บทความ
จาก เงินบาท สู่ บิทคอยน์
นานมาแล้วที่ซาโตชิได้ออก white paper มา ก่อนที่จะมีกระดานเทรดและการขุดเหมือง ในความจริงแล้วนั้นตอนนั้นยังไม่มีเรทในการแลกเปลี่ยนที่คงที่ด้วยซ้ำ แต่กลับมีโลโก้ของบิทคอยน์ขึ้นแล้ว โลโก้ตัวแรกนั้น ซาโตชิเป็นคนออกแบบด้วยตัวเอง เป็นโลโก้เหรียญที่ทำจากทอง และสลักตัวอักษร BC ประทับไว้ ก่อนปี พ.ศ.2553 ได้มีสมาคมกลุ่มเล็กๆนั้นอยากที่จะเปลี่ยนโลโก้เพื่อให้เป็น unicode เพื่อจะเป็นตัวแทนในคริปโตเคอเรนซี่
NewLibertyStandard ยังกล่าวอีกว่า “เขาได้ใช้สัญลักษณ์ ไทยบาท (฿) แทนสัญลักษณ์ของ บิทคอยน์ และ BTC เป็นอักษรย่อของสกุลเงิน” แต่ยังมีการกลัวการสับสนการใช้สกุลเงินบาท กับ บิทคอยน์ อยู่เช่นเดิม
ในวันที่ 1 พฤศจิกายน 2553 ผู้ใช้ที่ชื่อ bitboy ได้ออกแบบโลโก้ใหม่ พร้อมประทับตรา ₿ และ trademark สีขาวและสีส้ม เอียง14 องศาในทิศทางตามเข็มนาฬิกา ซึ่งกลายเป็นโลโก้ที่เราใช้กันจนทุกวันนี้
กลางปี 2554 ยังมีการโหวตกันด้วยว่าสัญลักษณ์ตัวไหนที่ควรนำมาใช้นอกเหนือจาก ฿ ซึ่งต่างก็มี β, Ƃ,และ Ƀ จนปี 2560 ถึงมี unicode ที่เป็นทางการคือ ₿ จาก bitboy
อีกเรื่องที่แปลกแต่จริง คำว่า Bitcoin นั้นไม่มีกล่าวใน whitepaper ของซาโตชิเลย มีเพียงในลิ้งค์โดเมน bitcoin.org ซึ่งการตั้งชื่อ ของ BTC, XBT, ฿ หรือ ₿ นั้นกลับไมใช่การสร้างแบรนด์แต่อย่างไร แต่เป็นการเปลี่ยนแปลงโลกนี่เอง
credit : news.bitcoin.com/bitcoin-history-part-2-the-bitcoin-symbol/
ที่มา:
Medium