บทความ
คุณท็อป จิรายุส ขึ้นแท่น Top 100 ลิสต์ระดับโลก LATTICE80
จากรายงานของ LATTICE80 ที่นำเสนอผู้นำทางด้านอุตสาหกรรม Blockchain Top 100 คนแห่งปี 2019 ซึ่งหนึ่งในนั้นก็ได้มีคุณจิรายุส ทรัพย์ศรีโสภา Group CEO ของเว็บเทรด Bitkub.com โดยผู้ที่จะได้รับรางวัลเป็นผู้นำด้าน Blockchain Top 100 คนได้จะต้องเป็นผู้ที่สร้างสรรค์ผลงานที่ส่งผลกระทบไปทั่วโลก และนับว่าเป็นเรื่องที่น่ายินดีมากที่ได้มีบุคคลจากประเทศไทยได้สร้างผลงานเป็นที่ปรากฏต่อสายตาชาวโลกเช่นนี้
LATTICE80 คืออะไร?
LATTICE 80 คือแหล่งชุมชนที่มี Fintech startup และ มืออาชีพรวมกันมากถึง 200,000 แห่งใน database โดยเชื่อว่าการเติบโตที่เร็วที่สุดคือการร่วมมือซึ่งกันและกัน
LATTICE 80 เริ่มจากการสร้างศูนย์กลาง Fintech ที่ใหญ่ที่สุดในโลกเมื่อปี 2016 และประสบความสำเร็จอย่างมากจากการเป็นเจ้าภาพ Fintech Startup กว่า 100 บริษัทเพียงภายในปีแรกของการดำเนินการ
คุณจิรายุส ทรัพย์ศรีโสภา ได้กล่าวถึงความรู้สึกในการเป็นหนึ่งในผู้นำทางด้าน Blockchain ของ โลกว่า:
“เทคโนโลยี Blockchain ได้ก่อให้เกิดนวัตกรรมและโซลูชั่นแก่เว็บไซต์ทางการเงินอย่างนับไม่ถ้วน ผมอยากใช้ช่วงเวลานี้เพื่อให้ทุกคนได้รู้ถึงการทำงานของทีมงานของ Bitkub ที่ทำงานกันอย่างหนักเพื่อให้เราเป็นที่รู้จักไปทั่วโลก ผมรู้สึกภูมิใจเป็นอย่างมากที่ Bitkub ได้เป็นเว็บ Exchange Cryptocurrency แห่งแรกที่ได้รับใบอนุญาตจากสำนักงาน ก.ล.ต. แห่งประเทศไทย สิ่งเหล่านี้คือการเดินทางประสบการณ์ความรู้ของผม ผมรู้สึกยินดีกับการทำงานก่อนหน้านี้มาตลอดที่ทำเพื่อให้ประเทศไทยเป็นอุตสาหกรรมที่รู้จักบนพื้นที่ของ Blockchain และเป็นที่รู้จักไปถึงระดับโลก อาจเปรียบได้ว่าอุตสาหกรรม Blockchain และ Crypto อยู่ตรงสี่แยกที่เราสามารถมีบทบาทพื้นฐานในการกำหนดอนาคตของเศรษฐกิจดิจิทัลและเราอยู่ในที่นั่งคนขับ ผมไม่สามารถหยุดคิดได้ว่าเราจะไปได้ไกลแค่ไหน ผมขอขอบคุณทุกคนที่เข้าร่วมกับผมในภารกิจนี้ที่จะนำประโยชน์ของสกุลเงินดิจิทัลมาใช้เพื่อเข้าถึงชุมชนที่กว้างขึ้น”
การเคลื่อนไหวด้าน Blockchain จากทั่วโลก
ตั้งแต่เทคโนโลยีได้ถูกคิดค้นขึ้นมาทั่วโลกก็ได้ให้ความสนใจอย่างต่อเนื่องซึ่งบริษัทยักษ์ใหญ่หลายแห่งได้มีการเคลื่อนไหว และ ปรับใช้เทคโนโลยีบล็อกเชนเพื่อการพัฒนาของตนเอง ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดเลยนั้นก็คือ Facebook ที่ได้สร้างเหรียญ Libra ขึ้นมา ถือเป็นการเคลื่อนไหวอันสำคัญที่ทั่วโลกต้องจับตามอง อีกทั้งบริษัทอย่าง Microsoft, Amazon และ Samsung ก็มีการเคลื่อไหวด้านนี้เช่นกัน
ที่มา:
Medium