บทความ
Bitkuber Careers Growth Program เส้นทางก้าวออกจาก Comfort Zone สู่ Growth Zone เพื่อค้นหาตัวตนของ Bitkubers !
เคยไหม เข้าไปทำงานแล้วยังรู้สึกว่างานที่ตัวเองทำอยู่ยังไม่ใช่เรา
เคยไหม อยากย้ายสายงานไปทำงานที่ตัวเองไม่เคยมีประสบการณ์มาก่อน
เคยไหม อยากมองหาโอกาสใหม่ ๆ ในการทำงาน
เคยไหม อยากลองทำงานในทีมอื่น ๆ เพื่อต่อยอดความรู้และประสบการณ์ใหม่ ๆ
เราเชื่อว่าอาจจะมีหลายคนที่เข้ามาทำงานแล้ว แต่ยังค้นหาตัวตนไม่เจอ หรืออาจจะมีหลายคนที่เมื่อเข้ามาทำงานแล้วกลับรู้สึกว่างานที่ทำอยู่ไม่ตอบโจทย์ความชอบของตัวเองเท่าไหร่นัก ในที่สุดจึงลงท้ายด้วยการตัดสินใจลาออกเพื่อไปลองหางานอื่น ๆ ทำ แต่คงอดคิดไม่ได้ว่ามันจะดีแค่ไหน ถ้าหากไม่ต้องลาออกก็มีโอกาสได้ลองเข้าไปทำงานในทีมต่าง ๆ ในบริษัทเพื่อค้นหาตัวตนว่าจริง ๆ แล้วคุณเหมาะกับงานสายไหนกันแน่
ดังนั้น นี่จึงเป็นโอกาสที่ดีที่ทีม People อยากแนะนำให้ทุกท่านได้ทำความรู้จักกับ Bitkub Careers growth program โปรแกรมที่เราตั้งขึ้นมาเพื่อพัฒนาและต่อยอดองค์ความรู้ให้กับ Bitkubers ที่กำลังมองหาโอกาสและความท้าทายใหม่ ๆ ในการทำงาน การเข้าร่วมโครงการนี้ พนักงานจะได้ย้ายไปทำงานในทีมต่าง ๆ ที่ตัวเองสนใจ เพื่อค้นหาตัวตนและเรียนรู้การทำงานในทีมนั้น ๆ นอกจากนี้ยังเป็นการเปิดเส้นทางหาเวทีให้กับ Bitkubers ที่อาจไม่รู้ตัวว่าตัวเองเหมาะกับสายงานแบบไหนได้แสดงความสามารถที่ซ่อนเอาไว้
โดยเราได้คุณดนุพล เอี่ยมอ้น และคุณมาริสา วรวิวัฒน์ อีกสอง Bitkubers สุดเก่งผู้เข้าร่วม Bitkuber Careers Growth Program มาแนะนำและเล่าประสบการณ์การทำงานในโปรแกรมนี้ให้ฟังกัน มาดูกันว่าการทำงานในโปรแกรมนี้จะเป็นอย่างไร จะมีความท้าทายและความประทับใจอะไรเกิดขึ้นบ้างในระหว่างเส้นทางการค้นหาตัวตนครั้งนี้ ถ้าพร้อมแล้ว ไปอ่านกันเลย!
แนะนำตัวเองให้เรารู้จักกันมากขึ้น
ไนท์: สวัสดีครับผมชื่อ ไนท์ ดนุพล เอี่ยมอ้น จบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตหาดใหญ่ คณะวิทยาการจัดการ สาขาการจัดการโลจิสติกส์ ปัจจุบันทำงานที่ Bitkub มาแล้วประมาณ 2 ปี ครับ
โบว์: สวัสดีค่ะ โบ มาริสา วรวิวัฒน์ หรือ ยบ. หรือ ยัยโบประจำทีม Operations สองทุ่ม หรือ ชีโบประจำทีม People Partner และ BitBow ประจำทีม Business initiatives เองค่ะ
เส้นทางการทำงานก่อนจะเข้าร่วมโครงการ Bitkub Careers Growth Program ทำอะไรกันมาบ้าง
โบว์: โบเข้า Bitkub ตั้งแต่วันที่ 5 เดือน 5 ปี 64 เลขจำง่ายเลยจำได้แม่นเลยค่ะ เข้ามาในตำแหน่ง Operations associate หรือเรียกสั้น ๆ ว่า Ops เราเป็นสายนอนดึกอยู่แล้ว เลยเลือกอยู่ Night shift เริ่มงานตอนสองทุ่มและเลิกตีห้ารอพระอาทิตย์ขึ้นก่อนถึงจะเข้านอนค่ะ หน้าที่หลักๆของ Ops ก็จะเป็นการแก้ปัญหาหลังบ้านให้กับลูกค้า ไม่ว่าจะเป็นเรื่องบัญชีที่ถูกระงับ การเปลี่ยนแปลงข้อมูลส่วนตัว การถอนเหรียญ การฝาก — ถอนเงินบาท เราจะต้องเป็นคนโทรไปคุยกับลูกค้าโดยตรง ซึ่งลูกค้าก็จะมีหลากหลายรูปแบบ ทำให้เราต้องเตรียมตัวรับมือและแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าอยู่ตลอดเวลาเลยค่ะ
ไนท์: ก่อนหน้าเข้ามาร่วมงานกับ Bitkub ด้วยตำแหน่ง Customer Support กับเป็นวิทยากรรับเชิญในการสอน Basic Trading ในบางโอกาส จากนั้นก็มีโอกาสได้เข้าไปทำงานในส่วน Market Surveillance จนได้เข้าร่วมโครงการ Bitkub Careers Growth ในปัจจุบันครับ
ทำไมถึงสนใจและเข้าร่วม Bitkub Careers Growth Program
ไนท์: คิดว่าโครงการนี้เป็นโอกาสที่ดีที่ได้เรียนรู้ การที่ได้มีโอกาสเข้าไปเรียนรู้งานในหลากหลายทีม จะทำให้เรามีโอกาสได้รับทั้งคำแนะนำ และ ความรู้จากพี่ ๆ ในทีมที่เราเข้าไปเรียนรู้ ซึ่งนับว่าเป็นสิ่งที่น่าสนใจมาก เพราะเหมือนเราได้เรียนลัดเนื่องจากพี่ ๆ ทุกคนต่างมีทั้งประสบการณ์และความสามารถที่สูงมาก ๆ
โบว์: หลังจากที่อยู่ Ops ได้ครบปีก็เริ่มอยากหาความท้าทายใหม่ ๆ และค้นหาตัวเองว่าเราเหมาะกับงานแบบไหนมากที่สุด บวกกับเป็นคนชอบเช็ค slack* อยู่ตลอดเวลา และเลื่อนไปเห็นโพสต์รับสมัครโครงการนี้พอดี เลยคิดว่าเป็นโอกาสที่ดีและเราก็อยากลองทำอะไรใหม่ ๆ เลยตัดสินใจลองสมัครดูค่ะ
*หมายเหตุ: Slack คือ แพลตฟอร์มหลักที่เอาไว้ใช้สื่อสารกันภายในองค์กร
Bitkub Careers Growth Program เป็นโปรแกรมเกี่ยวกับอะไร และต้องทำอะไรบ้างถึงจะได้เข้าร่วม
โบว์: Bitkub Career Growth Program เป็นโครงการที่เปิดโอกาสให้พนักงานในบริษัท ที่อยากพัฒนาตนเอง และ อยากเรียนรู้การทำงานในแต่ละทีมของบิทคับ ได้ลองทำงานจริงในทีมที่ตัวเองสนใจเพื่อจะได้รู้ว่าในแต่ละทีมต้องทำอะไรบ้าง หน้าที่หลัก ๆ ของแต่ละทีมคืออะไร สิ่งที่เราคิดกับความเป็นจริงแล้วเหมือนหรือต่างกันอย่างไร และทีมนั้นเหมาะกับเราหรือไม่ เราสามารถเลือกทีมที่เราสนใจได้ 2 ทีม ซึ่งโบเลือกทีม People กับ Business development เพราะเราสนใจทั้งในด้านการบริหารบุคคลและธุรกิจ เราจะได้เข้าไปเรียนรู้ในแต่ละทีมเป็นระยะเวลา 3 เดือน รวม 2 ทีมก็ 6 เดือนพอดีค่ะ
ส่วนวิธีการเข้าร่วมโครงการนี้ อย่างแรกเลยคือกรอกใบสมัครบอกถึงเหตุผลที่เราอยากร่วมโครงการนี้ ทีม People จะโทรมา pre-screen เราก่อนในรอบแรก ถ้าเราผ่านรอบต่อไปก็จะเป็นการ workshop โดยจะมี case study มาให้เราวิเคราะห์และคิด solution ที่เหมาะสมและหลังจากนั้นก็ทำการพรีเซนต์ให้กับทางผู้บริหารฟัง ด่านสุดท้ายจะเป็นการสัมภาษณ์กับทีมผู้บริหาร แสดงให้เห็นว่าเรามีความตั้งใจอยากเรียนรู้และพัฒนาตัวเองจริง ๆ แล้วก็รอฟังข่าวดีจากทีม People ได้เลยค่ะ
ไนท์: Bitkub Career Growth Program เป็นโปรแกรมเกี่ยวกับการเปิดโอกาสให้ผู้เข้าสมัครได้ลองทำงานในสายงานต่าง ๆ ภายในบริษัท ผู้สมัครจะสามารถเลือกทีมที่อยากเข้าไปเรียนรู้ได้ 2 ทีม จาก 4 ทีมได้แก่ Business Strategy / Board Risk Oversight Committee / People / Marketing
ไฮไลท์สำคัญของโครงการนี้อยู่ที่การได้มีโอกาสพบเจอกับ C-level ในที่ประชุม รวมถึงสามารถขอคำแนะนำต่าง ๆ ได้อีกด้วย ซึ่งคำแนะนำจากพี่ ๆ ทั้ง C-level และ Manager level นับว่าเป็นสิ่งที่มีคุณค่ามาก เพราะช่วยให้เรามีมุมมองที่กว้างขึ้น อีกทั้งมี guideline ในการปรับปรุงตัวเองอีกด้วย
ในส่วนกระบวนการคัดเลือก ผู้ที่เข้าร่วมจะต้องผ่านการคัดเลือกจากการสัมภาษณ์ และ workshop โดยมี business case ให้เราแสดงความสามารถทั้งด้านการวิเคราะห์และการนำเสนอครับ
อะไรคือความท้าทายที่สุดในการทำงานในโครงการ Bitkub Careers Growth Program
ไนท์: ความท้าทายใน Bitkub Career Growth Program คือ ความกดดันครับ เพราะในขณะที่เรากำลังเริ่มต้นเรียนรู้สิ่งใหม่กับทีมใหม่ที่เราเข้าไปเรียนรู้งาน ทีมที่เราเคยประจำอยู่ก็มีการพัฒนาอยู่ตลอดเวลา ความรู้สึกกดดันเลยเป็นสิ่งที่คิดว่าจะต้องเกิดขึ้นกับทุกคนที่เข้าร่วมโครงการ ซึ่งมองว่าเป็นความรู้สึกที่ถ้าเราสามารถผ่านไปได้จะเป็นประสบการณ์ที่ดีมาก เพราะในวันที่เรากดดันมาก ๆ เราอาจมองไม่เห็นว่าเราจะผ่านมันไปได้ยังไง แต่สุดท้ายเราก็ผ่านมันมาได้
โบว์: สิ่งที่ท้าทายที่สุดคงหนีไม่พ้นต้องทำในสิ่งที่เราไม่เคยทำมาก่อนและสิ่งที่เราไม่ถนัด เพราะในแต่ละทีมก็จะมีลักษณะงานและรูปแบบการทำงานที่ต่างกันออกไป เราเลยจำเป็นต้องปรับตัวและลองทำในสิ่งที่เราไม่คุ้นเคย ซึ่งบางอย่างเราอาจจะมองว่ามันยากเกินไปสำหรับเรา ไม่คิดว่าจะทำได้ แต่เมื่อถึงเวลาที่จะต้องทำจริง ๆ มันก็ไม่ได้แย่อย่างที่คิดเพราะทุกครั้งก็จะมีคนคอยให้กำลังใจ แนะนำและช่วยเหลือเราอยู่ตลอด และดันหลังกันสุดแรง ทำให้เราสามารถทำงานนั้นให้สำเร็จลุล่วงได้ค่ะ
ได้เข้าไปทำงานในทีมไหนมาแล้วบ้าง มีเรื่องราวไหนที่ประทับใจจนอยากแบ่งปันให้ฟัง
โบว์: Rotation แรกของโบคือทีม People ค่ะ โบทำหน้าที่เป็น People Partner Associate หน้าที่ของเราก็จะเป็นเหมือนพาร์ทเนอร์ของพนักงานเลยค่ะ หากพนักงานมีปัญหาอยากสอบถามหรือสงสัยอะไรเกี่ยวกับบริษัทก็สามารถมาปรึกษาเราได้เลยค่ะ และยังดูแลในส่วนของกิจกรรมต่าง ๆ ให้กับพนักงาน ไม่ว่าจะเป็นงาน “Welcome back to office” , “Food Festival” , “Massage week” และที่ประทับใจที่สุดเลยก็คือ “Night shift camp” หรือกิจกรรมสำหรับพนักงานกะดึกโดยเฉพาะ เพราะเราเคยทำงานกะดึกมาก่อนทำให้ไม่ค่อยได้เข้าร่วมกิจกรรมของบริษัทที่มักจะจัดขึ้นในช่วงเวลาปกติ เลยอยากที่จะให้เพื่อน ๆ กะดึกของเราได้มีโอกาสได้ร่วมกิจกรรมของบริษัทบ้าง โบเลยจัดให้เริ่มตีสองไปเลย และโบเองก็เป็นคนดูแลกิจกรรมนี้ทั้งหมดตั้งแต่คิดเกม เตรียมอุปกรณ์ หาสถานที่ หาของรางวัล รวมไปถึงการดีลกับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง วันนั้นที่จัดกิจกรรมคือมาทำงานตั้งแต่ 10 โมงเช้าจน 6 โมงเช้าอีกวัน แต่พอเห็นเพื่อนๆทุกคนสนุกและแฮปปี้กับกิจกรรมนี้ เราก็หายเหนื่อยไปเลยดีใจมาก ๆ รู้สึกว่าสิ่งที่เราตั้งใจทำให้มันไม่ได้สูญเปล่า
ตอนนี้โบมาอยู่ Rotation ที่สองคือทีม Business development ทำหน้าที่เป็น Business initiatives associate เป็นทีมที่เราอยากเข้ามาเรียนรู้มากเพราะสนใจด้านพัฒนาธุรกิจอยู่แล้ว ทีมนี้จะเน้นไปที่การค้นคว้าและพัฒนาสิ่งที่มีอยู่แล้วและสิ่งที่ควรจะมีเพื่อให้การทำงานในบริษัทมีประสิทธิภาพมากขึ้น พร้อมทั้งหาโอกาสที่จะทำให้บริษัทเติบโตและตอบสนองความต้องการของผู้ใช้งานได้มากที่สุด สำหรับความประทับใจในทีมนี้คือเราได้มีโอกาสเข้าไปร่วมทำงานกับพาร์ทเนอร์ที่มีชื่อเสียงระดับแนวหน้าทั้งในไทยและต่างประเทศ ได้พูดคุยวางแผนธุรกิจร่วมกัน ซึ่งเป็นประสบการณ์ที่หาไม่ได้ง่าย ๆ เลยค่ะ
ไนท์: ผมได้เข้าไปเรียนรู้ในส่วนของ Risk Management / Compliance / Internal Audit / Security / PDPA ปัจจุบันกำลังเรียนรู้งานอยู่ในทีม People สิ่งที่ประทับใจ คือการได้เข้าไปมีส่วนร่วมในการทำ Process Improvement ต่าง ๆ ให้กับทางทีม Customer Support and Operation เนื่องจากเราเองก็เคยทำงานในส่วนนั้นมาก่อนทำให้มีความคุ้นเคยเกี่ยวกับระบบและโครงสร้าง ประกอบกับความรู้และประสบการณ์ที่เพิ่มขึ้น ทำให้เราเหมือนได้ทบทวนตัวเองไปด้วย เนื่องจากในสมัยที่เคยทำงานตรงนั้นเราเองก็เคยมีความคิดอยากจะพัฒนาโน่นนี่นั่นอยู่ก่อนแล้ว การได้ลงมาทำจริงจึงได้พบว่าในการทำงานจริงนั้นยังมีแง่มุมอื่นอีกที่ต้องวางแผนและคิดให้รอบด้านด้วย
สิ่งที่ได้เรียนรู้และพัฒนาตัวเองหลังจากเข้าร่วมโครงการนี้
ไนท์: เรื่องการทำงาน ทำให้ความคิดเราเปลี่ยนไปมากเลย ด้วยความที่ได้มีโอกาสเข้าร่วมประชุมกับทาง C-level การได้เห็นรูปแบบคำถามและการเตรียมข้อมูลในที่ประชุม ทำให้เราได้เรียนรู้เยอะเลยว่า เราควรต้องเตรียมตัวประมาณแบบไหน ต้องคิดละเอียดขนาดไหน ข้อมูลที่ควรมีนั้นควรมีอะไรบ้าง ซึ่งประสบการณ์ตรงนี้ช่วยให้เราเป็นคนที่คิดอย่างเป็นระบบและมีแบบแผนมากขึ้น เช่น เวลาจะทำอะไรเราจะคิดเสมอว่าถ้าเกิดต้องมีคนมาทำต่อจากเรา จะต้องทำอย่างไรถึงเข้าใจง่ายที่สุดและทำให้งานเดินต่อได้รวดเร็วที่สุด
โบว์: สิ่งที่ได้เรียนรู้หลังจากเข้าร่วมโครงการนี้คือ เราต้องรู้วัตถุประสงค์ของสิ่งที่เรากำลังจะทำ เราจะได้ไม่เสียเวลาหรือหลงประเด็น บางทีอาจจะมีความคิดหรืออุปสรรคมากมายที่เกิดขึ้นมาระหว่างทางจนทำให้เราลืมไปว่าสิ่งที่ต้องการจริง ๆ แล้วคืออะไร มันอาจจะไม่ได้มีแค่วิธีเดียวเท่านั้นที่จะทำให้สามารถบรรลุวัตถุประสงค์นั้นได้ หรือสิ่งที่เรากำลังทำอยู่นั้นอาจจะไม่ได้ช่วยให้สามารถบรรลุวัตถุประสงค์ได้เลย เราจึงควรที่จะ keep in mind อยู่ตลอดว่าเรากำลังทำเพื่ออะไร และอีกอย่างที่สำคัญคือ เราต้องรู้ว่าเรากำลังพูดอยู่กับใคร คนนั้นอยากได้ยินอะไรจากเรา เพื่อให้การสื่อสารนั้นมีประสิทธิภาพและตรงประเด็นที่สุด เช่น ผู้บริหารไม่ได้อยากรู้ว่ามีปัญหาอะไรเกิดขึ้นบ้าง แต่อยากรู้ว่าเราจะแก้ปัญหาและทำอย่างไรเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดปัญหานี้ขึ้นอีก เป็นต้นค่ะ
วิธีการปรับตัวในการทำงานให้เข้ากับทีมใหม่ เพื่อนใหม่ที่เพิ่งมีโอกาสได้ร่วมงาน
โบว์: แน่นอนว่าแต่ละทีมมีวัฒนธรรมและรูปแบบการทำงานที่ไม่เหมือนกันอยู่แล้ว เพราะแต่ละทีมมีสิ่งที่ต้องโฟกัสไม่เหมือนกัน ซึ่งเราก็ต้องปรับตัวให้เข้ากับสังคมที่เรากำลังอยู่ด้วย โบคิดว่าสิ่งนี้เป็นธรรมชาติของมนุษย์อยู่แล้วในการเรียนรู้ที่จะปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์ต่าง ๆ เริ่มจากสังเกตว่าในทีมกำลังทำอะไรกันอยู่ เราพอจะช่วยอะไรได้บ้าง สอบถามหรือแสดงความคิดเห็นเพื่อที่จะได้มีส่วนร่วมกับทีม ไม่ใช่เฉพาะแค่เรื่องงานอาจจะเป็นเรื่องทั่วไป ชอบกินอะไร บ้านอยู่แถวไหน เรียนที่ไหนมา หาเรื่องที่จะทำให้ทั้งเราและเขาสามารถที่จะต่อบทสนทนาไปได้เรื่อย ๆ ยิ่งถ้าอายุเท่า ๆ กันจะคลิ๊กกันง่ายมาก ซึ่งจริง ๆ แล้วทุกคนในทีม People และทีม Business developmen น่ารักมาก ๆ ต้อนรับและก็พยายามปรับตัวเข้าหาเราเหมือนกัน ทำให้ไม่ว่าจะไปอยู่ทีมไหนก็สนุกและมีความสุขมากค่ะ
ไนท์: เทคนิคที่มักจะใช้ คือทำการบ้านว่าทีมที่ไปเรียนรู้ทำเกี่ยวกับอะไร มีหน้าที่รับผิดชอบอย่างไร ถ้าให้รวบรัด คือเราควรรู้เกี่ยวกับทีมนั้นในระดับที่ค้นหาใน google ได้ ซึ่งสิ่งที่เราไปค้นหา เราสามารถนำไปเป็นหัวข้อชวนคุยเพื่อเปิดบทสนทนาได้อีกด้วย
ความประทับใจในการทำงานในโครงการ Bitkub Careers Growth Program
ไนท์: ความประทับใจในการเข้าร่วมโครงการ คือ การมีโอกาสได้ลองทำงานจริง โดยมีบรรดาพี่ๆ ระดับ manager level ไปจนถึงระดับ C-level คอยให้ทั้งคำปรึกษาและคำแนะนำ ทำให้เราเรียนรู้ได้เร็วขึ้นมาก มากไปกว่านั้น ยังมีคำแนะนำอื่น ๆ ที่มากกว่าเรื่องงานอีกด้วย เช่น การพัฒนาสกิลอื่นเพิ่มเติมหรือกิจกรรมอื่น ๆ ที่น่าสนใจและมีประโยชน์กับเราทั้งในทางตรงและทางอ้อม
โบว์: ความประทับใจคงจะเป็นการได้ลองทำในสิ่งที่ไม่เคยทำและคงไม่มีโอกาสได้ทำ ถ้าไม่ได้เข้าร่วมโครงการนี้ ไม่ว่าจะเป็นการพูด onboard เพื่อแนะนำเกี่ยวกับการใช้ชีวิตใน Bitkub ให้พนักงานใหม่ฟัง ติดต่อกับพาร์ทเนอร์เจ้าดังระดับโลก มีส่วนร่วมในการวางแผน business model ของบริษัท โอกาสในการทำงานร่วมกับพี่ ๆ ระดับผู้บริหารและคนเก่ง ๆ ในบริษัท ที่สำคัญคือการได้รู้จักกับพี่ ๆ เพื่อน ๆ น้อง ๆ ในหลาย ๆ ทีม ซึ่งทุกคนเก่งมาก เราได้เรียนรู้วิธีคิด วิธีการทำงาน การแก้ไขปัญหาต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น ได้รับพลังบวกในการทำงาน กำลังใจคอยเชียร์อัพกันอยู่เสมอ ยินดีและดีใจที่ได้รู้จักทุกคนมาก ๆ เลยค่ะ
สุดท้ายนี้อยากจะบอกอะไรกับคนที่อยากร่วมงานกับ Bitkub บ้าง
โบว์: ใครก็ตามที่กำลังอยากเข้ามาร่วมงานกับ Bitkub ขอบอกเลยว่านี่เป็นโอกาสในการพัฒนาตัวเองอย่างก้าวกระโดด เพราะที่นี่มีคนเก่ง ๆ มากมายที่จะให้คุณได้เรียนรู้และร่วมงานด้วย พร้อมทั้งรับฟังความคิดเห็นเสมอไม่ว่าเราจะอายุเท่าไหร่ ใครที่มีของก็เตรียมเอาออกมาโชว์กันได้เลย รับรองว่าคุณจะได้รับประสบการณ์ที่ไม่สามารถหาได้ที่ไหนแน่นอนค่ะ
ไนท์: ถ้าเป็นคนที่สนใจในการพัฒนาตนเองอยู่แล้ว ส่วนตัวมองว่า Bitkub ค่อนข้างเป็นหนึ่งในบริษัทที่เปิดโอกาสให้เราได้ลองทำ และ เรียนรู้ ได้ดีเลยทีเดียวครับ
เป็นอย่างไรกันบ้างได้ทำความรู้จักกับ Bitkuber Careers growth program ผ่าน Bitkubers ผู้เข้าร่วมโครงการกันไปแล้ว บิทคับไม่เพียงแต่สนับสนุนโอกาสให้กับบุคคลทั่วไปเท่านั้น แต่เรายังใส่ใจและซัพพอร์ตให้ Bitkubers คนเก่งของเราได้เกิดการเรียนรู้ เก็บเกี่ยวประสบการณ์ และที่สำคัญคือได้ค้นหาตัวตนและได้ทำในสิ่งที่ Bitkubers ของเรารักจริง ๆ เพราะเราคิดอยู่เสมอว่า อยากให้การทำงานที่บิทคับของทุกคนเต็มไปด้วยความสุข และ Bitkubers สามารถต่อยอดความรู้และเติบโตในสายงานที่ตัวเองรักที่จะทำได้อย่างแท้จริง
บิทคับจึงพร้อมเป็นเสมือนห้องเรียนให้ Bitkubers ทุกคนได้เข้ามาพัฒนาทั้งความสามารถของตัวเอง พร้อมทั้งร่วมขับเคลื่อนบริษัทฯ ไปด้วยกัน หากคุณเองก็อยากร่วมเป็นส่วนหนึ่งในทีมของเรา อย่าปล่อยให้โอกาสของคุณหลุดมือ สามารถเข้าไปดูตำแหน่งว่างได้ที่ careers.bitkub.com หรือ หากอยากรู้ว่าการทำงานที่บิทคับเป็นอย่างไร ก็สามารถเข้าไปกดไลค์ Facebook: Bitkub Careers หรือกดติดตาม Instagram: LifeAtBitkub ไว้ได้เลย! แล้วคุณจะไม่ลังเลที่จะสมัครเข้ามาร่วมงานกับเรา
สมัครกันเข้ามาเยอะ ๆ นะ Bitkubers ทุกคนรอร่วมงานกับคนเก่งอย่างคุณอยู่ 💚
ที่มา:
Medium