บทความ
Crypto Weekly รวมข่าวเด่นรายสัปดาห์ 2–8 ตุลาคม 2021
รวมข่าวเด่นในวงการคริปโตตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา มีอะไรบ้าง ไปอ่านกันเลย!
*เนื้อหาต่อไปนี้เป็นการนำข่าวสารย้อนหลังตลอดช่วง 1 สัปดาห์ที่ผ่านมาจากเว็บไซต์ต่างประเทศมาเรียบเรียงและสรุปให้เข้าใจง่าย ไม่ได้เป็นการชี้นำการลงทุนแต่อย่างใด
1.ทิศทาง Bitcoin สดใส นักวิเคราะห์แนะจับตาระดับราคาต่อไปนี้
หลังจากราคา Bitcoin ปรับขึ้นมากกว่า 3,000 ดอลลาร์ในชั่วข้ามคืนเมื่อปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา จึงส่งผลให้ตลาดเริ่มกลับมามีมุมมองที่ดีขึ้นต่อทิศทางราคา
โดย Michaël van de Poppe นักวิเคราะห์จาก Cointelegraph ได้ให้ความเห็นว่า หลังจากที่ราคาปรับขึ้นมาได้อย่างรวดเร็ว การเคลื่อนไหวต่อไปของบิตคอยน์น่าจะเป็นการเคลื่อนไหวแบบสะสมพลัง (Considation) โดยมีแนวรับสำคัญอยู่ที่ระดับ 45,000 ดอลลาร์ (≈1,523,700 บาท)
ขณะที่นักวิเคราะห์จาก Rekt Capital ก็ได้แสดงมุมมองเชิงบวกต่อ Bitcoin เช่นกัน โดยอธิบายว่าราคา BTC ได้ทำระดับต่ำยกสูง (Higher lows) มาติดต่อกันถึง 4 เดือนแล้ว ซึ่งทุกครั้งที่ราคาลดลงไปทำระดับต่ำสุดก็ยังมีแรงซื้อกลับเข้ามาที่แข็งแกร่ง
Bitcoin investors ‘no longer fearful’ — Watch this BTC price level next
Bitcoin (BTC) stayed higher on Oct. 2 after a “fantastic” break to the upside upended market sentiment.
Trader eyes $45,000 BTC price floor
For Cointelegraph contributor Michaël van de Poppe, it was now a question of what form a consolidation period could take in the coming days.
“If we want to get any corrective move at all, I think you don’t want to see it go that far down,” he warned in a YouTube update on Oct 1.
“I think the deepest you want to see it go is this level around $45,000.”
Equally optimistic was trader and analyst Rekt Capital, who noted that BTC/USD had been printing higher lows for four months, all of which had seen strong buyer support despite the price rising each time.
ที่มา Cointelegraph
2.สามปัจจัยที่อาจหนุนราคา ETH เติบโตได้ 100% ช่วง Q4 ปีนี้
บทวิเคราะห์จาก Cointelegraph ระบุว่า Ethereum (ETH) มีโอกาสเติบโตได้เกือบเท่าตัวในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า โดยมีปัจจัยสนับสนุน 3 อย่างดังนี้
ความสัมพันธ์ระหว่าง BTC-ETH ในฐานะสินทรัพย์ป้องกันความเสี่ยงจากเงินเฟ้อ
นักเก็งกำไรส่วนใหญ่มักจะเลือกถือ Bitcoin (BTC) เพื่อป้องกันความเสี่ยงจากอัตราเงินเฟ้อ เห็นได้จากการที่ราคา Bitcoin ปรับสูงขึ้นตามหลังการประกาศดัชนีราคาผู้บริโภคของสหรัฐฯในสัปดาห์นี้
ขณะที่กราฟราคา ETH ภาพรวม 30 วัน มีการเคลื่อนไหวที่ใกล้เคียงกับ Bitcoin ถึง 89% จากข้อมูลโดย CryptoWatch สะท้อนว่า ETH ได้รับแรงหนุนจาก Bitcoin ในฐานะสินทรัพย์ป้องกันความเสี่ยงจากเงินเฟ้อเช่นกัน
อุปทานของเหรียญที่ลดลง
เครือข่าย Ethereum เพิ่งมีการอัปเดตครั้งสำคัญไปเมื่อเดือนสิงหาคม ในชื่อ London hard fork ซึ่งเป็นการอัปเดตที่เพิ่มมาตรการเผาเหรียญ ETH ส่วนหนึ่งที่ถูกจ่ายเป็นค่าธรรมเนียม (Gas fee) โดยมาตรการดังกล่าวได้เผาเหรียญ ETH ไปแล้วกว่า 410,404 เหรียญ คิดเป็นมูลค่า 1.32 พันล้านดอลลาร์
กราฟเคลื่อนไหวแบบ Cup and handle
สำหรับปัจจัยในเชิงเทคนิค สามารถเห็นได้จากกราฟราคา ETH ระยะยาวที่เริ่มเคลื่อนไหวในรูปแบบ Cup and handle ซึ่งเป็นสัญญาณของขาขึ้น โดยมีแนวต้านที่ระดับ 4,000 ดอลลาร์ หากทะลุแนวต้านนี้ไปได้อาจทำให้ ETH ขึ้นทำจุดสูงสุดใหม่ที่ 6,000 ดอลลาร์
3 factors that can send Ethereum price to 100% gains in Q4
Ethereum’s native token, Ether (ETH), has the potential to double its market valuation in the coming months, thanks to a confluence of supportive technical and fundamental indicators.
Ether-Bitcoin correlation against rising U.S. inflation
Speculators tend to treat Bitcoin as a hedge against inflation, which explains the benchmark cryptocurrency’s latest response to the higher consumer prices in the United States.
Meanwhile, Ether’s 30-day average correlation with Bitcoin sits near 0.89, as per data from CryptoWatch, which resulted in ETH moving almost in lockstep with BTC.
Supply squeeze
Ethereum went through a network hard fork upgrade on Aug. 5 that further raised the bullish outlook for Ether, owing to the classic law of supply and demand.
Dubbed the London hard fork, the upgrade introduced an improvement protocol, EIP-1559, that initiated the burning of a portion of Ethereum’s network fee, called the base fee. So far, EIP-1559’s activation has permanently removed 410,404 ETH (around $1.32 billion) out of active supply, as per Watch the Burn.
Cup and handle
A mix of lower supply and higher demand serves as a bullish backstop for the price of Ether. Meanwhile, more evidence for an upside breakout comes from a cup and handle pattern on Ether’s longer-timeframe charts.
Considering that the cup’s resistance level is near $4,000, a breakout from there could send ETH to above $6,000, almost double its current price.
ที่มา Cointelegraph
3.Bank of America มีมุมมองเชิงบวกต่ออนาคตของ DeFi และ NFTs
The Bank of America Corporation (BoA) ได้เปิดเผยผลการวิจัยฉบับล่าสุดที่กล่าวถึงโอกาสเติบโตของวงการคริปโทเคอร์เรนซีในภาพรวม โดยได้ไฮไลต์นวัตกรรมอย่าง Decentralized finance (DeFi) และ Non-fungible token (NFT) เป็นหลัก
ในรายงานได้กล่าวถึงมูลค่าตลาดรวมของคริปโทเคอร์เรนซี ที่ปัจจุบันมีมูลค่าสูงถึง 2.15 ล้านล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นสัญญาณว่าระบบนิเวศของคริปโทเคอร์เรนซีได้เติบโตมามากกว่า Bitcoin แล้ว
สำหรับส่วนประกอบต่าง ๆ ที่อยู่ภายในระบบนิเวศของคริปโทเคอร์เรนซี ได้แก่ เหล่า DApps ที่เป็นระบบปฏิบัติการให้ผู้ใช้สามารถทำธุรกรรมได้โดยไม่ต้องผ่านตัวกลาง เหรียญ Stablecoin ที่ผูกมูลค่ากับเงิน Fiat, CBDC (Central Bank Digital Currencies) ที่จะมาแทนที่สกุลเงินทั่วไปในอนาคต, และ NFT ที่เชื่อมต่อเหล่าแฟน ๆ กับผู้ที่พวกเชาชื่นชอบได้มากกว่าเดิม พร้อมเสริมว่า
“สำหรับพวกเรา สินทรัพย์ดิจิทัลไม่ได้เป็นแค่ช่องทางสำหรับการชำระเงินอีกต่อไป แต่พวกมันเป็นเหมือนอีกระบบปฏิบัติการทางคอมพิวเตอร์ที่ระบบหนึ่ง โดยเป็นระบบที่ทุกคนสามารถเข้าถึงได้ และมีเจ้าของระบบร่วมกันนับหลายล้านคนทั่วโลก”
Bank of America offers bullish outlook for DeFi and NFTs
The Bank of America Corporation (BoA) has published a research report offering a bullish outlook for the long-term prospects of cryptocurrency.
The report, published on Monday by BoA subsidiary, BofA Securities, offers a nuanced appraisal of the digital asset sector that highlights innovation taking place within the decentralized finance (DeFi) and nonfungible token (NFT) sectors.
The report asserts that the cryptocurrency sector’s $2.15-trillion market capitalization is “too large to ignore,” highlighting that the digital asset ecosystem has evolved to encompass “so much more” than just Bitcoin (BTC).
The report characterizes the sector as comprising “tokens that act like operating systems, decentralized applications (DApps) without middlemen, stablecoins pegged to fiat currencies, central bank digital currencies (CBDCs) to replace national currencies, and non-fungible tokens (NFTs) enabling connections between creators and fans,” adding:
“For us, digital assets are not about payments per se. They’re about a new computing paradigm — a programmable computer that is accessible everywhere and to anyone and owned by millions of people globally.”
ที่มา Cointelegraph
4.ข้อมูลชี้ Bitcoin คือสินทรัพย์ที่มีผลประกอบการที่ดีสุดปีนี้
ข้อมูลจากบริษัทด้านการลงทุน NYDIG ระบุว่า BTC ได้กลายเป็นสินทรัพย์ที่ให้ผลตอบแทนดีที่สุดในปีนี้ โดยมีผลตอบแทนอยู่ที่ 50% ในภาพรวมตั้งแต่ต้นปีจนถึงปัจจุบัน เมื่อเทียบกับสินทรัพย์ประเภทอื่น เช่น หุ้นยุโรป ที่ในภาพรวมปรับขึ้นเพียง 10.3% ในช่วงเวลาเดียวกัน
Bitcoin (BTC) is officially the best-performing asset of 2021, data now confirms.
BTC is up almost 50% this year overall, brushing aside corrections and increasingly decoupling from the macro environment in Q4.
Compared to how some other investments performed, the picture is even rosier for BTC hodlers. European stocks, for example, are up just 10.3% year-to-date this week.
ที่มา Cointelegraph
5.JPMorgan เผยนักลงทุนสถาบันเลือกถือ Bitcoin มากกว่าทองคำ
ข้อมูลจาก JPMorgan ธนาคารยักษ์ใหญ่ในสหรัฐอเมริกา ที่รวบรวมให้กับลูกค้าของธนาคาร ระบุว่าการปรับขึ้นของราคา Bitcoin เมื่อไม่นานมานี้ มีสาเหตุหลักมาจากการเข้าซื้อของบรรดานักลงทุนระดับสถาบันที่ต้องการสินทรัพย์ที่สามารถควบคุมความเสี่ยงจากภาวะเงินเฟ้อได้
โดยนักวิเคราะห์ของ JPMorgan ได้กล่าวว่า “ความกังวลเกี่ยวกับภาวะเงินเฟ้อเริ่มกลับเข้ามาในตลาดทุนอีกครั้ง ทำให้ความสนใจถือ Bitcoin เพื่อป้องกันความเสี่ยงของเงินเฟ้อเริ่มฟื้นตัวกลับขึ้นมา
และดูเหมือนว่านักลงทุนสถาบันจะให้ความสนใจ Bitcoin ในฐานะสินทรัพย์ควบคุมความเสี่ยงจากภาวะเงินเฟ้อมากกว่าทองคำ ”
Institutions buying Bitcoin rather than gold as inflation cranks up: JPMorgan
According to a note shared by JPMorgan with clients on Thursday, the recent increase in price for BTC was predominantly attributed to institutional investors looking for a hedge to inflation.
“The re-emergence of inflation concerns among investors has renewed interest in the usage of Bitcoin as an inflation hedge,” the analysts said, arguing there has been a shift in perception as to the merits of BTC in relation to gold.
“Institutional investors appear to be returning to Bitcoin perhaps seeing it as a better inflation hedge than gold”
ที่มา Cointelegraph
6.นักขุด ETH พากันถือเหรียญรวมกันมากที่สุดตั้งแต่ปี 2016
จากข้อมูลโดย Santiment มูลค่าเหรียญ ETH ที่ถูกถือครองโดยเหล่านักขุดเมื่อเทียบมูลค่ากับเงินดอลลาร์ เพิ่มสูงขึ้นสู่ระดับสูงสุดตั้งแต่ปี 2016 ที่ 1.85 พันล้านดอลลาร์ ท่ามกลางความลังเลที่จะเทขายเหรียญ
ทั้งนี้ ในเดือนที่ผ่านมา ทาง Cointelegraph เคยรายงานข่าวที่ว่าเหล่านักขุดเริ่มพากันเก็บสะสมเหรียญตามหลัง London hard fork เมื่อต้นเดือนสิงหาคม ขณะที่ผลวิจัยจาก Kraken มีมุมมองว่า นักขุดพากันถือเหรียญเนื่องจากคาดว่าราคา ETH จะเพิ่มสูงขึ้นท่ามกลางปริมาณอุปทานที่น้อยลงจากมาตรการเผาเหรียญที่มาพร้อมกับ London hard fork
Amount of ETH held by miners reaches highest level since 2016
The amount of Ethereum that is being held by miners has reached record levels in U.S. dollar terms as they remain reluctant to sell.
The balance held by Ethereum miners is the largest it has been since shortly after the network was launched five years ago. When converted into USD, it is at a historic peak of $1.85 billion, according to data provided by analytics platform Santiment.
Cointelegraph reported in September that Ethereum miners had started hoarding the asset following the London hard fork in early August. Research from the Kraken crypto exchange suggested that miners were expecting further price increases from potential deflationary properties following the launch of EIP-1559 which burns some of the transaction fees.
ที่มา Cointelegraph
ติดตามบทความ ข่าวสาร และความรู้ที่น่าสนใจในวงการคริปโตได้ที่ Bitkub Academy
เทรดเหรียญคริปโตที่คุณชื่นชอบได้ที่ https://onelink.bitkub.com/aHvr/basignup
*การลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัลมีความเสี่ยงสูง ควรศึกษาและทำความเข้าใจก่อนลงทุน
ที่มา:
Medium