บทความ
รวมข่าวรายสัปดาห์: Bitcoin เริ่มฟื้นตัวหลังเงินเฟ้อสหรัฐฯ พุ่ง, คู่แข่ง Opensea มียอดซื้อขาย NFT ทะลุ 390 ล้าน
เรารวบรวมข่าวเด่นในวงการคริปโทเคอร์เรนซีและบล็อกเชนตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา มาให้อ่านกันที่นี่แล้ว ไปดูกันเลย!
*เนื้อหาต่อไปนี้เป็นการนำข่าวสารย้อนหลังตลอดช่วง 1 สัปดาห์ที่ผ่านมาจากเว็บไซต์ต่างประเทศมาเรียบเรียงและสรุปให้เข้าใจง่าย ไม่ได้เป็นการชี้นำการลงทุนแต่อย่างใด
====================
1.ราคา Bitcoin เริ่มฟื้นตัว หลังอัตราเงินเฟ้อสหรัฐฯ แตะระดับ 7%
กระทรวงสถิติแรงงานสหรัฐฯ เผยดัชนีราคาผู้บริโภค (Consumer Price Index) เพิ่มสูงขึ้นแตะระดับ 7% ในเดือนธันวาคม สะท้อนถึงอัตราเงินเฟ้อที่เพิ่มสูงขึ้น ส่งผลให้ราคา Bitcoin ได้รับแรงหนุนจากความกังวลเกี่ยวกับภาวะเงิน และสามารถฟื้นตัวจากระดับต่ำแถว 41,000 ดอลลาร์ ขึ้นไปสู่ 44,000 ดอลลาร์ได้ ในคืนวันพุธที่ผ่านมา
หากดูกราฟอัตราเงินเฟ้อสหรัฐฯ ช่วง 10 ปีที่ผ่านมา โดย Federal Reserve หรือธนาคารกลางสหรัฐฯ จะเห็นได้ว่านับตั้งแต่วิกฤติโควิด-19 อัตราเงินเฟ้อก็เพิ่มสูงขึ้นอย่างน่าตกใจที่ 7%
Bitcoin shoots to $44,000 as US inflation hits 7% in December
The latest figures from the United States Bureau of Labor Statistics show that the Consumer Price Index (CPI) hit 7% in December 2021.
Bitcoin (BTC) was volatile prior to the announcement, fluctuating by over $2,000 from lows of $41,000 to $43,000 on Wednesday. Upon release of the figures, the price continued its upward climb, touching $44,000.
The graph for inflation from the Fed over the past 10 years is eye-opening. Since the pandemic, marked in gray, the inflation level plummeted before beginning a dizzying climb to 7%.
ที่มา Cointelegraph
====================
2.LooksRare คู่แข่ง Opensea มียอดซื้อขาย NFT ทะลุ 390 ล้านแล้ว
หลังจากเปิดตัวไปเมื่อวันที่่ 10 มกราคม ที่ผ่านมา แพลตฟอร์ม LooksRare ที่เป็นตลาดซื้อขาย NFT เหมือนกับ Opensea สามารถทำยอดซื้อขาย NFT รวมกันได้มากกว่า 394 ล้านดอลลาร์
โดย LooksRare สามารถดึงดูดลูกค้าได้จากเสนอค่าธรรมเนียมเพียง 2% สำหรับ NFT ที่ซื้อขายแบบสาธารณะ (Public) และ 0% สำหรับการซื้อขายแบบส่วนตัว (Private) เทียบกับ Opensea ที่คิดค่าธรรมเนียม 2.5% สำหรับทุกธุรกรรมซื้อขาย นอกจากนี้ LooksRare ยังมอบรางวัลให้ผู้มีส่วนร่วมซื้อขายบนแพลตฟอร์มเป็นโทเคน LOOKS อีกด้วย
OpenSea competitor LooksRare exceeds $394M in sales
Daily volume on NFT marketplace LooksRare has already exceeded $394 million following the platform’s official launch on Jan. 10.
The platform was able to bring in this customer base by offering only 2% fees on basic sales and zero fees on private sales, compared to competitor OpenSea’s 2.5% fee on every transaction. The project also allows traders to earn rewards in the form of its native LOOKS token for buying and selling NFTs.
ที่มา Cointelegraph
====================
3.Ric Edelman คาดชาวอเมริกัน 1 ใน 3 จะถือบิตคอยน์ภายในปีนี้
Ric Edelman ผู้ก่อตั้ง Edelman Financial Engines บริษัทด้านการเงินและการลงทุนในสหรัฐฯ ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าว CNBC โดยกล่าวเกี่ยวกับ Bitcoin พร้อมเผยมุมมองที่ดีต่อสินทรัพย์ประเภทนี้ว่า ภายในปี 2022 จำนวนชาวอเมริกันที่ถือบิตคอยน์จะเพิ่มขึ้นเป็น 1 ใน 3 ของประชากรในประเทศทั้งหมด
“ปัจจุบัน จำนวนคนที่ถือบิตคอยน์ในสหรัฐฯ มีอยู่ที่ ประมาณ 24% หรือเกือบ ๆ 1 ใน 4 จึงไม่ใช่เรื่องยากเลย ที่ตัวเลขนั้นจะกลายเป็น 1 ใน 3 ภายในปีนี้ เนื่องจาก Bitcoin กำลังได้รับการยอมรับจากคนหมู่มากมากขึ้น และผมมองว่ารัฐบาล บริษัท มูลนิธิ และกองทุนบำเหน็จบำนาญ ต่างจะเข้ามาลงทุนในสินทรัพย์นี้มากยิ่งขึ้น” Ric Edelman กล่าว
A third of Americans to buy Bitcoin by end of 2022, says Ric Edelman
Bitcoin (BTC) bull and Edelman Financial Engines founder Ric Edelman has made some promising predictions about the future of the seminal cryptocurrency.
In an interview on CNBC program ETF Edge on Monday, Edelman said:
“We’re already at a quarter of that number with 24% of Americans owning Bitcoin. It won’t be that much of a stretch for it to get to one-third. Bitcoin is becoming more and more mainstream. People are hearing about it everywhere — it isn’t going away.”
While 2022 has gotten off to a rocky start, in his view, governments, corporations, foundations and pension funds are investing in Bitcoin: “There is major institutional involvement.”
ที่มา Cointelegraph
====================
4.มหาเศรษฐี Bill Miller นำกำไร 50% ลงทุนใน Bitcoin
Bill Miller หนึ่งในมหาเศรษฐี ผู้ลงทุนในบริษัท Amazon คนแรก ๆ ออกมาเปิดเผยในรายการ WealthTrack ว่า เขาได้ใช้กำไร 50% เพื่อนำไปลงทุนใน Bitcoin ในช่วงที่ราคาลดลงเมื่อต้นปีนี้ Miller ยังระบุอีกว่า ตอนนี้เขาไม่ได้เป็นแค่คนจับตาดู Bitcoin อีกแล้ว แต่กลายเป็นผู้สนับสนุน Bitcoin เต็มที่
นอกจากนี้ Miller ยังมีการลงทุนในบริษัทหรือสินทรัพย์ที่เกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะเป็น Microstrategy ของ Michael Saylor, Stronghold Digital ผู้ประกอบกิจการขุดบิตคอยน์ เป็นต้น
Billionaire investor Bill Miller puts 50% of net worth in Bitcoin
Investor Bill Miller is bullish on Bitcoin (BTC) despite the cryptocurrency touching multi-month lows below $40,000 in early January 2022.
Miller no longer considers himself just a “Bitcoin observer” but rather a real Bitcoin bull, as he said in a WealthTrack interview last Friday.
The billionaire investor now holds 50% of his net worth in Bitcoin and related investments in major industry firms like Michael Saylor’s MicroStrategy and BTC mining firm Stronghold Digital Mining. An early Amazon investor, Miller owns almost 100% of the rest of his portfolio in Amazon, he noted.
ที่มา Cointelegraph
====================
5.ธุรกรรมคริปโทฯ ที่ผิดกฎหมาย มีแนวโน้มลดน้อยลง
Kim Grauer ผู้บริหารของ Chainalysis ระบุว่าสัดส่วนการใช้คริปโทเคอร์เรนซีในกิจกรรมที่ผิดกฎหมายมีแนวโน้มจะลดลงในปี 2022 นี้ ในเนื่องจากมีหน่วยงานต่าง ๆ เข้ามากำกับดูแลมากขึ้น และมีการใช้งานคริปโทฯ มากขึ้นกว่าแต่ก่อน
โดยในรายงานของ Chainalysis เมื่อวันที่ 6 มกราคม ที่ผ่านมา ระบุว่า การใช้คริปโทเคอร์เรนซีอย่างถูกต้องตามกฏหมายในปี 2021 มีสัดส่วนทิ้งห่างการใช้อย่างผิดกฏหมาย โดยการใช้ที่ผิดกฏหมายมีสัดส่วนเพียง 0.15% ของธุรกรรมทั้งหมดเท่านั้น และมีแนวโน้มที่ตัวเลขดังกล่าวจะยิ่งน้อยลงในปีนี้
The coming year is likely to see crypto related crime reduce to an ever smaller share of the overall industry as law enforcement takes greater advantage of the transparency provided by blockchain technology, says Kim Grauer, Director of Research at Chainalysis.
According to a January 6 report from Chainalysis, the growth of legitimate cryptocurrency usage is “far outpacing the growth of criminal usage.” The share of cryptocurrency transaction volume associated with illicit activity has never been lower, representing just 0.15% of transaction volume in 2021.
ที่มา Cointelegraph
====================
6.CertiK ชี้ “การรวมศูนย์” คือจุดอ่อนหลักของ DeFi
รายงานจาก CertiK ระบุว่า การรวมศูนย์ (Centralization) คือช่องโหว่หลักที่ทำให้เกิดการแฮกแพลตฟอร์ม DeFi มากถึง 44 แห่งในช่วงปี 2021ที่ผ่านมา โดยมีมูลค่าความเสียหายรวมกันสูงถึง 1.3 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งเพิ่มขึ้นกว่า 500 ล้านดอลลาร์ เมื่อเทียบปีก่อนหน้า
CertiK ได้เน้นย้ำว่า สิ่งนี้สะท้อนให้เห็นถึงความสำคัญของการกระจายศูนย์ (Decentralization) เพราะการรวมศูนย์ก็เหมือนกับการลดเป้าหมายให้แฮกเกอร์สามารถเล็งเป้ามาได้ง่ายขึ้น รวมถึงความเสี่ยงที่อาจมาจากคนใน
‘Centralization issues’ are the biggest culprits of DeFi attacks: CertiK
In a new report on the state of DeFi security in 2021, CertiK researchers said “centralization issues were the most common attack vector” within decentralized finance. The blockchain security firm cited 44 DeFi hacks totaling $1.3 billion in lost funds in 2021. That’s an increase of over $500 million compared with 2021.
“This underscores the importance of decentralization and highlights the fact that many projects still have work to do to reach this goal,” CertiK said, adding:
“Centralization is antithetical to the ethos of DeFi and poses major security risks. Single points of failure can be exploited by dedicated hackers and malicious insiders alike.”
ที่มา Cointelegraph
====================
7.dYdX เตรียมเปลี่ยนสู่การกระจายศูนย์เต็มรูปแบบ ปลายปี 2022
dYdX แพลตฟอร์มแลกเปลี่ยนคริปโทเคอร์เรนซีแบบกระจายศูนย์ (DEX) เผยโรดแมปฉบับที่ 4 ซึ่งระบุรายละเอียดว่า ทางแพลตฟอร์มจะเตรียมเปลี่ยนระบบมาเป็นระบบกระจายศูนย์เต็มรูปแบบ (Full decentralization) หรือให้ชุมชนเป็นผู้ดูแลแพลตฟอร์ม ภายในปีช่วงปลายปี 2022 นี้
ปัจจุบัน dYdX ใช้โมเดลบริหารแพลตฟอร์มแบบผสม กล่าวคือ บางระบบของแพลตฟอร์มเป็นรูปแบบกระจายศูนย์ เช่น ระบบ Staking และ Governance ขณะที่บางระบบยังแบบรวมศูนย์อยู่ โดยเฉพาะระบบที่อยู่บน Layer 2 เช่น ระบบ Order Book และระบบจับคู่ซื้อขาย ซึ่งยังมีบริษัท dYdX Trading Inc. ร่วมกับบริษัทพาร์ทเนอร์อย่าง Amazon Web Services และอื่น ๆ คอยดูแลอยู่
dYdX outline plans for full decentralization in late 2022
dYdX, the layer-two derivatives protocol, has published the fourth iteration of its roadmap detailing its intentions to evolve into an open-source, community-governed and fully decentralized exchange by the end of this calendar year.
The platform currently runs on a hybrid model whereby a portion of operations are decentralized, most notably staking and governance, while other components, such as the off-chain order book and matching engine, are managed by dYdX Trading Inc, alongside external support from a number of partnered centralized servers such as Amazon Web Services.
ที่มา Cointelegraph
====================
ติดตามบทความ ข่าวสาร และความรู้ที่น่าสนใจในวงการคริปโตได้ที่ Bitkub Academy
เทรดเหรียญคริปโตที่คุณชื่นชอบได้ที่ https://onelink.bitkub.com/aHvr/basignup
*การลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัลมีความเสี่ยงสูง ควรศึกษาและทำความเข้าใจก่อนลงทุน
ที่มา:
Medium