บทความ
“การเชื่อมต่อสะพานบล็อกเชนและเสริมสร้างระบบนิเวศในยุคดิจิทัล” — Wanchain x Bitkub.com
Bitkub.com จัดงานครั้งที่ 2 ในปี 2019 เกี่ยวกับบล็อกเชนและคริปโต ครั้งนี้มาด้วยคำถามประเด็นหลักว่า “เราสามารถข้ามจากโลกปัจจุบันไปสู่โลกดิจิทัลได้อย่างไร” เราได้จำมือพาร์ทเนอร์กับ DTAC Accelerate (หนึ่งในองค์กรสนับสนุน start-ups ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย) งานครั้งนี้มีผู้คนเข้าร่วมมากกว่า 100 คนและมีพาร์ทเนอร์มีเดียหลักๆ 6 ราย เช่น Siamblockchain, Cryptonist, Bitcoin addict เป็นต้นและครั้งนี้พาร์ทเนอร์ 4 เจ้าหลักเป็นโปรเจ็คเหรียญคุณภาพทั้งหมดกับ Bitkub.com
Noah Maizels Global Marketing Manager ของ Wanchain ได้แชร์ประเด็น “การเชื่อมต่อสะพานบล็อกเชนและเสริมสร้างระบบนิเวศในยุคดิจิทัล” ระบบของ Wanchain สามารถเชื่อมต่อบล็อกเชน, คริปโต, และแพลต์ฟอร์มสัญญาอิจฉริยะ (Smart Contract) ได้หลายรูปแบบ
การวิจัยเกี่ยวกับเทคโนโลยี Cross chain นี้เริ่มต้นขึ้นในปี 2016 และ mainnet ของ Wanchain เข้าระบบออนไลน์อย่างสมบูรณ์แบบในปี 2018 ซึ่งในตอนนี้ Wanchain รองรับการโอนธุรกรรมผ่าน Ethereum และเหรียญโทเคนย่อย ERC20 ต่างๆรวมถึง Maker, DAI, Loopring, IDEX’s Aura, BTC และอื่นๆอีกมากมาย โดยมีแผนเพิ่มเหรียญ ERC20 อยู่เรื่อยๆและพยายามที่จะเพิ่ม Public chain หลักๆเข้ามา
คุณ Noah กล่าวทึ้งท้ายไว้ว่า Wanchain ได้สร้างสะพานเพื่อเชื่อมต่อตลาดคริปโตที่ใหญ่ที่สุดในโลกเพื่อก้าวไปข้างหน้าเพื่อที่จะเป็น “Global บล็อกเชน”
“Bridging Blockchains & Empowering the New digital Economy” was discussed by Noah Maizels Global Marketing Manager of Wanchain. Noah talked about the need for a project like of Wanchain in connecting all different blockchain, cryptocurrencies, and smart contract platforms.
Research into cross chain technology began in 2016, and the Wanchain mainnet went online in 2018. In its current state, Wanchain supports cross chain transactions for Ethereum and a number of ERC20 tokens including Maker, DAI, Loopring, IDEX’s Aura, BTC and more. Support for more ERC20 tokens is continually being added, and Wanchain is currently working to support other major public chains as well. Wanchain has created an East-West bridge to connect the world’s biggest crypto markets to advance “global blockchain”.
ที่มา:
Medium