บทความ
การลงทุนหุ้นระยะยาว กลยุทธ์ลงทุนเพื่ออนาคต
การลงทุนหุ้นระยะยาวคืออะไร?
การลงทุนหุ้นระยะยาว คือ การลงทุนที่มีระยะเวลา 1 ปีเป็นต้นไป โดยรูปแบบของการลงทุนอาจจะมีการระบุแผนไว้ชัดเจน ไม่ว่าจะเป็นผลตอบแทน ระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้ ระยะเวลาการลงทุน ข้อจำกัดการลงทุนและภาษี บางแผนอาจรวมถึงเงินลงทุนทั้งในปัจจุบันและที่นำมาลงทุนเพิ่มในอนาคตด้วย
ความแตกต่างระหว่างการลงทุนหุ้นระยะสั้นกับระยะยาวมีอะไรบ้าง?
การลงทุนระยะสั้นจะมีระยะเวลาในการลงทุนไม่เกิน 1 ปี เหมาะกับผู้ที่ต้องการลงทุนเพื่อเห็นผลกำไรในช่วงระยะเวลาสั้น ๆ ส่วนการลงทุนระยะยาวจะเป็นการลงทุนมากกว่า 1 ปีขึ้นไป เหมาะกับผู้ที่วางแผนลงทุนเพื่ออนาคตและต้องการมี Passive Income อย่างต่อเนื่องตลอดระยะเวลาในการลงทุน นักลงทุนที่เลือกการลงทุนระยะสั้นจะคาดหวังการได้ผลตอบแทนที่รวดเร็ว เพื่อนำเงินลงทุนนั้นไปใช้ประโยชน์ด้านอื่นต่อไปและจะมีสัดส่วนกำไรไม่มากนัก ส่วนการลงทุนระยะยาวจะให้ผลตอบแทนมากกว่าก็จริง แต่ใช้เวลาในการลงทุนนานกว่า
ประเภทของการลงทุนระยะยาวแต่ละแบบ
สินทรัพย์เพื่อการลงทุนสามารถแบ่งออกได้เป็น 5 ประเภท ได้แก่
1.หุ้น หุ้นที่น่าสนใจและเหมาะกับการซื้อเพื่อลงทุนระยะยาว ได้แก่ หุ้นที่มาจากกิจการขนาดใหญ่ มีผลการดำเนินงานที่ดี และบริษัทหรือองค์กรนั้น ๆ มี ฐานะทางการเงินที่มั่นคง ซึ่งจะมีปีที่ให้ผลตอบแทนเป็นบวกมากกว่าติดลบหากเล่นหุ้นต่อไปเรื่อย ๆ ในระยะยาว ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่สร้างผลตอบแทนสูงที่สุด
2.ตราสารหนี้ การลงทุนในตราสารหนี้มีทั้งระยะสั้น ระยะกลาง และระยะยาว เป็นตราสารการลงทุนอีกประเภทหนึ่งที่จ่ายรายได้แบบคงที่ออกมาให้กับนักลงทุน ซึ่งนักลงทุนจะตกอยู่ในสถานะผู้ปล่อยกู้
3.กองทุนรวม ตัวอย่างกองทุนรวมที่หลายคนคุ้นเคย คือ กองทุนเพื่อการเลี้ยงชีพ หรือที่หลายคนรู้จักในชื่อ กองทุน RMF (Retirement Mutual Fund) ผู้ลงทุนสามารถเลือกลงทุนได้ตามความสามารถในการรับความเสี่ยงของตัวเอง จัดตั้งขึ้นมาเพื่อสนับสนุนให้คนไทยออมเงินเพื่อการเกษียณ โดยจะเป็นการออมแบบบังคับให้ลงทุนระยะยาว โดยจะมีข้อดีสำหรับผู้ที่ลงทุนครบ จะไม่ต้องนำกำไรจากการขายคืนไปรวมในการคำนวณภาษี
4.สินทรัพย์ทางเลือก ได้แก่ ทองคำ อสังหาริมทรัพย์ สินทรัพย์ดิจิทัลหรือคริปโต ซึ่งกำลังเป็นที่นิยมเป็นอย่างมากทั้งการเทรดคริปโตระยะสั้นและระยะยาว หากเป็นการเทรดซื้อ-ขายด้วยตนเอง สามารถทำได้ด้วยวิธีการ HODL คือ การถือครองคริปโตไปเรื่อย ๆ ไม่ขายออกจนกว่ามูลค่าของเหรียญจะสร้างผลกำไรเป็นที่น่าพอใจ หรืออีกวิธีคือการ Staking ซึ่งเป็นวิธีการตรวจสอบธุรกรรมโดยการวางเงินค้ำประกัน โดยผลตอบแทนจะขึ้นอยู่กับแพลตฟอร์มเป็นผู้กำหนดขึ้น นักลงทุนเลือกใช้วิธีการลงทุนแบบนี้ในช่วงตลาดหมีที่ราคาเหรียญมีความผันผวนสูง
5.ตราสารอนุพันธ์ สัญญาทางการเงินระหว่างบุคคลตั้งแต่ 2 ฝ่ายขึ้นไปเพื่อตกลงกันซื้อขายสินทรัพย์ทางการเงิน (Underlying assets) ในปัจจุบัน แต่ทำการส่งมอบและชำระราคากันในอนาคต เป็นตัวที่ช่วย ออกแบบมาเพื่อใช้เป็นเครื่องมือในการบริหารและป้องกันความเสี่ยงจากการลงทุนในตราสารทางการเงินอื่นที่เกี่ยวข้องกัน
การเตรียมตัวก่อนลงทุนหุ้นระยะยาว
สำรวจตัวเอง ทั้งด้านความพร้อมในด้านการหาข้อมูลศึกษาเรื่องลงทุนในรูปแบบต่าง ๆ ให้เข้าใจอย่างแท้จริง และความพร้อมทางด้านจิตใจในการไม่รีบเร่งใจร้อนเรื่องการได้มาซึ่งผลกำไร และการยอมรับความเสี่ยงที่จะสูญเสียเงินลงทุนหากเกิดเหตุไม่คาดคิดจากการลงทุนนั้น ๆ
ศึกษาประเภทของสินทรัพย์ ทั้งประเภทของสินทรัพย์ดังที่ได้กล่าวไปข้างต้น และ การจัดสรรสินทรัพย์ (Asset Allocation) แต่ละประเภทใ้ห้เหมาะสมกับความพร้อมของตนเองด้วย
แนวคิดในการลงทุนระยะยาวที่แนะนำ
1.ไม่รีบขายไม่ขาดทุน
การถือสินทรัพย์ตามระยะเวลากำหนดหรือการถือเหรียญระยะยาวในสภาวะตลาดที่ผันผวนอย่างรวดเร็ว การไม่รีบขายไม่ขาดทุนและรอช่วงที่ตลาดฟื้นกลับคืนมาอาจเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด และจะทำให้เราไม่เสียสิทธิ์ของการได้รับผลตอบแทนหากถือระยะยาวจนครบกำหนดด้วย
2.ถัวเฉลี่ยต้นทุนด้วยเทคนิค DCA
ในช่วงตลาดหมี (Bear Market) ที่มูลค่าสินทรัพย์ต่าง ๆ มีราคาตกต่ำ เหรียญคริปโตราคาร่วง นับว่าเป็นช่วงเวลาที่ดีในการนำกลยุทธ์ DCA (Dollar-Cost Averaging) มาใช้เพื่อถัวเฉลี่ยต้นทุนในการลงทุนจากการที่คุณอาจซื้อสินทรัพย์หรือเหรียญคริปโตนั้นมาในราคาสูง โดยการเข้าซื้อในช่วงที่ราคาเหรียญนั้นร่วงจากที่เคยซื้อไว้
เรื่องควรรู้ก่อนลงทุน
การลงทุนระยะยาวเหมาะกับผู้ที่มีฐานเงินเดือนประจำหรือมีรายรับสม่ำเสมอ และเงินลงทุนนั้นจะต้องเป็น “เงินเย็น” คือเงินที่นักลงทุนไม่ได้มีความจำเป็นในการใช้จ่ายในชีวิตประจำวันหรือแม้แต่เรื่องฉุกเฉิน และสามารถสูญเสียไปได้หากเกิดเหตุที่ทำให้การลงทุนไม่เป็นไปตามที่คาดการณ์ไว้ ฉะนั้นก่อนลงทุนควรจัดสรรเงินเพื่อการลงทุนอย่างชัดเจนและรอบคอบและศึกษาข้อมูลสินทรัพย์ ทั้งผลการดำเนินงานในอดีต และการคาดการณ์ในอนาคตของสินทรัพย์นั้นเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง
อ้างอิง : SET, ThaiBMA, Bitkub Blog
— — — — — — — — — — — — — — — — — — — — — — — — — — — — — — — — — — — — —
การลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัลเป็นทางเลือกใหม่ที่นักลงทุนต่างให้ความสนใจและมีแนวโน้มในความต้องการศึกษาและเรียนรู้เพิ่มเติมมากขึ้น ซึ่ง Bitkub ศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลของไทย มีความตั้งใจสนับสนุนให้นักลงทุนศึกษาข้อมูล ความรู้ที่น่าสนใจเรื่อง บิทคอยน์ (Bitcoin), Cryptocurrecy ก่อนตัดสินใจการลงทุน โดยได้รวบรวมความรู้และข่าวสารด้านการลงทุนคริปโตที่ทุกคนสามารถเข้าถึงได้ คุณสามารถอ่านได้จาก Bitkub Blog ที่นี่เลย
คำเตือน:
-คริปโทเคอร์เรนซีและโทเคนดิจิทัลมีความเสี่ยงสูง ท่านอาจสูญเสียเงินลงทุนได้ทั้งจํานวน โปรดศึกษาและลงทุนให้เหมาะสมกับระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้
-สินทรัพย์ดิจิทัลมีความเสี่ยง โปรดศึกษาและลงทุนให้เหมาะสมกับระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้
-ผลตอบแทนของสินทรัพย์ดิจิทัลในอดีตหรือผลการดําเนินงานในอดีต มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลตอบแทน ของสินทรัพย์ดิจิทัลหรือผลการดําเนินงานในอนาคต
ที่มา:
Medium