดยทั่วไปเรียกว่า “อุปทานหมุนเวียน” อุปทานนี้อาจเปลี่ยนแปลงได้ตามกาลเวลาเมื่อมีโทเคนมากขึ้นในตลาด วิธีการที่โทเค็น XDC ถูกจัดสรรได้รับการออกแบบมาเพื่อส่งเสริมการเติบโตที่ครอบคลุมของระบบนิเวศทั้งหมด โดยการจัดสรรเริ่มต้น สามารถแบ่งออกได้ดังนี้ — แรงจูงใจในการเข้าร่วมระบบนิเวศ — 32.5% — ผู้ก่อตั้ง/ทีม — 25% — Ecosystem Development Pool — 15% — การจัดสรรล่วงหน้า/การเสนอขาย — 10% — กลุ่มป้องกันความเสี่ยง หรือ Hedge Pool — 10% — Philanthropy — 5% — เหตุการณ์ไม่แน่นอน — 2.5% ข้อมูลน่าสนใจด้านราคาของ XDC ข้อมูลจากเว็บไซต์ Coinmarketcap เมื่อวันที่ 25 เมษายน 2025 เหรียญ XDC มีมูลค่าตามราคาตลาด (Market cap) ที่ 1,177,624,210 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือ 39,474,187,537 บาท ณ เวลาที่เขียนบทความนี้ เหรียญ XDC ซื้อขายกันอยู่ที่ราคาประมาณ 0.07499 ดอลลาร์ หรือประมาณ 2.51 บาทต่อ 1 XDC โดย XDC เคยทำราคาสูงสุด (All-time high) ที่ 0.1939 ดอลลาร์ หรือประมาณ 6.50 บาท ต่อ 1 XDC เมื่อวันที่ 21 สิงหาคม 2021 ที่มา: XDC Whitepaper, XDC Network Document, CoinMarketCap — — — — — — — — — — — — — — — — — คำเตือน: - คริปโทเคอร์เรนซีและโทเคนดิจิทัลมีความเสี่ยงสูง ท่านอาจสูญเสียเงินลงทุนได้ทั้งจํานวน โปรดศึกษาและลงทุนให้เหมาะสมกับระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้ - ผลตอบแทนของสินทรัพย์ดิจิทัลในอดีตหรือผลการดําเนินงานในอดีต มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลตอบแทน ของสินทรัพย์ดิจิทัลหรือผลการดําเนินงานในอนาคต — — — — — — — — — — — — — — — — — The XDC Network: Powering the Future of Trade Finance and Real-World Asset Tokenization In the rapidly evolving blockchain world, the XDC Network stands out as an enterprise-grade, hybrid platform specifically engineered to bridge the gap between traditional finance and the decentralized digital economy. Its core mission revolves around leveraging blockchain efficiencies for real-world applications, significantly focusing on revolutionizing global trade finance and enabling the tokenization of Real-World Assets (RWAs). Let’s explore the technology, features, native token, tokenomics, and crucial role in the RWA space that define the XDC Network. What is the XDC Network and its Technology? The XDC Network operates as a Layer 1 blockchain, providing the fundamental infrastructure for decentralized applications (dApps) and protocols. It is fully Ethereum Virtual Machine (EVM) compatible, allowing developers familiar with Ethereum to easily deploy smart contracts and build applications using established tools and languages like Solidity. Its architecture is uniquely hybrid. While offering a transparent public ledger, it also supports permissioned subnetworks suitable for enterprise use cases requiring controlled access or privacy. This duality is key to its strategy for institutional adoption. Powering the network is the XinFin Delegated Proof of Stake (XDPoS) consensus mechanism. This efficient system relies on: — Masternodes: A limited number of vetted nodes responsible for validating transactions and creating blocks, requiring a significant stake of XDC tokens. — Delegation: Other XDC holders can delegate their tokens to Masternodes, contributing to network security and earning rewards. This XDPoS model ensures high performance and energy efficiency, making the XDC Network a robust platform explicitly designed to facilitate the demanding requirements of Real-World Asset (RWA) tokenization and large-scale enterprise solutions. Highlight Features Tailored for Real-World Use The XDC Network incorporates several features critical for its target applications, particularly RWAs: — High Speed and Scalability: Capable of processing over 2000 transactions per second (TPS), enabling near-instantaneous settlement crucial for trading tokenized assets and handling high-volume trade documentation. — Ultra-Low Transaction Fees: With costs around 1/100th of typical Ethereum fees, XDC makes operations like fractional asset trading, micro-transactions, and frequent document processing economically feasible. — Energy Efficiency: The XDPoS consensus consumes minimal energy compared to Proof-of-Work chains, aligning with sustainability goals important for institutional partners. — EVM Compatibility: Lowers the barrier for developers to build and migrate RWA-focused dApps and smart contracts. — Security & Hybrid Architecture: Provides the necessary security for high-value assets and allows for configurations meeting enterprise compliance and privacy needs. — Interoperability: Designed to connect seamlessly with legacy financial systems and potentially other blockchains, vital for integrating tokenized assets into the broader financial ecosystem. — Enterprise & Trade Finance Focus: The network’s development and partnerships are heavily geared towards solving real challenges in global trade and enterprise operations. — Optimized for Tokenization: The infrastructure is built to efficiently handle the creation, management, and trading of digital tokens representing diverse real-world assets. History of XDC Network XDC Network was initiated by XinFin Fintech Pte. Ltd., a technology company based in Singapore, founded in 2017 by two co-founders: Ritesh Kakkad and Atul Khekade. This project started in 2017 when XinFin Fintech was founded in Singapore to solve the problem of inefficiency in global trade finance using a hybrid blockchain model. In the initial phase, the XDC mainnet started using the efficient XDPoS consensus and EVM compatibility, launching in 2019. Later, the XDC Foundation was established in mid-2021. In the same year, it joined the prestigious Trade Finance Distribution Initiative (TFDi) consortium and hosted the first trade finance-based NFT via Tradeteq. In 2023, the focus shifted to Real-World Assets (RWAs), launching the tokenization of US Treasury bonds (USTY). Additionally, the mainnet upgrade to XDC 2.0, enhancing security (BFT), was completed in late 2024. Throughout its development, the network focused on enterprise adoption, RWA tokenization, and bridging the SME funding gap. — Ritesh Kakkad is a major technology entrepreneur with a background primarily in cloud computing systems, web infrastructure, and hosting. He brings this experience to the blockchain and protocol setup for the network. — Atul Khekade is a computer engineer with experience in technology and is also a key entrepreneur. He participated in conceptualizing and developing one of the first permissioned blockchain systems for a group of major banks in Asia and is also a co-founder of an airline chartering business. XDC Network: A Hub for Real-World Asset (RWA) Tokenization RWA tokenization is central to the XDC Network’s strategy. This involves creating digital tokens on the XDC blockchain representing ownership of tangible or intangible real-world assets. Why is XDC Suited for RWAs? Its combination of low fees, high speed, security, hybrid capabilities, and interoperability directly addresses the needs of tokenizing and managing real-world assets efficiently and compliantly. Key RWA Use Cases & Initiatives: — Revolutionizing Trade Finance: This is a flagship area. Platforms like TradeFinex leverage the XDC Network to tokenize trade finance instruments such as invoices and letters of credit. This injects much-needed liquidity into the market (addressing a multi-trillion dollar financing gap), streamlines processes, and makes financing more accessible, particularly for SMEs. — Diverse Asset Classes: Beyond trade finance, the network supports the tokenization of a wide range of assets including real estate, commodities, art, intellectual property, private business loans, and more. — Democratizing Investment: Tokenization enables fractional ownership, allowing smaller investors to access high-value assets previously out of reach. It also removes geographical barriers, creating more inclusive global markets. — Driving Ecosystem Growth: XDC Network actively promotes RWA innovation. They participate in key industry events (e.g., RWA London Summit) and have launched a dedicated RWA Accelerator program with Plug and Play in Silicon Valley (March 2025). This initiative fosters startups building RWA solutions on XDC, including projects like Blockticity, Clearpool, Credefi, InvestaX, Polytrade, Plume, Tokeny, Zoth, and others, signaling strong commitment to building a vibrant RWA ecosystem. The XDC Token: Fueling the Network The XDC token is the native cryptocurrency and the lifeblood of the XDC Network. Its primary functions include: — Gas Fees: Paying for transaction execution and smart contract deployment. — Staking: Securing the network via delegation to Masternodes, rewarding participants with more XDC. — Governance: Enabling token holders to vote on network upgrades and proposals. — dApp Utility: Accessing services and applications within the ecosystem, especially those related to tokenized assets and trade finance. Token Allocation and Tokenomics XDC launched in 2018 with a maximum supply of 100,000,000,000 tokens. The most important factor to consider is the supply of XDC currently “available” in the market, generally referred to as the “circulating supply.” This supply may change over time as more tokens enter the market. The method by which XDC tokens are allocated is designed to promote the comprehensive growth of the entire ecosystem. The initial allocation can be broken down as follows: — Ecosystem Participation Incentives — 32.5% — Founders/Team — 25% — Ecosystem Development Pool — 15% — Pre-allocation/Offering — 10% — Hedge Pool — 10% — Philanthropy — 5% — Contingency — 2.5% Interesting Information Regarding XDC Price According to data from the CoinMarketCap website on April 25, 2025, the XDC coin has a market capitalization (Market cap) of USD 1,177,624,210 or THB 39,474,187,537. At the time of writing this article, the XDC coin is trading at approximately $0.07499 or about 2.51 THB per 1 XDC. XDC reached its all-time high price of $0.1939 or approximately 6.50 THB per 1 XDC on August 21, 2021. Reference: XDC Whitepaper, XDC Network Document, CoinMarketCap — — — — — — — — — — — — — — — — — — Disclaimer: -Cryptocurrency and digital tokens involve high risks; investors may lose all investment money and should study information carefully and make investments according to their own risk profile. -Past Returns do not guarantee future returns/performance. — — — — — — — — — — — — — — — — — — XDC Network บล็อกเชนที่สร้างมาเพื่อเชื่อมโลกการเงินการค้า พร้อมเดินหน้าสู่ศูนย์กลาง Real-World… was originally published in Bitkub.com on Medium, where people are continuing the conversation by highlighting and responding to this story.

Author: Napisa Wisuttipun | 06 May 2025 |Read: 2,053
news

Michael J.Saylor คือใคร?

Michael J.Saylor คือใคร?

15 May 2025
news

โอนเหรียญ USDT เข้า Bitkub Exchange รับ USDT มูลค่า 300 บาท

โอนเหรียญ USDT เข้า Bitkub Exchange ผ่านทุกเครือข่ายขั้นต่ำ 50 USDT รับเหรียญ USDT มูลค่า 300 บาท กิจกรรม : โอนเหรียญ USDT เข้า Bitkub Exchange รับ USDT มูลค่า 300 บาทวันที่ : 15 พ.ค. 68–6 มิ.ย. 68ลงทะเบียน : https://form.bitkub.com/deposit-usdt .ข้อกำหนดและเงื่อนไขของกิจกรรม 1. กิจกรรม โอนเหรียญ USDT เข้า Bitkub Exchange รับ USDT มูลค่า 300 บาท (“กิจกรรม”) นี้ จัดขึ้นโดย บริษัท บิทคับ ออนไลน์ จํากัด (“บริษัทฯ”) 2. โอนเหรียญ USDT เข้า Bitkub Exchange ผ่านทุกเครือข่ายขั้นต่ำ 50 USDT รับเหรียญ USDT มูลค่า 300 บาท จำกัด 1,500 สิทธิ์ 3. เริ่มตั้งแต่วันที่ 15 พ.ค. 68–6 มิ.ย. 68 4. ผู้เข้าร่วมกิจกรรมจะต้อง มีบัญชี Bitkub Exchange และผ่านการยืนยันตัวตนระดับที่ 1 ขึ้นไป (KYC1) ลงทะเบียนเพื่อเรียนรู้และเข้าร่วมกิจกรรมผ่านแบบฟอร์ม https://form.bitkub.com/deposit-usdt 5. ผู้เข้าร่วมกิจกรรม จะต้องศึกษา ทำความเข้าใจ และผ่านการอบรมความรู้ เกี่ยวกับคริปโทเคอร์เรนซีเบื้องต้นและเหรียญ USDT จากลิงก์ที่แนบไว้ในแบบฟอร์ม 6. ของรางวัลคือเหรียญ USDT มูลค่า 300 บาท คำนวณจากมูลค่า ณ วันที่ 28 เม.ย. 68 ราคาเหรียญ USDT ประมาณ 33.68 บาท/เหรียญ 7. ขอสงวนสิทธิ์การโอนเหรียญ USDT ออกจากบัญชี Bitkub Exchange ตลอดระยะเวลากิจกรรม8. ขอสงวนสิทธิ์การรับของรางวัล 1 รางวัล ต่อ 1 บัญชี Bitkub Exchange เท่านั้น 9. ทางบริษัทฯ จะลำดับการมอบรางวัลจากผู้ที่ลงทะเบียนในแบบฟอร์มก่อน และทำการโอนเหรียญให้กับผู้ที่ได้รับรางวัล ที่ทำถูกต้องตามเงื่อนไขของกิจกรรม ภายใน 60 วันทำการ หลังสิ้นสุดระยะเวลากิจกรรม 10. ทางบริษัทฯ จะดําเนินการลบข้อมูลของลูกค้าที่กรอกแบบฟอร์ม ภายใน 120 วัน หลังจากจบระยะเวลากิจกรรม 11. ของรางวัลไม่สามารถเปลี่ยนเป็นเงินสดหรือเปลี่ยนเป็นของรางวัลชนิดอื่นได้ และไม่สามารถโอนสิทธิ์ให้ผู้อื่นได้ 12. ผู้ร่วมกิจกรรมไม่มีสิทธิ์เรียกร้องค่าตอบแทน ค่าเสียหายของสินค้า หรือของรางวัล หากชำรุดเมื่อได้รับของรางวัลไปแล้ว หรือเกิดความเสียหาย หรือสูญหายระหว่างขนส่ง หรือสิ่งใด ๆ ไม่ว่าทางแพ่ง หรือทางอาญา 13. บริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์ในการเปลี่ยนแปลงเงื่อนไขกิจกรรม โดยจะแจ้งให้ทราบล่วงหน้า 3 วันทำการ 14. ดาวน์โหลดแอปพลิเคชันบิทคับได้ที่นี่ https://onelink.bitkub.com/aHvr/gtbl7nio *คริปโทเคอร์เรนซีและโทเคนดิจิทัลมีความเสี่ยงสูง ท่านอาจสูญเสียเงินลงทุนได้ทั้งจํานวน โปรดศึกษาและลงทุนให้เหมาะสมกับระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้ โอนเหรียญ USDT เข้า Bitkub Exchange รับ USDT มูลค่า 300 บาท was originally published in Bitkub.com on Medium, where people are continuing the conversation by highlighting and responding to this story.

14 May 2025
news

Learn and Earn LIVE เรียนและตอบคำถาม รับเหรียญ LM มูลค่า 250 บาท จากบิทคับ เอ็กซ์เชนจ์

Learn and Earn LIVE เรียนและตอบคำถาม รับเหรียญ LM มูลค่า 250 บาท จากบิทคับ เอ็กซ์เชนจ์

13 May 2025
news

กิจกรรม MUMISSOIN ภารกิจพิชิต Mupoints แคมเปญสายมูจาก บิทคับ เอ็กซ์เชนจ์

กิจกรรม: MUMISSOIN ภารกิจพิชิต Mupoints แคมเปญสายมูจาก บิทคับ เอ็กซ์เชนจ์ กิจกรรมระหว่างวันที่: 14 - 27 พ.ค. 68 ลงทะเบียนผ่านลิงก์: https://form.bitkub.com/mumission รายละเอียดและเงื่อนไขของกิจกรรม 1. กิจกรรม "MuMission ภารกิจพิชิต MuPoints" (“กิจกรรม”) นี้ จัดทำโดย บริษัท บิทคับ ออนไลน์ จำกัด (“บริษัท”) 2. MuPoints ("MuPoints") คือคะแนนสมมติเพื่อใช้ในการจัดอันดับผู้ร่วมกิจกรรมของแคมเปญ MuMission เท่านั้น 3. กิจกรรมนี้ เริ่มต้นตั้งแต่วันที่ 14 - 27 พ.ค. 68 4. ของรางวัลคือ Wallpaper 12 ปีนักษัตร, คำทำนายดวงตามปีนักษัตร และโค้ดเครดิตค่าธรรมเนียม (Fee Credits) มูลค่า 250 บาท (จํากัดจํานวน 200 สิทธิ์) 5. ลูกค้าจะได้รับ 5.1. Wallpaper 12 ปีนักษัตรตามปีเกิดที่กรอกลงในเว็บไซต์ https://zodiacwallpaper.bitkubmoonshot.com/ พร้อมคำทำนายดวงตามปีนักษัตร เมื่อลงทะเบียนเข้าร่วมกิจกรรม โค้ดเครดิตค่าธรรมเนียม (Fee Credits) มูลค่า 250 บาท เมื่อสะสม MuPoints ได้สูงสุด 200 อันดับแรก 6. หลักเกณฑ์การเก็บคะแนน MuPoints สามารถสะสมได้จาก 2 วิธีดังนี้ 6.1. Mission 1: สายเนิร์ด (คะแนนเต็ม 50 MuPoints) 6.1.1. อ่านและแชร์ลิงก์บทความเหรียญใดก็ได้ใน 12 เหรียญที่บริษัทกำหนด ได้แก่ — LM (LeisureMeta) — OP (Optimism) — Zent (Zetry) — SAND (Sandbox)—VELO (Velodrome) — LDO (Lido) — CVC (Civic) — GALA (Gala Games) — WLD (Worldcoin) — EIGEN (EigenLayer) — LINK (Chainlink) — CRV (Curve Finance)  — ทุกการแชร์ 1 บทความ จะได้รับ 2 MuPoints โดยห้ามแชร์บทความเดียวกัน ซ้ำกัน (คะแนนเต็ม 24 MuPoints) 6.1.2. แชร์โพสต์ที่มี Hashtag #BitkubMuMission ทุกการแชร์ 1 โพสต์ จะได้รับ 1 MuPoints โดยแชร์โพสต์เดียวกัน ซ้ำกันได้ (คะแนนเต็ม 26 MuPoints) 6.2. Mission 2: สายเทรด (คะแนนเต็ม 50 MuPoints) 6.2.1. เทรดเหรียญใดก็ได้ใน 12 เหรียญ ได้แก่ LM, OP, ZENT, SAND, VELO, LDO, CVC, GALA, WLD, EIGEN, LINK, CRV โดยทุกการเทรด 4,000 บาท จะได้รับ 5 MuPoints โดยจะนับเฉพาะการซื้อไม่รวมการขายเหรียญ 7. ผู้เข้าร่วมกิจกรรมจะต้อง 7.1. เข้าร่วมกิจกรรม "MuMission ภารกิจพิชิต MuPoints" และได้คะแนน MuPoints มากที่สุด 200 ท่านแรก ภายในวันที่ 14 - 27 พ.ค. 68 โดยจะต้องอยู่ในช่วงเวลากิจกรรม และส่งผลการเข้าร่วมกิจกรรมในแบบฟอร์มนี้ https://form.bitkub.com/mumission โดยต้องกรอกอีเมลที่เชื่อมต่อกับบัญชี Bitkub Exchange ภายในวันที่ 27 พฤษภาคม 2568 ก่อนเวลา 23:59 น. 7.2. มีบัญชี Bitkub Exchange และผ่านการยืนยันตัวตนระดับที่ 1 ขึ้นไป (KYC1) ก่อนวันภายในวันที่ 27 พฤษภาคม 2568 ก่อนเวลา 23:59 น. 8. การแจ้งผลคะแนน (MuPoints) 8.1. ทางบริษัทจะแจ้งผลการนับคะแนนรวม (MuPoints) หลังจบกิจกรรมเท่านั้น โดยจะไม่มีการแจ้งผลคะแนนสะสมระหว่างระยะเวลากิจกรรม 8.2. ทางบริษัทจะประกาศรายชื่อและอันดับ ผู้ที่ได้รับคะแนนรวม MuPoints สูงสุด 200 อันดับแรก ผ่านทาง เว็บไซต์ www.bitkub.com/th/blog ภายในวันที่ 30 มิถุนายน 2568 8.3. สำหรับผู้ร่วมกิจกรรมที่ต้องการสอบถามคะแนน MuPoints ของตนเองสามารถติดต่อสอบถามได้ผ่านทาง https://www.facebook.com/bitkubofficial ติดต่อผ่านทาง Inbox ได้ตั้งแต่ วันที่ 30 มิถุนายน 2568 9. ทางบริษัทจะดำเนินการลบข้อมูลของลูกค้าที่กรอกแบบฟอร์มภายใน 120 วัน หลังจากจบระยะเวลากิจกรรม 10. ของรางวัลไม่สามารถเปลี่ยนเป็นเงินสด หรือเปลี่ยนเป็นของรางวัลชนิดอื่นได้ และไม่สามารถโอนสิทธิ์ให้ผู้อื่นได้ 11. บริษัทขอสงวนสิทธิ์ในการเปลี่ยนแปลงเงื่อนไขกิจกรรม โดยจะแจ้งให้ทราบล่วงหน้า 3 วันทำการ 12. กิจกรรมดังกล่าวจัดทำโดย บริษัท บิทคับ ออนไลน์ จำกัด และเว็บไซต์ https://zodiacwallpaper.bitkubmoonshot.com/ จัดทำโดย บริษัท บิทคับ มูนช็อต จำกัด ซึ่งไม่ใช่ผู้ประกอบธุรกิจภายใต้การกำกับดูแลของสำนักงาน ก.ล.ต. *คริปโทเคอร์เรนซีและโทเคนดิจิทัลมีความเสี่ยงสูง ท่านอาจสูญเสียเงินลงทุนได้ทั้งจํานวน โปรดศึกษาและลงทุนให้เหมาะสมกับระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้ ดาวน์โหลดแอปพลิเคชันบิทคับ ได้ที่นี่ https://onelink.bitkub.com/aHvr/jjtbqd0n กิจกรรม MUMISSOIN ภารกิจพิชิต Mupoints แคมเปญสายมูจาก บิทคับ เอ็กซ์เชนจ์ was originally published in Bitkub.com on Medium, where people are continuing the conversation by highlighting and responding to this story.

13 May 2025
news

สรุปประเด็นสําคัญ อุตสาหกรรมคริปโตไตรมาส 1 ปี 2025 จากรายงานของ CoinGecko

ปลายปี 2024 เป็นช่วงเวลาที่ตลาดคริปโตคึกคักและสร้างความหวังใหม่ให้กับนักลงทุน แต่เมื่อต้นปี 2025 ในช่วง Q1 ภาพรวมกลับพลิกผันอย่างชัดเจน มูลค่าตลาดหดตัวลงอย่างรวดเร็ว พร้อมกับปริมาณการซื้อขายที่ซบเซา โดยเฉพาะในกลุ่ม Altcoin บทความนี้สรุปรายงานอุตสาหกรรมคริปโตไตรมาส 1 ปี 2025 จาก CoinGecko ซึ่งครอบคลุมตั้งแต่แนวโน้มตลาดโดยรวม การวิเคราะห์ BTC, ETH เจาะลึกระบบ DeFi และ NFT ไปจนถึงภาพรวมของตลาดเทรดแบบรวมศูนย์ (CEX) และกระจายศูนย์ (DEX) ส่วนแบ่งตลาด TVL ของ DeFi ไตรมาสแรกปี 2025: การกระจายมูลค่ารวมที่ล็อก (TVL) ใน Multichain ตั้งแต่ตุลาคม 2024 ถึงมีนาคม 2025 Total Market Cap ในไตรมาสแรกของปี 2025 ลดลงไปถึง 633,500 ล้านดอลลาร์ (-18.6%) หรือ ประมาณ 23.44 ล้านล้านบาทไทย แต่ได้ทําการแตะ YTD high (Year to date) ในมูลค่าที่ 3.8 ล้านล้านดอลลาร์ ในวันที่ 28 มกราคม 2025 ซึ่งได้แตะมูลค่านี้เกิดขึ้น 2 วันก่อนพิธีรับตำแหน่งประธานาธิบดีของโดนัลด์ ทรัมป์ (Trump’s inauguration) ก่อนที่จะลดลงไปถึง 3.8 ล้านล้านดอลลาร์ ในช่วงท้ายของไตรมาสแรกในปี 2025 2. ส่วนแบ่งตลาดคริปโตไตรมาสแรกปี 2025: ส่วนแบ่งตลาดของ 7 เหรียญคริปโตชั้นนำเทียบกับมูลค่าตลาดคริปโตรวม (ตุลาคม 2024 — มีนาคม 2025) Bitcoin dominance เพิ่มขึ้น 4.6%สู่ระดับ 59.1% ท่ามกลางช่วงตลาดขาลงในไตรมาสแรก ซึ่งต่างกันกับเหรียญ Altcoin ที่ได้รับผลกระทบหนักจากสภาวะตลาดในช่วงไตรมาสแรก อย่างไรก็ตามเหรียญ Altcoin อย่าง XRP ยังคงสามารถรักษาส่วนแบ่งตลาดของตนไว้ได้เช่นเดิม อย่างไรก็ตาม Stablecoins อย่าง USDT กลับได้รับผลประโยชน์จากความผันผวนของตลาดในช่วงไตรมาสแรก ที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นเล็กน้อย 5.2% ของส่วนแบ่งตลาด ทางด้าน Ethereum (ETH) ได้รับผลกระทบอย่างหนัก ด้วยส่วนแบ่งตลาดของ ETH ที่ลดลงเหลือ 7.9% ถือเป็นระดับต่ำที่สุดนับตั้งแต่ช่วงปลายปี 2019 3. ราคาและปริมาณการซื้อขายของ Bitcoin (BTC) ราคาของเหรียญ Bitcoin (BTC) ปรับตัวขึ้นในช่วงต้นปีของ 2025 และได้ทําการแตะราคาสูงสุด (All-Time High) ที่ราคา 106,182 ดอลลาร์ เมื่อวันที่ 22 มกราคม 2025 ซึ่งเกิดขึ้นเพียงสองวันหลังจากพิธีสาบานตนเข้ารับตำแหน่งของทรัมป์ เหตุการณ์นี้กลายเป็นจุดสูงสุดรายปี (YTD Top) ของ BTC ก่อนที่ราคาจะทําการปรับตัวลง -11.8% ที่ 82,514 ดอลลาร์ ในส่วนค่าเฉลี่ยของ trading volume รายวันของ Bitcoin (BTC) อยู่ที่ประมาณ 42,600 ล้านดอลลาร์ โดยมีการปรับที่ -26.2% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน โดย trading volume ได้พุ่งขึ้นในวันที่ 28 กุมภาพันธ์ ที่เกิดขึ้นพร้อมกับการเทขายในวงกว้างของช่วงเวลาดังกล่าว สาเหตุจากความกังวลที่เพิ่มขึ้นเกี่ยวกับการบังคับใช้มาตรการภาษีของสหรัฐอเมริกา 4. Bitcoin vs. ผลตอบแทนราคาของสินทรัพย์หลักประเภทอื่น ราคาของทองคําเพิ่มขึ้นถึง 18% และได้กลายเป็นสินทรัพย์ที่ถือว่า “แข็งแกร่ง” ท่ามกลางตลาดที่ผันผวนในช่วงของไตรมาสแรกในไป 2025 ในขณะที่ BTC (-11.8%) และดัชนี NASDAQ (-10.3%) ที่ถือว่าเป็นสินทรัพย์เสี่ยงต้องเผชิญกับการปรับตัวลดลง ในส่วนของดัชนี S&P 500 ก็ลดลงถึง -4.4% โดยปกติดัชนี DXY ที่จะมีค่าความสัมพันธ์กับสินทรัพย์เสี่ยงปรับตัวลดลง -4.6% อาจเป็นผลจากความไม่แน่นอนเกี่ยวกับมาตรการภาษีของสหรัฐฯ ในขณะที่เงินเยนญี่ปุ่น (JPY +5.25%) และยูโร (EUR +4.5%) โดยเฉพาะเงินเยนที่แข็งค่า สาเหตุมาจากการที่ปิดสถานะ Yen carry trade หลังจากธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนมกราคม 5. ราคาและปริมาณการซื้อขายของ Ethereum (ETH) ลดลง -45.3% ในช่วงไตรมาสแรกของปี 2025 ราคา Ethereum (ETH) ปิดในราคาที่ 1,805 ดอลลาร์ ลดลง -45.3% ในช่วงไตรมาสแรกของปี 2025 เรียกได้ว่าลบกำไรทั้งหมดที่ได้จากปี 2024 และกลับมาอยู่ในระดับเดียวกับปี 2023 โดย ETH มีผลตอบแทนที่แย่กว่าสินทรัพย์หลักอื่น ๆ อย่าง BTC, SOL, XRP และ BNB ซึ่งทั้งหมดปรับตัวลดลงน้อยกว่ามาก ในส่วนของ trading volume ปรับตัวลดลงเช่นกันในไตรมาสแรก จากค่าเฉลี่ยรายวันประมาณ 30,000 ล้านในไตรมาส 4 ปี 2024 เหลือประมาณ 24,400 พันล้านในไตรมาสล่าสุด โดยในวันที่ปริมาณการซื้อขายพุ่งสูง มักจะเห็นราคา ETH ร่วงลงแรง ต้นทุนค่าเฉลี่ยแก๊สในไตรมาสแรกของปี 2025 อยู่ที่ 6.9 Gwei ลดลงจาก 17.2 Gwei ในไตรมาส 4 ปี 2024 โดยได้เกิดการลดลงครั้งใหญ่ของค่าแก๊สนี้เป็นผลจากการเพิ่มขีดจำกัดแก๊ส (Gas Limit) ในเดือนกุมภาพันธ์ ซึ่งช่วยลดการแข่งขันในแย่งใช้แก๊สลง 6. ภาพรวม DeFi: มูลค่าตลาดรวมของ DeFi ของตลาดคริปโตทั้งหมด ร่วงลง -19.23% ขณะที่สถาบันเริ่มหันมาให้ความสนใจมากขึ้น (ไตรมาส 4 ปี 2024 — ไตรมาส 1 ปี 2025) มูลค่าตามราคาตลาด(Maket Cap) ของ Defi ร่วงลง -19.23% แต่ยังคงรักษาสัดส่วนในตลาดคริปโตโดยรวม ขณะที่สถาบันเริ่มหันมาให้ความสนใจมากขึ้น โดยมูลค่าตามราคาตลาด (Maket Cap) ของ Defi ลดลงจากประมาณ 119,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เหลือ 98,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ณ สิ้นเดือนมีนาคม เนื่องจากกระแสความตื่นเต้นเกี่ยวกับรัฐบาลทรัมป์ที่สนับสนุนคริปโตเริ่มจางหาย และถูกแทนที่ด้วยความกังวลเกี่ยวกับสงครามการค้าเต็มรูปแบบ ขณะเดียวกัน BTC ค่อย ๆ หลุดระดับ 100,000 ดอลลาร์สหรัฐ หลังจากทำจุดสูงสุดใหม่ที่ 108,000ดอลลาร์สหรัฐในเดือนมกราคม ส่วนการอ่อนตัวของ ETH เมื่อเทียบกับเหรียญใหญ่ตัวอื่น ๆ ทำให้มูลค่าตลาด DeFi หดตัวลงถึง 20,000 ล้านดอลลาร์ ส่งผลต่อราคาของกลุ่มย่อย เช่น Liquid Staking และ Restaking DeFi สามารถรักษาส่วนแบ่งการตลาดโดยรวมที่ 3.5% ไว้ได้ในช่วงปลายไตรมาสที่ 1 ปี 2025 เนื่องจากความสนใจใน Stablecoin และ RWA มากขึ้น 7. ปริมาณการซื้อขาย DEX ในแต่ละเครือข่ายไตรมาสแรกปี 2025: ปริมาณการซื้อขายรายเดือนของกระดานแลกเปลี่ยนแบบกระจายศูนย์ เติบโตขึ้น +35.3% (ต.ค. 2024 — มี.ค. 2025) ในไตรมาส 1 ปี 2025 Solana ยังคงครองตลาด DEX อย่างต่อเนื่อง ด้วยส่วนแบ่งตลาดที่ 39.6% และมูลค่าการเทรดที่เติบโตขึ้น +35.3% จาก 217,000 ล้านดอลลาร์ ในไตรมาสก่อนหน้า เป็น 293,700 ล้านดอลลาร์ในไตรมาสนี้ โดยในเดือนมกราคม Solana ทำสถิติใหม่ด้วยส่วนแบ่งตลาดสูงถึง 52% และยอดเทรดสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 184,800 ล้านดอลลาร์ จากความนิยมกระแสมีมคอยน์ อย่างไรก็ตามแต่เมื่อกระแสมีมคอยน์เริ่มซาลง Ethereum ก็สามารถทวงตำแหน่งคืนในเดือนมีนาคม ด้วยส่วนแบ่งตลาดที่ 30.1% เทียบกับ Solana ที่ลดลงเหลือ 23.4% ขณะเดียวกัน เครือข่ายน้องใหม่อย่าง Sonic และ Berachain ก็แจ้งเกิดเต็มตัว ด้วยการแซงหน้า Optimism และ Polygon หลุดจากท็อป 10 ในเดือนมีนาคม แม้ว่าทั้งสองเชนเดิมจะยังมีส่วนแบ่งสูงกว่าเมื่อดูตลอดไตรมาส 8. กระแสเงินสุทธิรายวันของ US Spot Bitcoin ETF (ไตรมาส 4 ปี 2024 — ไตรมาส 1 ปี 2025) หลังจากมีเงินไหลเข้าสุทธิ 3,280 ล้านดอลลาร์ ในไตรมาส 4 ปี 2024 กองทุน US Spot Ethereum ETFs กลับประสบกับการไหลออกสุทธิ -227.6 ล้านดอลลาร์ ในไตรมาส 1 ปี 2025 ส่งผลให้สินทรัพย์รวมภายใต้การจัดการ (AUM) ลดลงเกือบครึ่งหนึ่ง เหลือเพียง 5,400 ล้านดอลลาร์ โดย ETF ที่ยังคงมีเงินไหลเข้าสุทธิในไตรมาสนี้ ได้แก่ BlackRock’s ETHA (+548.4 ล้านดอลลาร์), VanEck’s ETHV (+7.7 ล้านดอลลาร์), Invesco’s QETH (+1.6 ล้านดอลลาร์) และ 21Shares’ CETH (+1.4 ล้านดอลลาร์) ขณะที่ Grayscale’s ETHE (-526.5 ล้านดอลลาร์), Fidelity’s FETH (-146.8 ล้านดอลลาร์) และ WisdomTree’s ETHW (-80.7 ล้านดอลลาร์) เป็นกลุ่มที่มีเงินไหลออกมากที่สุด 9. อิทธิพลของทรัมป์ที่มีต่อ Bitcoin (BTC) ตั้งแต่ต้นปี 2025 ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์มีบทบาทสำคัญต่อราคาของ Bitcoin โดยในช่วงแรก ราคาพุ่งขึ้นแตะจุดสูงสุดใหม่ (All-Time High) หลังจากที่ทรัมป์เปิดตัวเหรียญ $TRUMP memecoin และลงนามคำสั่งบริหารเกี่ยวกับสินทรัพย์ดิจิทัล ซึ่งสร้างความคาดหวังว่ารัฐบาลจะสนับสนุนวงการคริปโตมากขึ้น อย่างไรก็ตาม แนวโน้มบวกนี้อยู่ได้ไม่นาน เพราะนโยบายการค้าของทรัมป์ โดยเฉพาะการประกาศภาษีตอบโต้ต่อประเทศต่าง ๆ เช่น แคนาดา เม็กซิโก จีน ฯลฯ เริ่มสร้างความกังวลต่อนักลงทุน ส่งผลให้ราคาคริปโตเริ่มผันผวนและลดลงเรื่อย ๆ ในช่วงเดือนมีนาคมถึงเมษายน สถานการณ์เศรษฐกิจของสหรัฐอเมริกาเริ่มมีสัญญาณลบมากขึ้น เช่น คาดการณ์ GDP ไตรมาส 1 ติดลบ อัตราเงินเฟ้อพุ่งสูง และตลาดหุ้นปรับตัวลงตามคำเตือนของบริษัทใหญ่อย่าง Walmart ซึ่งรวมถึงความกังวลว่าเศรษฐกิจอาจเข้าสู่ภาวะถดถอย ทำให้แรงขายในตลาดคริปโตยิ่งรุนแรง จนราคา Bitcoin ร่วงลงไปใกล้ระดับ 70,000 ดอลลาร์ต่อเหรียญ แม้ว่าทรัมป์จะออกมาชะลอการใช้ภาษีตอบโต้ในช่วงต้นเดือนเมษายน แต่ความเชื่อมั่นของตลาดก็ยังไม่ฟื้นตัวอย่างชัดเจน 10. มูลค่าของ Total Value Locked (TVL): จำนวนเงินที่ล็อกไว้กว่า 48,900 ล้านดอลลาร์หายไปจาก Multichain ไตรมาส 1 ปี 2025 มูลค่ารวมที่ล็อกไว้ (TVL) ในระบบ Multichain DeFi ลดลง -27.5% ในไตรมาส 1 ปี 2025 จาก 177,400 ล้านดอลลาร์ ณ สิ้นปี 2024 เหลือประมาณ 128,600 ล้านดอลลาร์ ณ สิ้นเดือนมีนาคม 2025 ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผลมาจากการปรับตัวลดลงอย่างหนักของมูลค่าเหรียญ Altcoin ต่าง ๆ โดยเฉพาะ Ethereum ที่สูญเสียส่วนแบ่ง TVL ไปอย่างมาก โดยลดลงจากการครองส่วนแบ่ง 63.5% เมื่อต้นปี 2025 เหลือ 56.6% ในช่วงปลายไตรมาส 1 โดย TVL ของ Ethereum ลดลง -35.4% จากประมาณ112,600 ล้านดอลลาร์ เหลือ 72,700 ล้านดอลลาร์ ที่มา: coingecko — — — — — — — — — — — — — — — — — ​​- คริปโทเคอร์เรนซีและโทเคนดิจิทัลมีความเสี่ยงสูง ท่านอาจสูญเสียเงินลงทุนได้ทั้งจํานวน โปรดศึกษาและลงทุนให้เหมาะสมกับระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้ - ผลตอบแทนของสินทรัพย์ดิจิทัลในอดีตหรือผลการดําเนินงานในอดีต มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลตอบแทน ของสินทรัพย์ดิจิทัลหรือผลการดําเนินงานในอนาคต สรุปประเด็นสําคัญ อุตสาหกรรมคริปโตไตรมาส 1 ปี 2025 จากรายงานของ CoinGecko was originally published in Bitkub.com on Medium, where people are continuing the conversation by highlighting and responding to this story.

09 May 2025
news

ข่าวรายสัปดาห์ 3–9 พฤษภา: สภาพคล่อง Stabecoin แตะระดับสูงสุด | นิวแฮมป์เชียรรัฐแรกมี Bitcoin…

ข่าวรายสัปดาห์ 3–9 พ.ค. 68: สภาพคล่อง Stabecoin แตะระดับสูงสุด 220,000 ล้านดอลลาร์ | นิวแฮมป์เชียร์ รัฐแรกในสหรัฐฯ ใช้ Bitcoin เป็นทุนสำรอง | BlackRock ETF รับเงินไหลเข้าเป็นวันที่ 16 ติดต่อกัน ข่าวคริปโตประจำสัปดาห์ 3–9 พ.ค. 68: การอัปเกรด Pectra ของ Ethereum ที่รวมการอัปเกรด Prague และ Electra เข้ากับ EIP 11 ตัวที่เน้นที่การแยกบัญชี การปรับปรุงการ Staking และการเพิ่มปริมาณข้อมูล ได้เปิดตัวสำเร็จแล้วหลังจากเอาชนะความล่าช้าในการทดสอบ ในเวลาเดียวกัน สภาพคล่องของ Stablecoin ได้แตะระดับสูงสุดที่ 220,000 ล้านดอลลาร์ ขับเคลื่อนโดยการเติบโตของ Tether และ USD Coin ซึ่งส่งสัญญาณถึงการเคลื่อนไหวในตลาดขาขึ้นที่อาจเกิดขึ้นได้ในอดีต ในสหรัฐฯ กฎระเบียบ นิวแฮมป์เชียร์กลายเป็นรัฐแรกในสหรัฐฯ ที่ประกาศใช้ร่างกฎหมายสำรอง Bitcoin ซึ่งอนุญาตให้กระทรวงการคลังลงทุนในสกุลเงินดิจิทัล ในขณะที่ Bitcoin ETF ของ BlackRock มีเงินไหลเข้าติดต่อกันเป็นวันที่ 16 ซึ่งส่งผลให้ราคา Bitcoin ฟื้นตัวขึ้น Tether ได้เปิดตัว USDT บนบล็อกเชน Kaia ของ LINE เพื่อขยายการใช้สกุลเงินดิจิทัลให้กว้างขวางยิ่งขึ้น เข้าถึงผู้ใช้หลายล้านคนในเอเชีย และ Metaplanet ได้เพิ่มการถือครอง Bitcoin เป็น 5,555 BTC ซึ่งช่วยเสริมความแข็งแกร่งให้กับกลยุทธ์การเก็บสะสม Bitcoin — — — — — — — — — — Ethereum Pectra ถูกอัปเกรดและเปิดใช้งานอย่างเป็นทางการแล้วเมื่อ 7 พ.ค. 2025 การอัปเกรด Pectra ของ Ethereum ได้เปิดตัวอย่างเป็นทางการ หลังจากที่หลายคนรอคอยมาอย่างนาน โดยการผสานรวมเลเยอร์ Prage (execution) และ Electra (consensus) เข้าด้วยกัน พร้อมกันกับข้อเสนอการปรับปรุง Etherueum (EIPs) จํานวน 11 ข้อหลัก โดย hard fork ครั้งนี้ได้เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่การรวมเครือข่าย (The Merge) ที่มุ่งเน้นไปที่การยกระดับการใช้บัญชี (account abstraction), การปรับปรุงเรื่อง staking (staking functiionality), และการเพิ่มประสิทธิภาพของการประมวลผลแบบ blob โดยเดิมของการอัปเกรดวางแพลนกําหนดไว้ในเดือนมีนาคม แต่ได้มีการเลื่อนกําหนดเนื่องจากความท้าทายในการทดสอบ แต่ในที่สุดก็ได้ประสบคสามสําเร็จในการทดสอบบนเครือข่าย Hoodi จึงสามารถเปิดใช้งานได้ในที่สุด ถือว่าเป็นการอัปเกรดครั้งสําคัญในด้านศักยภาพด้านการขยายตัวและประสบการณ์ของผู้ใช้ในระบบนิเวศของ Ethereum ที่มา : CryptoPotato — — — — — — — — — — สภาพคล่องของ Stabecoin แตะระดับสูงสุดที่ 220,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ส่งผลให้มีเงินทุนไหลเข้าสู่ระบบนิเวศของสกุลเงินดิจิทัลมากขึ้น CyptoQuant รายงานว่าสภาพคล่องของ Stablecoin แตะระดับสูงสุดในประวัติศาสตร์ที่ 220,000 ล้านดอลลาร์ ที่ได้รับแรงสนับสนุนจากการเติบโตของมูลค่าตลาดของ Tether (USDT) และ USD Coin (USDC) ในด้านราคาของ USDT เพิ่มขึ้นถึง 2,500 ล้านดอลลาร์ และ USDC เพิ่มขึ้น 1,200 ล้านดอลลาร์ นี่เป็นสัญญาณว่ามีเงินทุนจํานวนมากไหลเข้ามาสู่ตลาดคริปโต ในอดีตการเพิ่มสภาพคล่องของ Stablecoin มักจะเป็นตัวชี้วัดแนวโน้มตลาดกระทิง และขณะนี้ Bitcoin Bull Score ของ CryptoQuant ได้ขยับเข้าสู่โซนที่เป็นกลางแล้ว (neutral territory) แม้ USDT บนว่า USDT กระดานเทรดจะลดลง แต่หยอดคงเหลือของ USDC กลับพุ่งสูงสุดนับตั้งแต่เดือนมีนาคม 2023 ซึ่งบ่งชี้ว่ามีเงินทุนพร้อมสําหรับการเทรดและการลงทุน ซึ่งอาจเป็นแรงหนุนให้ตลาดเติบโตต่อไปได้ ที่มา : CryptoPotato — — — — — — — — — — รัฐนิวแฮมป์เชียร์กลายเป็นรัฐแรกของสหรัฐฯ ที่ประกาศใช้ร่างกฎหมายสำรอง Bitcoin รัฐนิวแฮมป์เชียร์กลายเป็นรัฐแรกของสหรัฐฯ ที่อนุญาตให้กระทรวงการคลังลงทุนใน Bitcoin และสกุลเงินดิจิทัลอื่นๆ ผู้ว่าการรัฐ Kelly Ayotte ลงนามในร่างกฎหมายหมายเลข 302 ของสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งอนุญาตหน่วยงานรัฐซื้อสกุลเงินดิจิทัลที่มีมูลค่าตามราคาตลาดเกิน 500,000 ล้านดอลลาร์ ซึ่งปัจจุบันมีเพียง Bitcoin เท่านั้น การถือครองมีขีดจำกัดที่ 5% ของเงินทั้งหมดและต้องได้รับการดูแลอย่างปลอดภัย การเคลื่อนไหวที่ล้ำสมัยนี้ถือเป็นแนวทางที่มองการณ์ไกลในการกระจายเงินสำรองของรัฐ และอาจส่งผลกระทบต่อรัฐอื่นๆ ร่างกฎหมายดังกล่าวซึ่งได้รับการสนับสนุนจากผู้สนับสนุนบล็อกเชน มีผลบังคับใช้ 60 วันหลังจากการผ่าน ซึ่งถือเป็นก้าวสำคัญสำหรับการนำสกุลเงินดิจิทัลมาใช้ในระดับรัฐ ที่มา : CryptoPotato — — — — — — — — — — กองทุน BlackRock ETF Bitcoin มีเงินไหลเข้าต่อเนื่อง 16 วันติดต่อกัน หลัง BTC กลับมาทำราคาสูงกว่า 97,000 ดอลลาร์ iShares Bitcoin Trust (IBIT) ของ BlackRock บันทึกว่ามีเงินไหลเข้าสุทธิต่อเนื่อง 16 วัน แสดงให้เห็นถึงความเชื่อมั่นของนักลงทุนที่แข็งแกร่ง ความต้องการที่สม่ำเสมอนี้ ซึ่งเพิ่มขึ้นอีก 280 BTC เมื่อวันที่ 6 พฤษภาคม ส่งผลให้ราคา Bitcoin ฟื้นตัวในช่วงที่ผ่านมา โดยแตะระดับ 97,000 ดอลลาร์ โดย IBIT ดึงดูดเงินไหลเข้าได้ประมาณ 4,700 ล้านดอลลาร์นับตั้งแต่วันที่ไหลออกครั้งล่าสุด โดยเป็น Bitcoin ETF ของสหรัฐฯ เพียงกองทุนเดียวที่มีเงินไหลเข้าในสัปดาห์นี้ นักวิเคราะห์มองว่าความสนใจที่ต่อเนื่องนี้เป็นตัวบ่งชี้เชิงบวกในระยะยาวสำหรับกองทุน Bitcoin ETF ซึ่งอาจแซงหน้ากองทุนทองคำในอนาคต ที่มา : CryptoPotato — — — — — — — — — — Tether เปิดตัว USDT บน Kaia สามารถถึงระบบนิเวศผู้ใช้งาน LINE ทั่วเอเชียมากกว่า 196 ล้านคน Tether เปิดตัว USDT stablecoin บนบล็อกเชน Kaia ที่ขับเคลื่อนระบบนิเวศ Web3 ของ LINE NEXT ที่เป็นโครงสร้างพื้นฐานบนบล็อกเชน การทำงานนี้ทำให้ USDT สามารภเข้าถึงผู้ใช้งาน LINE ได้มากกว่า 196 ล้านคนต่อเดือนทั่วเอเชีย ทำให้สามารถชำระเงินในแอป โอนเงินข้ามพรมแดน และกิจกรรม DeFi ได้ภายในสภาพแวดล้อมของ LINE ผู้ใช้ยังสามารถรับและส่ง/รับ USDT ผ่านกระเป๋าเงินในแอปได้อีกด้วย ความร่วมมือเชิงกลยุทธ์นี้ขยายการเข้าถึง USDT ไปสู่กลุ่มผู้ใช้กระแสหลักจำนวนมากในเอเชียโดยใช้ประโยชน์จากการเข้าถึงที่กว้างขวางของ LINE และสร้าง “เกตเวย์ที่ใช้เงินดอลลาร์” สำหรับบริการ Web3 ที่มา : CryptoPotato — — — — — — — — — — Metaplanet สะสม Bitcoin รวม 5,555 BTC ด้วยการซื้อเพิ่มอีก 555 BTC Metaplanet บริษัทการลงทุนของญี่ปุ่น ได้เพิ่มการถือครอง Bitcoin เป็น 5,555 BTC ด้วยการซื้อ 555 BTC เมื่อไม่นานนี้ การเข้าซื้อครั้งนี้มีมูลค่ากว่า 536 ล้านดอลลาร์ ทำให้บริษัท Metaplanet เป็นบริษัทในอันดับต้นๆ ของผู้ถือ Bitcoin ระดับองค์กร กลยุทธ์ของบริษัทเริ่มต้นในเดือนเมษายน 2024 ตั้งเป้าที่จะบรรลุ 10,000 BTC ภายในปี 2025 และ 21,000 BTC ภายในปี 2026 ซึ่งสะท้อนถึงแนวทางของ MicroStrategy ที่ Bitcoin เป็นสินทรัพย์ทางการเงินหลัก นอกจากนี้ Metaplanet ยังได้จัดตั้งบริษัทในเครือในสหรัฐอเมริกาเพื่อปรับปรุงการเข้าถึงสภาพคล่องและช่องทางการซื้อ ซึ่งเน้นย้ำถึงความมุ่งมั่นต่อกลยุทธ์ที่เน้นที่ Bitcoin ที่มา : CryptoPotato — — — — — — — — — — คำเตือน: -คริปโทเคอร์เรนซีและโทเคนดิจิทัลมีความเสี่ยงสูง ท่านอาจสูญเสียเงินลงทุนได้ทั้งจํานวน โปรดศึกษาและลงทุนให้เหมาะสมกับระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้ -ผลตอบแทนของสินทรัพย์ดิจิทัลในอดีตหรือผลการดําเนินงานในอดีต มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลตอบแทน ของสินทรัพย์ดิจิทัลหรือผลการดําเนินงานในอนาคต — — — — — — — — — — Weekly News (3–9 MAY 2025): Stablecoin Liquidity Reaches Record High $220B | New Hampshire First US State with Bitcoin Reserve | BlackRock ETF Sees 16th Inflow Day; Bitcoin Above $97K Weekly Crypto News: 3–9 MAY 2025: Ethereum’s Pectra upgrade, combining Prague and Electra layers with 11 EIPs focused on account abstraction, staking improvements, and increased data throughput, has successfully launched after overcoming testing delays. Concurrently, stablecoin liquidity has reached a record $220 billion, fueled by Tether and USD Coin growth, historically signaling potential bullish market movements. In regulatory news, New Hampshire became the first US state to enact a Bitcoin reserve bill, allowing treasury investment in cryptocurrencies, while BlackRock’s Bitcoin ETF marked its 16th consecutive day of inflows, contributing to Bitcoin’s price recovery. Further expanding crypto adoption, Tether launched USDT on LINE’s Kaia blockchain, reaching millions of users in Asia, and Metaplanet increased its Bitcoin holdings to 5,555 BTC, reinforcing its Bitcoin-focused treasury strategy. — — — — — — — — — — Ethereum’s Pectra Upgrade Finally Goes Live The highly anticipated Ethereum Pectra upgrade successfully launched, combining the Prague execution and Electra consensus layers with 11 key Ethereum Improvement Proposals (EIPs). This major hard fork, the first since the Merge, focuses on enhancing account abstraction, improving staking functionality, and increasing blob data throughput. Initially planned for March, the upgrade faced delays due to testing challenges but was ultimately deployed following successful trials on the Hoodi testnet, marking a significant step forward for the Ethereum ecosystem’s scalability and user experience. Source: CryptoPotato — — — — — — — — — — Stablecoin Liquidity Reaches Record High $220B CryptoQuant reports stablecoin liquidity hitting a record $220 billion, driven by significant growth in Tether (USDT) and USD Coin (USDC) market caps. This surge, with USDT adding $2.5B and USDC $1.2B in the past week, signals increased capital ready to flow into the crypto market. Historically, rising stablecoin liquidity precedes bullish market movements, and CryptoQuant’s Bitcoin Bull Score has moved into neutral territory. While USDT on exchanges has decreased, USDC balances have reached a high since March 2023, indicating available funds for trading and investment, potentially fueling further market growth. Source: CryptoPotato — — — — — — — — — — New Hampshire Becomes First US State to Enact Bitcoin Reserve Bill New Hampshire has become the first US state to allow its treasury to invest in Bitcoin and other cryptocurrencies. Governor Kelly Ayotte signed House Bill 302, permitting the state treasurer to purchase cryptocurrencies with a market cap exceeding $500 billion, currently only Bitcoin. Holdings are capped at 5% of total funds and must be securely custodied. This pioneering move is seen as a forward-thinking approach to diversifying state reserves and could influence other states. The bill, supported by blockchain advocates, took effect 60 days after passage, marking a significant step for cryptocurrency adoption at the state level. Source: CryptoPotato — — — — — — — — — — BlackRock Bitcoin ETF Sees 16-Day Inflow Streak; BTC Reclaims $97K BlackRock’s iShares Bitcoin Trust (IBIT) has recorded 16 consecutive days of net inflows, demonstrating strong investor confidence. This consistent demand, with another 280 BTC added on May 6th, has contributed to Bitcoin’s recent price recovery, briefly reaching $97,000. IBIT has attracted approximately $4.7 billion in inflows since its last outflow day. Notably, it’s the only US spot Bitcoin ETF with inflows this week. Analysts view this sustained interest as a positive long-term indicator for Bitcoin ETFs, potentially surpassing gold ETFs in the future. Source: CryptoPotato — — — — — — — — — — Tether Launches USDT on Kaia, Reaching LINE’s 196M User Ecosystem Tether has launched its USDT stablecoin on the Kaia blockchain, which powers LINE NEXT’s Web3 ecosystem. This integration brings USDT to LINE’s 196 million monthly active users across Asia, enabling in-app payments, cross-border transfers, and DeFi activities within the LINE environment. Users can also earn and send/receive USDT via the in-app wallet. This strategic partnership significantly expands USDT’s accessibility to a vast mainstream audience in Asia, leveraging LINE’s extensive reach and establishing a “dollar-based gateway” to Web3 services. Source: CryptoPotato — — — — — — — — — — Metaplanet Reaches 5,555 Bitcoin Milestone with Latest 555 BTC Buy Metaplanet, a Japanese investment firm, has increased its Bitcoin holdings to 5,555 BTC with a recent purchase of 555 BTC. This acquisition, valued at over $536 million, solidifies Metaplanet’s position as a significant corporate Bitcoin holder. The company’s strategy, initiated in April 2024, aims to reach 10,000 BTC by 2025 and 21,000 BTC by 2026, mirroring MicroStrategy’s approach of Bitcoin as a primary treasury asset. Metaplanet has also established a US subsidiary to improve access to liquidity and acquisition channels, underscoring its commitment to its Bitcoin-focused strategy. Source: CryptoPotato — — — — — — — — — — Disclaimer: - Cryptocurrency and digital tokens involve high risks; investors may lose all investment money and should study information carefully and make investments according to their own risk profile. -Past Returns does not guarantee future returns/performance. ข่าวรายสัปดาห์ 3–9 พฤษภา: สภาพคล่อง Stabecoin แตะระดับสูงสุด | นิวแฮมป์เชียรรัฐแรกมี Bitcoin… was originally published in Bitkub.com on Medium, where people are continuing the conversation by highlighting and responding to this story.

09 May 2025
news

ทําความรู้จัก Grass เครือข่ายบน Solana ที่เปลี่ยนอินเทอร์เน็ตที่ไม่ได้ใช้ให้เป็นรายได้

Grass (GRASS) คืออะไร? Grass เป็นเครือข่ายที่ช่วยเปิดโอกาสให้ผู้ใช้สามารถสร้างรายได้จาก bandwidth internet ที่ไม่ได้ใช้งาน พร้อมกับการสนับสนุนการพัฒนา AI ผ่าน Grass Network โดยเครือข่ายนี้ได้นำกลไกการเก็บข้อมูลที่ซับซ้อนมาใช้แบบกระจายศูนย์ (decentralized architecture) ซึ่งโปรเจกต์ Grass จะทํางานบน Solana Blockchain เพื่อเป็นการเพิ่มความเร็วและความปลอดภัยผ่านเทคโนโลยีอย่าง Zero-Knowledge Proofs ผู้ใช้ที่เข้าร่วมในการแบ่งปันแบ่งปันแบนด์วิธอินเทอร์เน็ตที่ไม่ได้ใช้งานให้กับเครือข่าย Grass จะได้รับโทเคน GRASS เป็นรางวัล พร้อมคงไว้ซึ่งมาตรการด้านความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัยที่เข้มงวด แพลตฟอร์มนี้มีเป้าหมายที่จะปรับโครงสร้างแรงจูงใจของอินเทอร์เน็ตใหม่ทั้งหมด โดยสร้างระบบนิเวศที่ผู้ใช้เป็นเจ้าของ เพื่อการเก็บข้อมูล การปรับเปลี่ยน และการสร้างรายได้อย่างแท้จริง เทคโนโลยีของ Grass (GRASS) Grass จะทํางานผ่านเครือข่ายที่มีการใช้งานที่ซับซ้อน คือ Sovereign Data Rollup ที่จะคอยเชื่อมเครือข่ายและคอมพิวเตอร์จํานวนมาก โดยที่เวลาผู้ใช้ดาวน์โหลดแอป Grass อุปกรณ์ของผู้ใช้จะเป็นโหนด (node) ทันที โดยจะมีการแชร์ bandwidth ที่ไม่ได้ใช้งานเท่านั้น สถาปัตยกรรม Sovereign Data Rollup — ที่มา: Grass Foundation มีองค์ประกอบหลัก 3 ส่วนได้แก่ 1. Validators — จะทําหน้าที่เป็นผู้ตรวจสอบ และรับประกันความปลอดภัยและการดำเนินงานที่ราบรื่นจาก Routers และจากนั้นจะสร้าง ZK proofs เพื่อลงข้อมูลบนบล็อกเชน หลักฐานนี้สามารถอิง datasets เพื่อเอามายืนยันข้อมูล และติดตามเส้นทางข้อมูลได้ 2. Routers — จะทําหน้าที่เชื่อมต่อและคอยนํา traffic ระหว่าง Grass โหนด (nodes) ต่าง ๆ กับ Validators โดย Router จะควบคุมความถูกต้องของโหนดในเครือข่าย และเป็นตัวกลางในการส่งต่อ bandwidth 3. Grass Nodes — จะใช้ bandwidth ที่ไม่ได้ใช้งานของผู้ใช้ในการรับ-ส่งข้อมูล เพื่อให้เครือข่ายสามารถเก็บข้อมูลจากเว็บสาธารณะ (ไม่ใช่ข้อมูลส่วนตัวของผู้ใช้) ผู้ก่อตั้ง Grass ผู้ก่อตั้ง Grass คือ ผู้ก้อตั้ง Wynd Labs เพราะ Wynd Labs เป็นผู้ที่พัฒนา Grass นั่นเอง โดย Wynd Labs คือบริษัทที่มุ่งเน้นในการพัฒนาด้านบล็อกเชน ในส่วนของผู้ก่อตั้ง Wynd Labs ได้แก่ Andrej Radonjic ที่เป็น CEO และผู้ก่อตั้งของ บริษัท Wynd Labs Andrej Radonjic ได้สําเร็จการศึกษาในระดับปริญญาโทในสาขาคณิตศาสตร์และสถิติ (Mathematics and Statistics) จากมหาวิทยาลัย York และปริญญาตรีสาขาฟิสิกส์วิศวกรรม (Engineering Physics) จากมหาวิทยาลัย McMaster โทเคน GRASS คืออะไร? โทเคน GRASS ถือเป็นโทเคนที่ทําหน้าที่เป็นผลตอบแทนให้กับผู้ใช้ที่แชร์ bandwitdth บนอินเทอร์เน็ตที่ไม่ได้ใช้งานผ่าน Grass Network โดยโทเคนเหล่านี้จะสะท้อนถึงการให้ความร่วมมือระหว่างผู้ใช้งานในการสร้างและขับเคลื่อนโครงสร้างพื้นฐานของเครือข่าย โทเคน GRASS ทําอะไรบ้าง – Governance และ Staking: โทเคน GRASS มีบทบาทในการกํากับดูแลเครือข่าย โดยเปิดโอกาสให้ผู้ที่ถือโทเคนมีโอกาสในการกําหนดทิศทางของแพลตฟอร์มเช่นกัน ผู้ใช้ยังสามารถนําโทเคน GRASS ไป stake ถือเป็นการได้ passive income และช่วยสร้างความแข็งแรงให้กับตัวแพลตฟอร์มด้วยเช่นกัน – เป็นรางวัลให้ผู้ใช้ (Token Rewards): ผู้ใช้สามารถได้รับโทเคน GRASS ผ่านจากการแชร์ bandwidth และสามารถนำโทเคนเหล่านี้ไปใช้ในกิจกรรมต่าง ๆ ภายในระบบนิเวศของ Grass ได้ การกระจายเหรียญของ GRASS GRASS Token Allocation — ที่มา Grass Tokenomics ข้อมูลจากเว็บไซต์ Grass Foundation ณ วันที่ 9 เม.ย. 2025 ระบุว่าโทเคน GRASS มี Total Supply ทั้งหมดอยู่ที่ 1,000,000,000 GRASS และมี Circulating supply อยู่ที่ 243,905,091 GRASS โทเคน GRASS มีการแจกจ่ายดังนี้ – 30.00% — ชุมชน แบ่งออกเป็นรางวัลในอนาคต (17%), Airdrop ครั้งแรก (10%), ผู้ดูแล Routers (3%) – 22.80% — Foundationและการเติบโตของระบบนิเวศ – 25.20% — นักลงทุน – 22.00% — ผู้มีส่วนร่วม ข้อมูลน่าสนใจด้านราคาของ GRASS ข้อมูลจากเว็บไซต์ Coinmarketcap เมื่อวันที่ 10 เมษายน 2025 เหรียญ GRASS มีมูลค่าตามราคาตลาด (Market cap) ที่ 377,906,798.99 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือประมาณ 12,894,179,981.53 บาท ณ เวลาที่เขียนบทความนี้ เหรียญ GRASS ซื้อขายกันอยู่ที่ราคาประมาณ 1.55 ดอลลาร์ หรือประมาณ 52.95 บาทต่อ 1 GRASS โดย GRASS เคยทำราคาสูงสุด (All-time high) ที่ 3.90 ดอลลาร์ หรือประมาณ 133.10 บาท ต่อ 1 GRASS เมื่อวันที่ 8 พฤศจิกายน 2024 ที่มา: coinmarketcap, iq.wiki, grass foundation — — — — — — — — — — — — — — — — — คําเตือน: – คริปโทเคอร์เรนซีและโทเคนดิจิทัลมีความเสี่ยงสูง ท่านอาจสูญเสียเงินลงทุนได้ทั้งจํานวน โปรดศึกษาและลงทุนให้เหมาะสมกับระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้ – ผลตอบแทนของสินทรัพย์ดิจิทัลในอดีตหรือผลการดําเนินงานในอดีต มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลตอบแทน ของสินทรัพย์ดิจิทัลหรือผลการดําเนินงานในอนาคต — — — — — — — — — — — — — — — — — Grass: The Solana-Powered Network Monetizing Unused Internet What is Grass (GRASS)? Grass is a network that enables users to earn revenue from their unused internet bandwidth while supporting AI development through the Grass Network. This network utilizes a decentralized architecture for complex data collection processes. The Grass project operates on the Solana blockchain to enhance speed and security, leveraging technologies like Zero-Knowledge Proofs. Users who participate by sharing their unused internet bandwidth with the Grass network will receive GRASS tokens as rewards, all while maintaining strict privacy and security measures. The platform aims to reshape internet incentives entirely, creating a user-owned ecosystem for data collection, modification, and genuine monetization. Grass (GRASS) Technology Grass operates through a sophisticated network called the Sovereign Data Rollup, which connects numerous networks and computers. When users download the Grass app, their devices instantly become nodes that share only their unused bandwidth. Sovereign Data Rollup Architecture — Source: Grass Foundation The architecture consists of three main components: Validators — They verify and ensure the security and smooth operation of the Routers. Validators generate ZK proofs to record data on the blockchain. These proofs reference datasets to confirm information and track data flow. Routers — They manage traffic between Grass nodes and Validators. Routers validate nodes and serve as intermediaries for bandwidth transmission. Grass Nodes — These use the users’ unused bandwidth to send and receive data, enabling the network to collect public web data (not users’ private information). Grass Founders Grass was created by the team at Wynd Labs, the company responsible for developing the Grass network. Wynd Labs focuses on blockchain development, and its founder and CEO is Andrej Radonjic. Andrej Radonjic holds a Master’s degree in Mathematics and Statistics from York University and a Bachelor’s degree in Engineering Physics from McMaster University. What is the GRASS Token? The GRASS token serves as a reward mechanism for users who share their unused internet bandwidth via the Grass Network. These tokens represent users’ contributions to building and driving the network’s infrastructure. Use Cases of GRASS Tokens – Governance and Staking: GRASS tokens play a governance role in the network, giving holders the power to shape the platform’s future direction. Users can also stake GRASS tokens, earning passive income while reinforcing the platform’s security and strength. – User Rewards: Users can earn GRASS tokens by sharing bandwidth and spend them within the Grass ecosystem for various activities. GRASS Token Distribution GRASS Token Allocation — Source: Grass Foundation According to the Grass Foundation website (as of April 9, 2025), the total supply of GRASS tokens is 1,000,000,000 GRASS, with a circulating supply of 243,905,091 GRASS. The token allocation is as follows: – 30.00% — Community (Future rewards 17%, Initial airdrop 10%, Router operators 3%) – 22.80% — Foundation and Ecosystem Growth – 25.20% — Investors – 22.00% — Contributors Interesting Information Regarding GRASS Price According to data from the CoinMarketCap website on April 10, 2025, the GRASS coin has a market capitalization (Market cap) of USD 377,906,798.99 or THB 12,894,179,981.53. At the time of writing this article, the GRASS coin is trading at approximately $1.55 or about 52.95 THB per 1 GRASS. GRASS reached its all-time high price of $3.90 or approximately 133.10THB per 1 GRASS on November 8, 2024 sources: coinmarketcap, iq.wiki, grass foundation — — — — — — — — — — — — — — — — — Disclaimer: – Cryptocurrency and digital tokens involve high risks; investors may lose all investment money and should study information carefully and make investments according to their own risk profile. – Past Returns do not guarantee future returns/performance. ทําความรู้จัก Grass เครือข่ายบน Solana ที่เปลี่ยนอินเทอร์เน็ตที่ไม่ได้ใช้ให้เป็นรายได้ was originally published in Bitkub.com on Medium, where people are continuing the conversation by highlighting and responding to this story.

08 May 2025
news

กิจกรรม ฉลอง 7 ปี บิทคับ เอ็กซ์เชนจ์ มาร่วมแชร์ 7 สิ่งประทับใจกับ บิทคับ เอ็กซ์เชนจ์

กิจกรรม: ฉลอง 7 ปี บิทคับ เอ็กซ์เชนจ์ มาร่วมแชร์ 7 สิ่งประทับใจกับ บิทคับ เอ็กซ์เชนจ์ . กิจกรรมระหว่างวันที่: 9 พ.ค. 68–16 พ.ค. 68 . ลงทะเบียนผ่านลิงก์: https://app.deform.cc/form/5de0ed2d-41f2-44b0-946f-3f60ebecf44c . รายละเอียดและเงื่อนไขของกิจกรรม . 1.กิจกรรม ฉลอง 7 ปี บิทคับ เอ็กซ์เชนจ์ (“กิจกรรม”) นี้ จัดขึ้นโดย บริษัท บิทคับ ออนไลน์ จำกัด (“บริษัท”) . 2.กิจกรรมนี้ เริ่มต้นตั้งแต่วันที่ 9 พ.ค. 68–16 พ.ค. 68 . 3.ของรางวัลคือ E-Coupon Starbucks มูลค่า 200 บาท จํากัดจํานวน 20 สิทธิ์ . 4.ลูกค้าจะได้รับ E-Coupon Starbucks มูลค่า 200 บาท เมื่อแชร์ 7 สิ่งประทับใจกับ บิทคับ เอ็กซ์เชนจ์ ในแบบฟอร์ม https://app.deform.cc/form/5de0ed2d-41f2-44b0-946f-3f60ebecf44c และได้รับคะแนนโหวตจากพนักงาน ในกลุ่ม บิทคับ กรุ๊ป มากที่สุด 20 ท่านแรก . 5.บริษัทจะจัดส่งโค้ด E-Coupon Starbucks มูลค่า 200 บาท ให้กับผู้เข้าร่วมกิจกรรมที่แชร์ 7 สิ่งประทับใจกับ บิทคับ เอ็กซ์เชนจ์ และได้รับคะแนนโหวตจากพนักงาน ในกลุ่ม บิทคับ กรุ๊ป มากที่สุด 20 ท่านแรก ภายในวันที่ 9 พ.ค. 68 — 16 พ.ค. 68 ก่อนเวลา 23:59 น. และผ่านการยืนยันตัวตนระดับที่ 1 (KYC1) ภายในวันที่ 16 พ.ค. 68 . 6.ทางบริษัทฯ จะประกาศผลผู้ที่ได้รับรางวัล ภายใน 30 วัน หลังจากสิ้นสุดกิจกรรม . 7.ทางบริษัทฯ จะจัดส่ง E-Coupon Starbuckให้ผู้ที่ได้รับรางวัลผ่านทาง Email ที่ลงทะเบียนไว้กับ Bitkub Exchange ภายในวันที่ 90 วันทําการ นับตั้งแต่เริ่มกิจกรรม . 8.กรณีที่ลูกค้า Bitkub Exchange หรือ ผู้เข้าร่วมกิจกรรม ที่ทําการยกเลิกการติดตาม (Unsubscribe) รับอีเมลแจ้งเตือนจาก Bitkub Exchange ภายใน 90 วันหลังการแจ้งอีเมล — ยืนยันการรับสิทธิ จะถือว่าปฏิเสธในการรับของรางวัลในทุกกรณี . 9.หากผู้ร่วมกิจกรรมไม่ให้ความยินยอมในการเข้าถึงข้อมูล ทางบริษัทจะไม่ดําเนินการตรวจสอบสิทธิ์ใน การร่วมกิจกรรม โดยจะถือว่าผู้ร่วมกิจกรรมปฏิเสธที่จะรับของรางวัลในกิจกรรมนี้ . 10.ของรางวัลไม่สามารถเปลี่ยนเป็นเงินสด หรือเปลี่ยนเป็นของรางวัลชนิดอื่นได้ และไม่สามารถโอน สิทธิ์ให้ผู้อื่นได้ . 11.บริษัท บิทคับ ออนไลน์ จํากัด ขอสงวนสิทธิ์ในการเปลี่ยนแปลง เงื่อนไขกิจกรรมโดยจะแจ้งให้ทราบล่วงหน้า 3 วันทําการ . 12.การตัดสินเพื่อมอบรางวัลของบริษัทถือเป็นที่สิ้นสุด ดาวน์โหลดแอปพลิเคชันบิทคับ ได้ที่นี่ https://onelink.bitkub.com/aHvr/jjtbqd0n กิจกรรม ฉลอง 7 ปี บิทคับ เอ็กซ์เชนจ์ มาร่วมแชร์ 7 สิ่งประทับใจกับ บิทคับ เอ็กซ์เชนจ์ was originally published in Bitkub.com on Medium, where people are continuing the conversation by highlighting and responding to this story.

08 May 2025
news

Viction บล็อกเชน Layer 1 ที่ทำงานร่วมกันได้กับ Ethereum เน้นผู้ใช้งานเป็นศูนย์กลางเพื่อสร้าง Web3

Viction บล็อกเชน Layer 1 ที่ทำงานร่วมกันได้กับ Ethereum เน้นผู้ใช้งานเป็นศูนย์กลางเพื่อสร้าง Web3

06 May 2025