บทความ

Bitcoin กลับมายืนเหนือ 1,000,000 บาท

image

ราคา Bitcoin (BTC) ปรับขึ้นเหนือระดับ 1,000,000 บาท ในวันที่ 11 เม.ย. 66 เวลาประมาณ 06.00 น. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 10 เดือน นักวิเคราะห์มองว่าเป็นผลมาจากความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจนับตั้งแต่เกิดเหตุการณ์ Bank Run กับธนาคารรายใหญ่ในสหรัฐอเมริกาเมื่อเดือนที่ผ่านมา ประกอบกับเป็นไปได้ที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ อาจมีการเปลี่ยนแปลงแผนการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเร็ว ๆ นี้

image

ภาพจาก https://www.bitkub.com/th/market/btc เมื่อ 11 เม.ย. 66 เวลาประมาณ 06:54 น.

ไม่เพียงเท่านี้ ในวันที่ 12 เม.ย. 66 ราคา Bitcoin ก็ยังคงปรับขึ้นต่อโดยขึ้นทำระดับสูงสุดเหนือ 1,027,080 บาทโดยประมาณ ก่อนจะย่อตัวลงมาแถว 1,022,899 บาท

นักลงทุนกำลังจับตาการประกาศข้อมูลดัชนีราคาผู้บริโภค (Consumer price index: CPI) ประจำเดือนมีนาคมของสหรัฐฯ ซึ่งเป็นหนึ่งในมาตรวัดเงินเฟ้อของสหรัฐฯ โดยจะประกาศในคืนวันที่ 12 เมษายนนี้ คาดว่าจะเห็นตัวเลขลดลงสู่ระดับ 5.1% จากเดือนก่อนหน้าที่ 6.0%

หาก CPI ประกาศออกมาลดลงตามคาด เราอาจเห็นธนาคารกลางสหรัฐฯ (Federal Reserve) ติดสินใจชะลอการขึ้นดอกเบี้ยในเดือนพฤษภาคม ในทางกลับกัน หากอัตราเงินเฟ้อยังไม่มีแนวโน้มจะลดลง ก็อาจเห็นธนาคารกลางสหรัฐฯ คงการขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อไป

อ้างอิงจาก Cointelegraph ตอนนี้บรรดานักวิเคราะห์ต่างชาติมองว่าแนวต้านถัดไปคาดว่าจะอยู่แถวระดับ 32,000 ดอลลาร์ (1,098,160 บาท) เพราะระดับนี้เคยเป็นแนวรับของช่วงขาขึ้นปี 2563–2565 หากผ่านแนวต้านนี้ไปได้ ราคาก็มีแนวโน้มที่จะปรับขึ้นต่อ แต่ในกรณีที่ราคาไม่สามารถผ่านแนวต้านดังกล่าวไปได้ก็มีโอกาสที่ราคาจะย่อตัวลงมาได้ค่อนข้างเยอะ จึงต้องมีความระมัดระวังในการลงทุนช่วงนี้ด้วย

นอกจาก Bitcoin แล้ว Ethereum (ETH) สกุลเงินดิจิทัลที่มีมูลค่าตลาดสูงเป็นอันดับ 2 ของโลก ก็มีมูลค่าสูงขึ้นเช่นเดียวกัน โดยทำระดับสูงสุดที่ 64,700 บาทในช่วงเช้าวันนี้ (11 เม.ย. 66) คิดเป็นการปรับขึ้นกว่า 23% ในภาพรวมรายเดือน (จากระดับสูงสุดของวันที่ 11 มี.ค. 66 ที่ 51,782 บาท)

โดย Ethereum กำลังจะมีการอัปเกรดใหญ่เกิดขึ้นในวันที่ 12 เม.ย. 2566 นี้ (ช่วงเช้ามืดของวันที่ 13 เม.ย. 2566 ตามเวลาประเทศไทย) ในชื่อ Shapella Upgrade ซึ่งเป็นการนำชื่อของการอัปเกรดที่จะขึ้นพร้อมกันมารวมเข้าด้วยกันได้แก่ Shanghai Hard Fork ที่เป็นการอัปเกรดในระดับ Execution layer และ Capella เป็นการอัปเกรดในระดับ Consensus layer

สิ่งสำคัญที่ตลาดกำลังจับตาจากการอัปเกรดนี้คือการปลดล็อกให้สามารถถอนเหรียญ ETH ที่ผู้ใช้ Ethereum บางส่วนเคยล็อกไว้ใน Beacon Chain ก่อนหน้า The Merge ออกมาได้ จึงคาดว่าอาจมีกระทบต่อราคา ETH อย่างมีนัยสำคัญ

ไม่เพียงเท่านี้ เหรียญคริปโทเคอร์เรนซีส่วนใหญ่ก็อยู่ในโซนสีเขียว ยกตัวอย่าง ARB หรือ Arbitrum ก็ปรับขึ้นเพิ่มขึ้นมากกว่า 3% ในวันนี้ ในขณะที่ XRP ก็เพิ่มขึ้นประมาณ 1% เป็นต้น

อ้างอิง: Bitkub Blog, CoinDesk, U.Today, Cointelegraph

_________________________________________

บทความที่คุณอาจสนใจ

ทำความเข้าใจ Bitcoin คืออะไร? ภายใน 3 นาที
เงินเฟ้อคืออะไร เตรียมรับมืออย่างไรดี?

การประชุม FED คืออะไร ส่งผลกับตลาดคริปโทเคอร์เรนซีอย่างไร?

_________________________________________

คำเตือน:

*คริปโทเคอร์เรนซีและโทเคนดิจิทัลมีความเสี่ยงสูง ท่านอาจสูญเสียเงินลงทุนได้ทั้งจํานวน โปรดศึกษาและลงทุนให้เหมาะสมกับระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้

**สินทรัพย์ดิจิทัลมีความเสี่ยง โปรดศึกษาและลงทุนให้เหมาะสมกับระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้

***ผลตอบแทนของสินทรัพย์ดิจิทัลในอดีตหรือผลการดําเนินงานในอดีต มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลตอบแทน ของสินทรัพย์ดิจิทัลหรือผลการดําเนินงานในอนาคต

ที่มา:

Medium

ผู้เขียน: Waranyu Suknantee | 12 เม.ย. 66 | อ่าน: 2,058
บทความล่าสุด